ลำไย ไหทองคำ ประวัติ และเรื่องราวน่าสนใจของนักร้องลูกทุ่งสาวลีลาเด็ด ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการหมอลำ เจ้าของเพลงฮิตติดหูอย่าง "ผู้สาวขาเลาะ" กว่าที่ชีวิตของเธอจะก้าวมาสู่จุดนี้ บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย
ซอมเบิ่งอยู่เด้อ ถ้าหากว่าเธอ นั้นเลิกกันกับเขา... แหม่ แค่ได้ยินเพลงนี้ ก็ทำเอาใครหลายคนอยากลุกขึ้นมาเต้นกันเลยใช่ไหมล่ะคะ และเมื่อได้ยินเพลงผู้สาวขาเลาะทีไร ก็คงต้องนึกถึงเจ้าของเสียงร้องที่มีลีลาและท่าเต้นเด็ด ๆ อันเป็นเอกลักษณ์อย่าง ลำไย ไหทองคำ แน่นอน ที่สำคัญเพลงผู้สาวขาเลาะยังเป็นเพลงที่สร้างปรากฏการณ์บนยูทูบด้วยยอดวิวทะลุมากถึง 229,000,000 วิว หลังจากเปิดตัวภายใน 6 เดือน ส่งผลให้ ลำไย ไหทองคำ โด่งดังเป็นพลุแตก และขึ้นแท่นเป็นนักร้องลูกทุ่งอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ไม่ว่าจะไปทางไหนก็ได้ยินแต่เพลงผู้สาวขาเลาะเต็มไปหมด แถมยังทำให้คิวงานของหมอลำสาวยังแน่นเอี๊ยดไปจนปีหน้า ทั้งเดินสายทำงาน ร้องเพลง เป็นพรีเซ็นเตอร์ ออกรายการทีวี และเกมโชว์ต่าง ๆ
แต่กว่าจะมาเป็น ลำไย ไหทองคำ หมอลำสาวร้อยล้านวิวแบบทุกวันนี้ ขอบอกว่าไม่ง่ายเลยค่ะ เพราะเธอต้องผ่านชีวิตที่ยากลำบากมาไม่น้อยเช่นกัน วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับผู้สาวขาเลาะคนนี้ให้มากขึ้น พร้อมกับล้วงลึกประวัติส่วนตัวและเรื่องราวว้าว ๆ ของเธอกันสักหน่อย งานนี้ถ้าทุกคนได้รู้ เป็นต้องทึ่งแน่นอน...
1. ลำไย ไหทองคำ ประวัติ
ลำไย ไหทองคำ หรือชื่อเดิมว่า อ้าย สุพรรณษา เวชกามา เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2541 ปัจจุบันอายุ 19 ปี เกิดที่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ชีวิตในวัยเด็กของเธอค่อนข้างลำบากมาก เพราะครอบครัวยากจน ทำให้ทั้งหมดต้องย้ายมาหางานทำที่กรุงเทพ โดยเธอได้ช่วยยายกับแม่เดินเร่ขายลูกอม ขนม ผลไม้ ตามร้านอาหารและสถานบันเทิง มาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล และด้วยความที่ชอบร้องเพลงและชอบการแสดงออก เธอจึงเริ่มเดินสายเป็นนักร้องวงดนตรีอิเล็กโทน ตั้งแต่เรียนชั้น ป.4 ที่โรงเรียนวัดยางสุทธาราม ได้ค่าจ้างวันละ 150 บาท และไปประกวดร้องเพลงลูกทุ่งตามเวทีต่าง ๆ เพื่อหารายได้มาช่วยเหลือครอบครัว เมื่อเริ่มโตขึ้นได้ไปศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาที่วิทยาลัยนาฏศิลป ศาลายา พร้อมกับยังคงร้องเพลงลูกทุ่งและหมอลำตามงานอยู่เรื่อย ๆ จนได้พบกับ อ.ประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ ผู้ชักนำเธอเข้าสู่วงการ
2. เกือบได้ใช้ชื่อในวงการเป็น สำเพ็ง เด้งดี
รู้หรือไม่ว่า ลำไย ไหทองคำ เกือบจะไม่ได้ใช้ชื่อนี้ในวงการแล้ว โดยย้อนไปเมื่อครั้งที่เธอได้พบกับ อ.ประจักษ์ชัย ในช่วงแรก ๆ เขาได้คิดชื่อในวงการให้เธอเลือก 2 ชื่อ คือ "ลำไย ไหทองคำ" และ "สำเพ็ง เด้งดี" แต่สาวลำไยเห็นว่าชื่อสำเพ็ง ฟังดูเหมือนชื่อย่านขายของมากกว่า ทำให้คนอาจสับสน เลยตัดสินใจเลือกชื่อ "ลำไย ไหทองคำ" นั่นเอง โดยเพลงแรกของเธอที่ถูกปล่อยออกมามีชื่อว่าเพลง 17 สิเข้า ซึ่งมีท่าเต้นสุดสะเด่าที่ทำเอาเธอโดนวิจารณ์อย่างหนัก แต่ความแซ่บของเธอกลับยิ่งทำให้มีคนติดตามมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับกระแสในแง่ลบเรื่องท่าเต้นที่ไม่เหมาะสม ทำให้ถูกที่โรงเรียนตักเตือน เธอจึงตัดสินใจลาออกจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อมาทำงานอย่างเต็มที่
3. "ผู้สาวขาเลาะ" เพลงฮิตเปลี่ยนชีวิตสาวบ้านนอก
