ปนัดดา แจงแค่มีชื่อถือหุ้น แต่ไม่รู้เห็น ปมบริษัทโดนแจ้งเบี้ยวค่าตัวทีมงาน

          ลูกนัท ปนัดดา เรืองวุฒิ ยืนยัน แค่มีชื่อถือหุ้น แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมดำเนินการ หลังบริษัทโดนแจ้งความ ผลิตซีรีส์ Y แล้วเบี้ยวค่าตัวทีมงานและนักแสดง



          หลังจากที่โดนผู้กำกับซีรีส์ Y เรื่อง "Our last Day รักสุดใจ นายแฟนเด็ก" นำหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิด หลังจากมีบริษัทหนึ่งมาแอบอ้างว่าจะผลิตซีรีส์เรื่องดังกล่าว แต่ทีมงานและนักแสดงกลับไม่ได้ค่าตัว โดยบริษัทดังกล่าวได้มีชื่อของนักร้องชื่อดังอย่าง ลูกนัท ปนัดดา เรืองวุฒิ เป็นผู้ร่วมหุ้นด้วย

          โดยล่าสุด (1 สิงหาคม 2561) ลูกนัท ปนัดดา ก็ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า "ต้องเท้าความไปไกลมาก ด้วยความที่นัทเป็นเพื่อนกับหนึ่งในคณะกรรมการ ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แล้วเราก็จดทะเบียนบริษัทกันขึ้นมา ทีนี้หลังจากนั้นหุ้นส่วนทั้งหมด 3 คน นัทก็มีชื่อเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนด้วย เพราะฉะนั้น ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยค่ะ เวลาที่เขาดำเนินการอะไร ทั้งสองคนจะเป็นคนที่ดำเนินการจัดการ ไม่ว่าจะทำเรื่องงาน หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นพอถึงเวลาถ้าเกิดว่ามีงานอีเวนต์ หรือมีงานอะไรที่จะต้องใช้ชื่อแบบนี้ เราก็จะกลายเป็นหนังหน้าไฟ"

คือเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลยใช่ไหม ?

          ลูกนัท ปนัดดา : เป็นเหมือนจับพลัดจับผลูค่ะ ว่าเรามีชื่ออยู่ในบริษัท เพราะฉะนั้นเนี่ยถึงเวลาแล้ว หลังจากเขาไปดำเนินงานอะไรก็แล้วแต่ ด้วยความที่เราเป็นเพื่อนกันมานาน เราก็เกิดจากความไว้ใจ แล้วก็ยังอยู่ในบริษัทมาถึงตอนนี้

หุ้นส่วนในที่นี้ คือมีแค่ชื่ออย่างเดียวใช่ไหม ?

          ลูกนัท ปนัดดา : ใช่ค่ะ คือมีชื่ออยู่ในบริษัท แล้วก็เวลาที่เขาดำเนินการจะเป็นทั้งสองคนที่เขาคอยดำเนินการทำงานอะไรก็แล้วแต่

อยู่ในบริษัทนี้มากี่ปีแล้ว ?

          ลูกนัท ปนัดดา : 8 ปี 9 ปีแล้วมั้งคะ

แสดงว่าพี่นัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ทำซีรีส์ใช่ไหม ?

          ลูกนัท ปนัดดา : เอ่อ ถ้าเกี่ยวก็คือเกี่ยวในเรื่องของความที่มีชื่ออยู่ในบริษัท



แต่ว่าไม่ได้เป็นคนร่วมดำเนินการด้วยใช่ไหม ?

          ลูกนัท ปนัดดา : ใช่ค่ะ คือจะมารู้ช่วงที่เขาดำเนินการไปแล้ว ช่วงที่มีปัญหาแล้ว เอางี้ดีกว่าเราไม่พูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ก็แล้วกันนะคะ เอาเรื่องล่าสุดที่มันเกิดขึ้นก็แล้วกัน เอ่อ พอได้มารู้อีกทีนึง คือตอนแรกเราพยายามจะ คือเราได้มีบทเรียนก่อนหน้านี้อยู่แล้ว แต่ทีนี้มันมีเรื่องของความที่ ความเกี่ยวข้องต่อเนื่องกับการที่เขาไปรับงานไว้ก่อนแล้ว น่าจะไปรับงานไว้ต่อเนื่อง มันก็เลยทำให้นัทยังมีชื่อต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ มาจนถึงวันนี้นี่แหละค่ะ

จริง ๆ พี่นัทมีเรื่องลายเซ็นอะไรที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับ 2 คนนี้ไหม ?

