พ่อปอ ออกโรงป้อง โบว์ แวนด้า ลั่นไม่มีใครคิดกำจัด อาน้ำอ้อย ชี้อย่ามองเนรคุณ

           คุณพ่อสงวน พ่อปอ ทฤษฎี เชื่อต่างฝ่ายต่างมีเหตุผล หลังมีดราม่า โบว์ แวนด้า - อาน้ำอ้อย ศรมนตรา ชี้ลูกสะใภ้มีเหตุผลที่ทำแบบนี้ ผู้น้อยเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่แล้ว

           เป็นประเด็นดราม่าเดือดที่หลายคนกำลังติดตาม สำหรับกรณีที่ โบว์ แวนด้า ภรรยาของพระเอกหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ได้ออกมาโพสต์ข้อความดราม่า พร้อมกับแจ้งเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวจาก อาน้ำอ้อย ศรมนตรา  เป็นเพื่อนสนิทของเธอเอง จน อาน้ำอ้อย ออกมาพูดตัดพ้อด้วยความเสียใจว่า ถูกกำจัดให้พ้นทาง ทำให้ฝ่ายโบว์ถูกวิจารณ์สนั่น 

           ล่าสุด (30 มกราคม 2561) คุณพ่อสงวน สหวงษ์ คุณพ่อของปอ ได้ให้สัมภาษณ์กับทางไนน์เอ็นเตอร์เทนว่า เรื่องของการทำงานพ่อไม่รู้ในรายละเอียด พ่อไม่สามารถจะพูดอะไรได้ ต่างคนต่างมีเหตุผล แต่ถามว่าเหตุผลใครจะตั้งอยู่บนข้อเท็จจริงแค่ไหน ตรงนี้สำคัญกว่า ส่วนที่โบว์โพสต์ข้อความก่อน พ่อคิดว่าโบว์ต้องคิดรอบคอบแล้ว เพราะเขาต้องรู้ว่าถ้าเขาให้ข่าวออกมาแบบนี้จะมีฟีดแบคตอบกลับมาอย่างไร จุดล่อแหลมที่สุดคือคนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงต้องมองโบว์ไปอีกแบบหนึ่ง เพราะโบว์อยู่ในลักษณะเสียเปรียบ โบว์เป็นผู้น้อยคนเลยอาจจะมองโบว์ไปในทางหนึ่ง และมองผู้ใหญ่ไปในทางหนึ่ง


           พ่อห่วงอย่างเดียวว่าคนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงจะไม่เข้าใจ เพราะเขาเป็นคนทำงานด้วยกัน เขารู้ว่าสาเหตุอยู่ตรงไหน และเขาคงรู้อะไรที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ถ้าคิดในเชิงคนนอกที่ไม่ไกลอย่างพ่อ คิดว่าโบว์มีเหตุผลที่ออกข่าวมาอย่างนี้ เพราะเขาต้องมีคำตอบที่จะอธิบายให้ประชาชนและสังคมรับรู้ ส่วนข้อเท็จจริงต่าง ๆ พ่ออยากให้คนที่อยู่ห่างคิดให้ดี ซึ่งตัวพ่อรู้แต่พูดไม่ได้ และสิ่งที่เรารู้อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ส่วนใหญ่โบว์ไม่เคยเล่าปัญหาของการทำงานให้ฟัง แต่อาจจะมีเล่าให้ฟังบ้าง ซึ่งพ่อจะไม่เข้าไปยุ่ง พ่อเคยทำมาก่อน สมัยเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ได้มีโอกาสใกล้ชิดและทำงานร่วมกันมา พ่อรู้ว่าอะไรเป็นยังไง ซึ่งไม่ใช่แค่พ่อ แต่คนที่เข้าไปสัมผัสกับงานในวงการ พ่อคิดว่าเขาพอจะรู้และเข้าใจในเรื่องที่เกิด คำตอบมีคนส่วนหนึ่งรู้กันอยู่แล้ว แฟนคลับย่อมรู้ดี คนที่เข้าไปเกี่ยวข้องในการทำงานย่อมรู้ดี


