ลำไย ไหทองคำ ประวัติ 7 เรื่องสุดว้าวของนักร้องลูกทุ่งสาวเจ้าของเพลงฮิต ผู้สาวขาเลาะ

          ลำไย ไหทองคำ ประวัติ และเรื่องราวน่าสนใจของนักร้องลูกทุ่งสาว เจ้าของเพลงฮิตติดหูอย่าง "ผู้สาวขาเลาะ" กว่าที่ชีวิตของเธอจะก้าวมาสู่จุดนี้ บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

          หากพูดถึงนักร้องลูกทุ่งหมอลำร้อยล้านวิว แฟน ๆ คงนึกถึงชื่อของ ลำไย ไหทองคำ อย่างแน่นอน เพราะนอกจากเสียงร้องและท่าเต้นอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว เพลงผู้สาวขาเลาะ ยังสร้างปรากฏการณ์บนยูทูบด้วยยอดวิวมากกว่า 200 ล้านวิว หลังจากเปิดตัวแค่เพียง 6 เดือน ทำให้สาวลำไย ไหทองคำ โด่งดังเป็นพลุแตก และขึ้นแท่นนักร้องลูกทุ่งหญิงอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย จนมีคิวงานแน่นเอี๊ยดตลอด แต่กว่าจะมีวันนี้บอกเลยว่าไม่ง่ายจริง ๆ เพราะเธอต้องผ่านชีวิตที่ยากลำบากมาไม่น้อย ว่าแล้วกระปุกดอทคอมจึงขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประวัติของผู้สาวขาเลาะคนนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ

          ลำไย ไหทองคำ มีชื่อเดิมว่า อ้าย สุพรรณษา เวชกามา เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2541 ปัจจุบันอายุ 26 ปี (ข้อมูล ณ วันที่ 4 มีนาคม 2568) เป็นชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ชีวิตในวัยเด็กของเธอค่อนข้างลำบากมาก เพราะครอบครัวยากจน ทำให้ทุกคนต้องย้ายมาหางานทำที่กรุงเทพฯ โดยเธอได้ช่วยยายกับแม่เดินเร่ขายลูกอม ขนม ผลไม้ ตามร้านอาหารและสถานบันเทิง ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล ด้วยความที่ชอบร้องเพลงและชอบการแสดงออก เธอจึงเริ่มเดินสายเป็นนักร้องวงดนตรีอิเล็กโทนตั้งแต่เรียนชั้น ป.4 ที่โรงเรียนวัดยางสุทธาราม ได้ค่าจ้างวันละ 150 บาท และไปประกวดร้องเพลงลูกทุ่งตามเวทีต่าง ๆ เพื่อหารายได้มาช่วยเหลือครอบครัว เมื่อเริ่มโตขึ้นได้ไปศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาที่วิทยาลัยนาฏศิลป ศาลายา พร้อมกับยังคงร้องเพลงลูกทุ่งและหมอลำตามงานอยู่เรื่อย ๆ จนได้พบกับ อ.ประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ ผู้ชักนำเธอเข้าสู่วงการ

          รู้หรือไม่ว่า ลำไย ไหทองคำ เกือบจะไม่ได้ใช้ชื่อนี้ในวงการแล้ว โดยย้อนไปเมื่อครั้งที่เธอได้พบกับ อ.ประจักษ์ชัย ในช่วงแรก ๆ เขาได้คิดชื่อในวงการให้เธอเลือก 2 ชื่อ คือ "ลำไย ไหทองคำ" และ "สำเพ็ง เด้งดี" แต่สาวลำไยเห็นว่าชื่อสำเพ็งฟังดูเหมือนชื่อย่านขายของมากกว่า ทำให้คนอาจสับสน เลยตัดสินใจเลือกชื่อ ลำไย ไหทองคำ นั่นเอง โดยเพลงแรกของเธอที่ถูกปล่อยออกมา ชื่อว่าเพลง 17 สิเข้า ซึ่งมีท่าเต้นสุดสะเด่าที่ทำเอาเธอโดนวิจารณ์อย่างหนัก แต่ความแซ่บของเธอกลับยิ่งทำให้มีคนติดตามมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับกระแสในแง่ลบเรื่องท่าเต้นที่ไม่เหมาะสม ทำให้ถูกโรงเรียนตักเตือน เธอจึงตัดสินใจลาออกจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อมาทำงานอย่างเต็มที่