          ลูกนัท ปนัดดา : โอ้ ! ถ้าเป็นเรื่องตรงนี้เนี่ย รู้สึกว่ามันจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการว่าถึงคดีความ นัทไม่น่าจะสามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องคดีความได้มากนัก

ก่อนหน้านี้เราได้ผลประโยชน์อะไรกับบริษัทไหม

          ลูกนัท ปนัดดา : ไม่เคยค่ะ

เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้ว ทำไมเราถึงยังไม่ตัดชื่อออกจากตรงนี้เลย

          ลูกนัท ปนัดดา : อย่างที่บอกเขาน่าจะรับงานเอาไว้ต่อเนื่องกันมา ชื่อนัทก็เลยยังมีความต่อเนื่องกันมา แล้วก็ตามที่ศึกษามา คือเราเอาชื่อออกจากการเป็นกรรมการ แต่ว่ายังไงก็ยังมีหุ้นส่วน เพราะว่าการจดทะเบียนบริษัทมันจะต้องมีกี่คน ๆ ก็แล้วแต่ เพราะฉะนั้นก็ยังไปไหนไม่ได้ แล้วก็ด้วยความที่ว่าเราก็ไว้ใจ ที่เป็นเพื่อนกันมาด้วย เราก็พยายามที่จะเป็นกำลังใจให้เขาในการที่เขาแก้ปัญหา ให้เขาแก้ปัญหาให้ผ่านไปทีละจุด ๆ ทีละเปลาะ ๆ แต่ว่าอย่างที่บอก น่าจะเป็นงานที่เขารับเอาไว้ต่อเนื่องแล้ว เพราะส่วนใหญ่แล้วทั้งสองคนจะเป็นคนที่ดำเนินการ เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร

อย่าง มิส โกลบอล เราก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเหมือนกัน ?

          ลูกนัท ปนัดดา : ไม่มีเลยค่ะ

แล้วถ้ามีการฟ้องเรื่องเกิดขึ้นเราจะโดนด้วยไหม ?

          ลูกนัท ปนัดดา : อย่างที่บอก ถ้ามันเป็นเรื่องการฟ้องร้องเรื่องของคดีความ นัทไม่น่าจะพูดอะไรได้มาก เพราะว่า ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย เขาน่าจะมีการดำเนินการ เตรียมการอะไรของเขากันอยู่ ซึ่งนัทก็พูดทางฝั่งนี้ไม่ได้ ฝั่งเอ ฝั่งบี พูดไม่ได้ทั้ง 2 ฝั่งเลย เพราะว่าเราไม่ได้รับรู้ของทั้งฝั่งไหนเลย คือมารู้แค่ตอนที่ว่ามีปัญหาแล้ว

แล้วทางฝั่งเพื่อนว่ายังไงบ้าง ?

          ลูกนัท ปนัดดา : สิ่งที่บอกคือ ฉันจะทำยังไงที่จะสามารถปกป้องชื่อเสียงของเราได้บ้าง เราอาจจะไม่ได้เป็นคนที่โด่งดัง ดีเด่นมากในวงการบันเทิง แต่ว่าเราก็อยู่มานานแล้ว มีที่อยู่ในวงการบันเทิงที่เล็ก ๆ ตรงนี้ของนัทมานานแล้ว เราก็ไม่อยากจะให้สิ่งที่เราทำ ๆ มา แฟนคลับอะไรที่เขาชื่นชมในตัวเรา มองเราไปในทางที่ไม่ดี เราก็พยายามจะถามเขาว่า เขาพยายามจะทำอะไรปกป้องชื่อเสียงอะไรตรงนี้ให้เขาได้บ้าง สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้ ก็พยายามจะแก้ปัญหาในวิธีของเขาอยู่ เราก็เฮ้อ !

หลังจากนี้จะขอถอนชื่อออกมาจากบริษัทเลยไหม ?

          ลูกนัท ปนัดดา : อย่างที่บอกคือนัทถอนจากการเป็นกรรมการค่ะ เพราะจริง ๆ แล้ว ถึงมีนัทอยู่เป็นกรรมการ นัทก็ไม่ได้ตัดสินใจอะไร ไม่ได้มีส่วนจะไปรับรู้อะไรกับเขาเลย เพราะว่ามันไม่ได้มีการประชุมกันว่าจะดำเนินการอะไรยังไง แต่ว่าสุดท้ายแล้ว เราก็ต้องประชุมกันอย่างจริงจังทั้ง 3 คน ว่าสุดท้ายแล้วจะจัดการตรงนี้ยังไงบ้าง เพราะว่าจะว่าไปผู้เสียหายมันไม่ใช่แค่คนนอกบริษัทแล้ว เราก็อยากจะ นัทไม่อยากให้คนภายนอกเข้าใจผิดว่า เฮ้ย เอาจริง ๆ ไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพราะว่าทุกคนอยากจะทำงาน อยากจะให้งานสำเร็จลุล่วง แต่พอเกิดปัญหาขึ้นแล้วเนี่ย คนทุกคนจะมีวิธีบริหารจัดการว่าจะทำยังไงบ้างให้ทุก ๆ คนได้รับผลเสียน้อยที่สุด

แบบนี้จะถึงขั้นเสียเพื่อนเลยไหม ?

          ลูกนัท ปนัดดา : ยังพยายามที่จะให้กำลังใจเขาอยู่นะคะ ในการที่เขากำลังแก้ปัญหา เพราะว่าสุดท้ายแล้ว ด้วยความที่เราเหมือนคบกันมานาน รู้จักกันมานาน ถึงแม้ว่าเรื่องการงานเราไม่ได้รับรู้นะคะว่าเขาทำอะไรมายังไง แต่พอมีปัญหาขึ้นมาแบบนี้ เราก็ต้องดูเจตนาของเขาด้วยว่าเขามีเจตนาที่จะแก้ปัญหาแบบไหน เพราะว่าสุดท้ายเราก็เป็นหนึ่งในนั้น มีชื่ออยู่ในนั้น


คือตอนนี้เขาก็กำลังแก้ปัญหาอยู่ใช่ไหม ?

          ลูกนัท ปนัดดา : ใช่ค่ะ เท่าที่คุยกัน เขาพยายามแก้ปัญหาอยู่ เขาพยายามที่จะรีบเคลียร์ปัญหาให้จบ แล้วเราค่อยมาคุยกันว่าจะทำยังไงกับจุดยืนของนัท ที่มันคาราคาซังอยู่ในบริษัท

ทางนั้นได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการฟ้องร้องบ้างหรือยัง ?

          ลูกนัท ปนัดดา : ตอนนี้ยังนะคะ

หลังจากนี้บริษัทเราต้องปิดตัวลงเลยไหม หรือยังมีโปรเจกต์อะไรค้างอยู่ ?

          ลูกนัท ปนัดดา : นั่นสินะ มีไหมนะ มีค้างอยู่บ้างไหมนะ ถ้า เอาเป็นว่าขอให้แก้ปัญหาที่มันผ่าน ๆ มา ให้มันเสร็จก่อนค่ะ พอแก้ปัญหาตรงนี้เสร็จ นัทหวังว่าเขาก็จะเคลียร์ชื่อของเขา เราก็จะได้เคลียร์ทั้งชื่อของเรา เคลียร์ทั้งชื่อเคลียร์ทั้งความรู้สึก เพราว่าคือที่ผ่านมา นัทอยู่ด้วยความที่เป็นเพื่อน แล้วก็ไว้ใจ แล้วเราเหมือนเป็นหนังหน้าไฟ คือเราอยู่ข้างหน้า เราก็พยายามแล้ว ที่จะแบบว่าดี ๆ นะ

ตอนนี้มีปรึกษาทนายบ้างหรือยัง ?

          ลูกนัท ปนัดดา : มีอยู่ค่ะ เพราะว่ามีเรื่องของอะไรแบบนี้ เราก็จะต้องคิดว่าสิ่งที่เราควรจะทำที่ดีกับเราที่สุดมันคืออะไร เพราะว่าบางทีถ้าเกิดว่าเราเหมือนกับคิดในองค์รวมมาจนถึงป่านนี้ แต่ถ้าองค์รวมมันไม่แข็งแรงพอ หรือเกิดปัญหาขึ้น เราก็ต้องคิดแก้ปัญหาของตัวเองเอาไว้ด้วย

แล้วอย่างตัวเงินที่เขาต้องแก้แต่ละจุด เขาได้ปรึกษาไหม ?

          ลูกนัท ปนัดดา : คือเท่าที่ทราบเขาพยายามจะแก้ปัญหาอยู่ พยายามจะหาเงิน พยายามจะแก้ปัญหาอยู่ ทราบเท่านั้นจริง ๆ

หลังจากนี้จะพาเพื่อนมาตั้งโต๊ะแถลงเลยไหม ?

          ลูกนัท ปนัดดา : ตอนแรกเขาบอกเขาจะมานะคะ ตอนแรกเขาจะแถลงเหมือนกัน แต่เขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะตอนนั้นนัทพยายามจะบอกเขาแล้วว่าอย่างน้อยซัพพอร์ตเรานิดนึง แต่ว่าการที่เขายังไม่ออกมาอะไร เขาอาจจะกำลังจัดการอะไรของเขาอยู่


ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN