สาวหน้าพังเป็นปี ผลร้ายจาก #เมจิกสกิน ถูกทักเป็นเอดส์...จนคิดฆ่าตัวตาย

           สาวตกเป็นเหยื่ือ เมจิก สกิน อยากหน้าใสแบบบิวตี้บล็อกเกอร์ สุดท้ายหน้าพังยับ ลั่นคิดฆ่าตัวตายเพราะแท็กซี่คิดว่าเป็นเอดส์

           กรณีการเปิดโปงเครือข่ายเมจิก สกิน รวมถึงทลายโรงงานผลิตสินค้าของบริษัทดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว เฟิร์น เมจิก สกิน หรือ นางวรรณภา พวงสน เจ้าของบริษัท และนายกร พวงสน อายุ 37 ปี สามี ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มาฝากขังครั้งแรก ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก และผู้ต้องหาทั้งสองได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขัง ซึ่งต่อมา ศาลอาญาได้อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เฟิร์น เมจิก สกิน และสามี ด้วยวงเงินประกันคนละ 5 แสนบาท พร้อมสั่งห้ามออกนอกประเทศ (อ่านข่าว : ศาลอนุญาตปล่อยตัว เฟิร์น เมจิก สกิน-สามี ชั่วคราว หลักประกันตัวคนละ 5 แสน)

           แน่นอนว่า จากกรณีดังกล่าว ต้องยอมรับเลยว่าสมัยนี้มีผลิตภัณฑ์สินค้า อาหารเสริม ผุดขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด มีทั้งที่ได้ใบรับรอง มีมาตรฐาน และมีทั้งเปิดโรงงานผลิตขึ้นมาเอง ไม่มีใบอนุญาต ไม่มีใบรับรองสินค้า ไม่ได้รับการการันตีจาก อย. หรือบางแห่งก็จัดการสวม อย. เองเสร็จสรรพ แล้วโพสต์ขายตามอินเทอร์เน็ต เปิดบิล-รับสมัครแม่ทีม ล่อตาล่อใจด้วยการแจกทอง รวมถึงส่งสินค้าให้ดารา เน็ตไอดอลรีวิว พร้อมกับจ่ายเงินค่าโฆษณาแพงลิบ เพื่อหวังเป็นช่องทางเรียกลูกค้าให้มาซื้อสินค้าของตัวเอง ซึ่งประชาชนที่หลงเชื่อซื้อสินค้า-ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพมาใช้ ก่อให้เกิดผลเสียตามมาอย่างร้ายแรง

           ดังเช่นกรณีของผู้ใช้ทวิตเตอร์ @pimpleloveme ที่ได้ออกมาทวีตรูปภาพใบหน้าของตัวเอง เพื่อหวังเตือนสติคนที่อยากหน้าใสให้ระวังกันด้วย ข้อความระบุ ดังนี้

           "อยากให้ทุกคนระวังกันค่ะ เราเป็นคนหนึ่งที่เคยผิวหมอง มีสิวนิดหน่อย ความอยากหน้าใสเลยซื้อเซรั่มน้ำสีชมพูของบล็อกเกอร์สายเกาคนที่ศัลย์เยอะ ๆ พอใช้ไปเพื่อนทักว่าทำไมหน้าแดง ๆ พอหยุดใช้เท่านั้นแหละ สิวขึ้นมาเต็มหน้า ทนสภาพนี้มาเป็นปี เคยอยากฆ่าตัวตายเพราะโดนแท็กซี่ทักว่าเป็นเอดส์ #เมจิกสกิน"


           ซึ่งใต้โพสต์ดังกล่าว เจ้าตัวได้เข้ามาเขียนเพิ่มเติมด้วยว่า ร้องไห้เก็บตัวอยู่ในห้องเป็นเดือน ไปมหาวิทยาลัยก็โดนคนทักเยอะมาก เสียโอกาสไปหลายอย่าง ขนาดไปฝึกงานยังได้เช็ดช้อนอยู่ในครัวเพราะเป็นสิว 1 ปีที่ผ่านมาชีวิตแย่มาก ตอนแรกเป็นสิวแค่ไม่กี่เม็ด เห็นคนรีวิวกับเจ้าของแบรนด์หน้าใสมาก เลยอยากใช้ตาม เพราะราคาหลักร้อย ถูกกว่าไปหาหมอ สุดท้ายมันไม่เห็นผลทางบวก หน้าแดงทั้งหน้า พอหยุดใช้สิวเห่อขึ้นมาเป็นกระจุก

           ส่วนการรักษา หมอบอกว่าต้องรอจนกว่าฤทธิ์ของสารเคมีจะหมด 1 ปีที่ผ่านมา หมอไม่ได้ให้ตนใช้อะไรเลย ให้แค่ใช้สบู่ล้างหน้า เพราะหมอบอกว่าผิวมันซ่อมแซมตัวเองได้ พร้อมกับบอกว่าต่อไปจะไม่ลองอะไรในอินเทอร์เน็ตอีกแล้ว

           ด้านผู้ใช้ทวิตเตอร์คนอื่น ๆ ที่เห็นข้อความดังกล่าว ต่างเข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งแนะนำให้ไปพบหมอที่สถาบันโรคผิวหนัง

ภาพและข้อมูลจาก ทวิตเตอร์ @pimpleloveme