          หลังจากเพลง 17 สิเข้า เป็นกระแสดราม่าเรื่องท่าเต้นไปได้สักพักในช่วงปลายปี 2559 สาวลำไยก็ได้มีโอกาสถ่ายทอดบทเพลง ผู้สาวขาเลาะ ที่แต่งโดย อาม ชุติมา ซึ่งเป็นเพลงหมอลำสนุก ๆ มีเนื้อหาพูดถึงสาว ๆ ที่ชอบเที่ยวลั้ลลา นอกจากเนื้อเพลงจะเป็นภาษาอีสานแท้ ๆ แล้ว ดนตรียังเป็นแบบหมอลำสไตล์เร็กเก้ มีความแปลกใหม่ ส่งผลให้เพลงนี้ติดหูคนฟังได้อย่างง่ายดาย กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ต ทำสถิติทะลุ 200 ล้านวิวในเวลาแค่ครึ่งปี และปัจจุบันมียอดวิวถึง 400 ล้านวิวเลยทีเดียว ทำให้ชื่อของ ลำไย ไหทองคำ เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ มีงานติดต่อเข้ามามากมาย และมีผลงานเพลงออกมาอยู่เรื่อย ๆ พร้อมกับมีโอกาสได้ไปฟีเจอริ่งกับนักร้องคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลง ผู้สาวขาเฟี้ยว, ขาร็อคขาเลาะ ร่วมกับ เสก โลโซ, หมอลำลงตับ ร่วมกับ เพชร สหรัตน์, สาธุ ร่วมกับ บูม บูม แคช, น้องง่ายกับอ้ายผู้เดียว ซิงเกิลช้า ๆ ที่มีเนื้อหากินใจ, เด๋อเดี่ยงด่าง, ใจสิเพ และอีกหลากหลายเพลง

          นอกจากเรื่องราวชีวิตของ ลำไย ไหทองคำ จะผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายแล้ว เรื่องของหน้าตาและความสวยของเธอนั้นก็ถือว่าพัฒนามาไกลเช่นกัน เปรียบเทียบภาพ ลำไย ไหทองคำ ก่อนเข้าวงการ กับภาพปัจจุบันนี้ เธอสวยดูดีขึ้นเป็นกอง จนหลายคนสงสัยว่า ลำไย ทำศัลยกรรมหรือเปล่า ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมายอมรับตรง ๆ ว่าเคยผ่านการศัลยกรรมจมูกมา พร้อมกับจัดฟันและดูแลตัวเองเป็นประจำ มิน่าล่ะถึงได้ดูสวยและเซ็กซี่ขึ้นมาก ๆ

          จากเด็กสาวครอบครัวยากจน ต้องลำบากทำงานมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ทุกวันนี้ ลำไย ไหทองคำ กลายเป็นเศรษฐินีขนาดย่อม ๆ ไปแล้ว หลังจากที่เพลงผู้สาวขาเลาะทำให้เธอโด่งดังมีชื่อเสียง มีงานเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย และมีเงินเก็บหลายสิบล้าน สามารถซื้อของขวัญชิ้นพิเศษให้กับตัวเองและครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นรถหรูราคาหลายล้านให้กับตัวเอง คุณแม่ และผู้จัดการส่วนตัว อีกทั้งยังลงทุนซื้อคอนโดส่วนตัว ซื้อบ้านใหม่ให้คุณแม่ ปลูกบ้านให้คุณตาคุณยายที่ร้อยเอ็ด และสร้างบ้านใหม่ให้คุณพ่อ เพียงเพื่ออยากให้ทุกคนมีความเป็นอยู่สุขสบาย แถมสาวลำไยยังเปย์ของทุกสิ่งทุกอย่างด้วยเงินสดอีกด้วย เรียกว่ารวยจริงอะไรจริง