           ต้องเข้าใจโบว์อย่างหนึ่งว่า โบว์กับมะลิสร้างตัวเองขึ้นมาจากความรักความเมตตาของพี่น้องที่รักปอ โดยไม่ได้มีใครสร้างตัวของโบว์และมะลิขึ้นมา คือไม่ได้มีคนปั้นขึ้นมา เขาสร้างตัวขึ้นมาเอง เพราะฉะนั้นเขามีอิสระในการที่จะเลือก เขาไม่ได้มีอะไรที่ต้องแบกรับ พูดง่าย ๆ ว่าไม่มีเงื่อนไขที่ต้องอดทน เพราะหากมีเงื่อนไขบางอย่างก็อาจจะทำให้บางคนต้องอดทนใช่ไหม เพราะมีอย่างอื่นที่ต้องแบกอยู่ แม้ว่าสิ่งนั้นจะเลวร้าย ก็ต้องยอมเจ็บปวด แต่ว่าโบว์ขึ้นมาด้วยตัวเองกับมะลิ เราต้องให้เครดิตว่าเขาอาศัยบุญของปอที่ส่งให้โบว์กับมะลิมีวันนี้ เพราะฉะนั้นเขาย่อมมีอิสระ พ่อเชื่อว่าก่อนที่โบว์จะตัดสินใจเขาคิดหนักแล้ว คนที่ไม่รู้เรื่องมองเขาผิดได้ เพราะเขาเป็นผู้น้อย


           ส่วนที่คนมองว่าโบว์เนรคุณนั้น พ่ออยากตั้งคำถามขึ้นมาว่า คำว่าเนรคุณย่อมขึ้นอยู่กับว่าการกระทำที่มีทั้งบวกและลบ พูดอย่างนี้คงเห็นได้ชัดกว่าว่าโบว์ได้รับทั้งบวกและได้รับลบในการทำงานอย่างไร มีบวกมากไหม หรือลบมากไหม ความสมดุลระหว่างสองอย่างนี้เป็นอย่างไร และมีอะไรที่ทำให้เขาตัดสินใจอย่างนี้มากกว่า ซึ่งตัวพ่อมองอย่างนี้ เพราะทั้งหมดเป็นเรื่องของเขา และเราไม่กล้าที่จะพูด ไม่อยากให้มองในแง่ของบุญคุณเพราะเป็นช่วงเวลาไม่นาน พ่อมั่นใจในตัวโบว์มากพอสมควร และคำว่ามั่นใจในที่นี้คือมั่นใจในการตัดสินใจของเขาในเรื่องของการให้ข่าวว่าเขาคิดและช่างน้ำหนักแล้วว่า เขาจะเป็นอย่างไร คนอื่นจะเป็นอย่างไร เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงว่าใครจะพูดความจริง คนที่ยืนอยู่กับความจริงจะไม่พลาด คนที่ไม่ยืนอยู่บนความจริง ถ้ามีข่าวออกไปมาก ๆ เดี๋ยววันหนึ่งจะพลาดได้


           เรื่องไลน์หลุดอาน้ำอ้อยที่มีข้อความว่ามีคนพยายามจะกำจัดนั้น ไม่มีหรอก เขาเป็นผู้ใหญ่ขนาดนั้น มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปกำจัด ยืนยันได้เลยว่า ไม่มีใครไปกำจัด เพราะทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยกัน อย่างที่พ่อบอกว่าบวกกับลบมันเป็นอย่างไร ต้องไปช่างน้ำหนักดู เพราะทุกคนเวลาที่พูดในสถานการณ์อย่างนี้ ต้องเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรเป็นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนไม่สามารถฟันธงได้ว่าคนไหนเป็นอย่างไร เพราะทุกอย่างเกิดจากความสัมพันธ์ในการทำงาน และคงมีอะไรที่สะสมมาพอประมาณ อย่างไรก็ตามขออย่าโยงถึงเรื่องปอ เพราะลูกไปดีแล้ว

ภาพจาก Instagram vanda29

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก