เบนซ์ เรซซิ่ง พูดครั้งแรกสถานะกับ แพท ณปภา ยังไม่ชัดเจน - ดีใจ น้องเรซซิ่ง จำพ่อได้

          เบนซ์ เรซซิ่ง พูดครั้งแรกถึงความสัมพันธ์กับ แพท ณปภา เผยยังไม่ว่างคุยกันเรื่องนี้ รอเวลาฝ่ายหญิงว่างคุยกันอีกครั้ง

          เรียกว่าเป็นโมเมนต์ที่หลายคนรอคอยจริง ๆ สำหรับครอบครัวของนักแสดงสาว แพท ณปภา หลังสามี เบนซ์ เรซซิ่ง ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำกว่า 1 ปี 3 เดือน และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวออกมาชั่วคราว ซึ่งก็ทำให้แฟน ๆ ได้เห็นภาพครอบครัวกลับมาพร้อมหน้าอีกครั้ง 3 คน พ่อแม่ลูก และยิ่งได้เห็น น้องเรซซิ่ง เข้ากับคุณพ่อได้ดีมาก ๆ แม้ห่างกันไปเป็นปีก็ยิ่งทำให้แฟน ๆ ชื่นใจ

          ล่าสุด (24 กันยายน 2561) หนุ่มเบนซ์ ก็ได้ออกมาเปิดใจหลังกลับมาใช้ชีวิตพร้อมหน้าครอบครัวผ่านรายการ APOP บันเทิง 34 ทางช่อง อมรินทร์ ทีวี โดยเจ้าตัวได้พูดถึงเรื่องที่เพิ่งเข้าโรงพยาบาลว่า เพิ่งไปตรวจเช็กสุขภาพ เพราะไม่รู้ว่า 1 ปี 3 เดือน ที่อยู่ในเรือนจำ จะมีโรคภัยไข้เจ็บติดออกมาหรือเปล่า ซึ่งทุกอย่างก็ออกมาปกติ ที่เป็นปัญหาก็คงจะเป็นเรื่องการปรับตัว คุณหมอบอกว่าต้องใช้เวลา หลายคนอาจมองว่าอยู่ในเรือนจำ 1 ปี 3 เดือน ดูแป๊บเดียว คนข้างนอกอาจจะดูไม่นาน แต่คนข้างในรู้สึกยาวนาน ซึ่งตอนนี้ที่ออกมาได้เกือบ 1 เดือน สภาพจิตใจก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ 3 วันแรกที่ออกมา คือกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เนื่องจากตอนที่ตนอยู่ข้างใน ต้องกินเป็นเวลา นอนเป็นเวลา

          ส่วนกับลูกชาย น้องเรซซิ่ง ที่หลายคนอยากรู้ว่าจำได้ไหมว่าเป็นพ่อ หนุ่มเบนซ์ ก็เผยด้วยความภาคภูมิใจว่า ตอนที่เจอกัน น้องเรซซิ่ง ก็เรียกตนเลยว่า ป๊ะป๋า ๆ ทำเอาตนน้ำตาจะไหล เพราะดีใจมาก ๆ ถามว่ากลัวไหมว่าเขาจะจำเราไม่ได้ เบนซ์ก็เผยว่า ก่อนหน้านี้ตนก็เลี้ยงอย่างใกล้ชิดมาตลอด 3 เดือน เรียกได้ว่าผูกพันกันมาก ซึ่งตอนนี้ตนก็กำลังพยายามทดแทนที่หายไปปีกว่า ด้วยการเจอเขาให้ได้มากที่สุด

          และเรื่องที่หลายคนอยากทราบกับเรื่องความสัมพันธ์กับภรรยา หนุ่มเบนซ์ ก็เผยว่า ตอนนี้ก็นัดกันว่าวันไหนว่างตรงกัน จะนัดเจอพาลูกไปเที่ยว ตนพยายามจะหาเวลาให้ได้มากที่สุด บางทีเขารับงานคู่กับลูกที่ต่างจังหวัด ต้องนั่งเครื่องบินไป ตนก็อยากไป แต่ก็ขึ้นเครื่องบินไม่ได้ จึงหาเวลาว่าง ๆ บางทีตนก็ไปหาเขาที่บ้าน บางทีเขาก็มาหาตนที่บ้าน ส่วนความสัมพันธ์จะไปต่อไหม คือตอนนี้ยังไม่ว่างคุยเรื่องนี้กันจริง ๆ จัง ๆ เลย เพราะตนก็ต้องดูแลแม่ แม่อยู่คนเดียว เพราะคุณพ่อเสียไปแล้ว ส่วนทางบ้านเขาก็อย่างที่รู้อยู่ต้องดูแลแม่ที่ป่วยเหมือนกัน งานเขาก็เยอะ เราก็อยากแบ่งเบาภาระเขาด้วย เราก็เอาลูกมาอยู่กับเรา เราเลยคุยกันว่าเดี๋ยวเอาให้ว่างจริง ๆ ค่อยมาคุยกันอีกที

          นอกจากนี้เจ้าตัวยังพูดถึงเรื่องที่เห็นในอินสตาแกรมที่มีการเดินสายแก้บนว่า คุณแม่พยายามช่วยเหลือตนทุกช่องทาง พอตนได้ออกมาจึงต้องพากันไปแก้บน ไกลแค่ไหนก็ไป คุณแม่บนไว้หลายวัดมาก ตอนนี้ก็ยังแก้กันไม่หมด เพราะตนก็มีข้อจำกัดห้ามขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากยังต้องใส่กำไลข้อเท้าอยู่ แต่ยังไงก็ต้องไปแก้บนให้ครบ เนื่องจากตอนอยู่ข้างในก็อ่านหนังสือ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ตอนนี้จึงชอบเข้าวัดทำบุญมากขึ้น