          ต้องบอกเลยว่าเพลงผู้สาวขาเลาะนั้นทำให้ชีวิตของสาวลำไยเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก ๆ เพราะนอกจากจะสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเธอแล้ว ยังทำให้คนอื่นได้เห็นความสามารถของเธอมากขึ้น จนทำให้ ลำไย ไหทองคำ มีโอกาสได้รับรางวัลการันตีความสำเร็จมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลศิลปินหน้าใหม่ฝ่ายหญิงยอดนิยม จากมหานครอวอร์ดส ครั้งที่ 14, รางวัลนักร้องลูกทุ่งหญิงยอดนิยม และเพลงลูกทุ่งยอดนิยม จากสยามดารา สตาร์ อวอร์ดส 2018, รางวัลนักร้องลูกทุ่งหญิงขวัญใจมหาชน จาก Maya Awards 2018, รางวัลคนดีศรีอีสาน ครั้งที่ 38 โดยสมาคมสื่อมวลชนภาคอีสาน และรางวัลศิลปินฮิตติดกระแสหญิง เป็นต้น

         ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2562 นักร้องหนุ่ม ปุ้ย L.กฮ. ได้ออกมาโพสต์ว่ากำลังซุ่มคบกับลำไย ไหทองคำ มา 4 ปีแล้ว ตั้งแต่ฝ่ายหญิงอายุ 17 ปี และตนเองอายุ 26 ปี จนสร้างเสียงฮือฮาให้แฟนเพลงไม่น้อย

         ต่อมา ลำไย ไหทองคำ ได้ออกมาประกาศยุติความสัมพันธ์กับ ปุ้ย L.กฮ. ปิดฉากความรัก 9 ปี จากนั้นก็มีเพจดังออกมาโพสต์เล่านิทาน เจ้าหญิงสดใสกับเจ้าชายเงียบขรึม คบหาดูใจกันมานาน แต่วันหนึ่งเจ้าหญิงสดใสเริ่มเปลี่ยนไป เพราะรักแท้แพ้ใกล้ชิด จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ทำให้หลายคนโยงมาถึงนักร้องสาว ลำไย ไหทองคำ กับแดนเซอร์ชายในวง

         จนล่าสุด (4 มีนาคม 2568) สาวลำไยได้เคลื่อนไหวอีกครั้ง ยืนยันว่าไม่ได้มีมือที่สาม และยอมรับว่าเคยคุยกับบอส แดนเซอร์ชาย ในช่วงที่ตกลงกับปุ้ยว่าจะลองห่างกันดู ในส่วนบอสนั้นมีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็มีเหตุผลที่ทำให้ลำไยเข้าใจว่าเลิกกันไปแล้ว จนมีเหตุให้หึงหวงกันตามมา ทางด้านแฟนเก่าบอสจึงขอจบเรื่องนี้ด้วยการเรียกเงิน 10 ล้านบาทจากทางค่าย แต่ทางค่ายมองว่ามากเกินไปเลยขอจ่ายที่ 2 ล้านบาท โดยให้บอสทำงานใช้หนี้กับทางค่าย และลำไยก็จะปรับความเข้าใจกับ ปุ้ย L.กฮ. อีกครั้ง งานนี้ทำเอาแฟน ๆ ต่างส่งแรงเชียร์ให้เธอมากมาย

          กว่าที่ ลำไย ไหทองคำ จะมาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ เพราะต้องผ่านความยากลำบากมามากมาย อย่างไรแล้วแฟน ๆ ที่รักและชื่นชอบในตัวเธอก็อย่าลืมเป็นกำลังใจให้สาวลำไยต่อไปด้วยนะคะ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : Instagram lamyailion, เฟซบุ๊ก ลำใย ไหทองคำ, th.wikipedia.org