หลังจากที่เพลง 17 สิเข้า เป็นกระแสดราม่าเรื่องท่าเต้นไปได้สักพัก ในช่วงปลายปี 2559 สาวลำไยก็ได้มีโอกาสถ่ายทอดบทเพลง ผู้สาวขาเลาะ ที่แต่งโดย อาม ชุติมา ซึ่งเป็นเพลงหมอลำสนุก ๆ มีเนื้อหาพูดถึงสาว ๆ ที่ชอบเที่ยวลั้ลลา นอกจากเนื้อเพลงจะเป็นภาษาอีสานแท้ ๆ แล้ว ดนตรียังเป็นแบบหมอลำสไตล์เร็กเก้ มีความแปลกใหม่ ส่งผลให้เพลงนี้ติดหูคนฟังได้อย่างง่ายดาย กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ต แถมยังทำสถิติทะลุสองร้อยล้านวิวในเวลาแค่ครึ่งปี ทำให้ชื่อของ ลำไย ไหทองคำ เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ มีงานติดต่อเข้ามามากมาย และมีผลงานเพลงออกมาอยู่เรื่อย ๆ พร้อมกับมีโอกาสได้ไปฟีเจอริ่งกับนักร้องคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง ผู้สาวขาเฟี้ยว, เพลงขาร็อคขาเลาะ ร่วมกับ เสก โลโซ, เพลงหมอลำลงตับ ร่วมกับ เพชร สหรัตน์, เพลงสาธุ ร่วมกับ บูม บูม แคช และล่าสุดกับเพลง น้องง่ายกับอ้ายผู้เดียว ซิงเกิลช้า ๆ ซึ้ง ๆ ที่มีเนื้อหากินใจ
4. สวยขึ้นเป็นกองเพราะทำศัลยกรรม
นอกจากเรื่องราวชีวิตของ ลำไย ไหทองคำ จะผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายแล้ว เรื่องของหน้าตาและความสวยความงามของเธอนั้นก็ถือว่าพัฒนามาไกลมากเหมือนกัน เปรียบเทียบภาพ
ลำไย ไหทองคำ ก่อนเข้าวงการ กับภาพปัจจุบันนี้ เธอสวยดูดีขึ้นเป็นกอง จนหลายคนสงสัยว่า ลำไย ทำศัลยกรรมหรือเปล่า ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมายอมรับตรง ๆ ว่าเคยผ่านการศัลยกรรมจมูกมา พร้อมกับจัดฟันและดูแลตัวเองเป็นประจำ มิน่าล่ะถึงได้ดูสวยและเซ็กซี่ขึ้นมาก ๆ แถมแว่ว ๆ มาว่าเร็ว ๆ นี้เธอมีแพลนที่จะไปแก้จมูกใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิมอีกด้วย ยังไงก็ต้องรอติดตามชมกันต่อไปค่ะ
5. ร้องเต้นจนได้ดี กลายเป็นเศรษฐินีขนาดย่อม ๆ
จากเด็กสาวที่ครอบครัวยากจน ต้องลำบากทำงานมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ทุกวันนี้ ลำไย ไหทองคำ กลายเป็นเศรษฐินีขนาดย่อม ๆ ไปแล้ว หลังจากที่เพลงผู้สาวขาเลาะทำให้เธอโด่งดังมีชื่อเสียง มีงานเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย และมีเงินเก็บจำนวนหลายสิบล้าน สามารถซื้อของขวัญชิ้นพิเศษให้กับตัวเองและครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นรถหรูราคาหลายล้านให้กับตัวเอง คุณแม่ และผู้จัดการส่วนตัว อีกทั้งยังลงทุนซื้อคอนโดส่วนตัว ซื้อบ้านใหม่ให้คุณแม่ ปลูกบ้านให้คุณตาคุณยายที่ร้อยเอ็ด และสร้างบ้านใหม่ให้คุณพ่อ เพียงเพื่ออยากให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่สบาย ที่สำคัญสาวลำไยยังเปย์ของทุกสิ่งอย่างด้วยเงินสดอีกด้วย เรียกว่ารวยจริงอะไรจริงจ้า
6. ปังสุด ๆ จนได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จ
ต้องขอบอกเลยว่าเพลงผู้สาวขาเลาะนั้น ทำให้ชีวิตของสาวลำไยเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากจริง ๆ เพราะนอกจากจะสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเธอแล้ว ยังทำให้คนอื่น ๆ ได้เห็นความสามารถของเธอมากขึ้น จนทำให้ ลำไย ไหทองคำ มีโอกาสได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รางวัลศิลปินหน้าใหม่ ฝ่ายหญิงยอดนิยม จาก มหานครอวอร์ดส ครั้งที่ 14 รางวัลนักร้องลูกทุ่งหญิงยอดนิยม และเพลงลูกทุ่งยอดนิยม จากสยามดารา สตาร์ อวอร์ดส 2018 และเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็เพิ่งได้รับรางวัลนักร้องลูกทุ่งหญิงขวัญใจมหาชน จาก Maya Awards 2018 ไปครองอีกด้วย เรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีทองของสาว ลำไย ไหทองคำ จริง ๆ ค่ะ
กว่าที่ ลำไย ไหทองคำ จะมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ ต้องผ่านความยากลำบากมาตั้งแต่ยังเด็ก แต่เมื่อเธอได้มีโอกาสเข้ามาเป็นนักร้อง เธอก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะผลิตผลงานออกมาให้แฟน ๆ ได้ชมกัน ยังไงแล้วแฟน ๆ ที่รักและชื่นชอบในตัวเธอ ก็อย่าลืมเป็นกำลังใจให้เธอต่อไปด้วยนะคะ ^_^
ภาพจาก : Instagram lamyailion, เฟซบุ๊ก ลำไย ไหทองคำ, ประจักษ์ชัย ไหทองคำ
