ล่าสุด (15 มิถุนายน 2562) รายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ ทีวี สัมภาษณ์ความคืบหน้าอาการป่วยของ เมฆ วินัย ไกรบุตร ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่า อธิบายไม่ถูกถึงโรคนี้ คล้ายกับเมื่อเข้าสู่วัยทอง ภูมิคุ้มกันจะตก ตนนอนดึก พักผ่อนไม่พอ อีกทั้งตนเคยโดนน้ำร้อนลวกทำให้ผิวหนังขาดเมตาบอลิซึม ซึ่งเมื่อได้รับเชื้อตุ่มน้ำพองเข้าไป จึงทำให้อาการหนัก เพราะร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมาฆ่าเชื้อเยอะเกินไป จนภูมิคุ้มกันมาทำลายผิวหนังของตน
ตั้งแต่เริ่มมีอาการ ตนไปหาหมอและรักษามาหลายรูปแบบ ทั้งยาแก้แพ้ ฉีดสเตียรอยด์ รวมถึงแพทย์แผนไทย กินยาเขียว กินน้ำใบย่านาง ดีท็อกซ์ล้างลำไส้ แต่ตุ่มก็ยิ่งเห่อ กระทั่งหาข้อมูลพบ ศ. นพ.ประวิตร อัศวานนท์ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และนำชิ้นเนื้อของตนไปตรวจ ถึงได้ทราบว่ามีเชื้อดังกล่าว ซึ่งหมอมียาแค่ 2 โดสเท่านั้น โดสละ 5 หมื่นบาท
จากนั้นตนนอนโรงพยาบาล 10 วัน ให้น้ำเกลือและยาโดสแรก รู้สึกดีขึ้น ตุ่มในช่องปากที่เคยมี จากที่กลืนน้ำลายไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ เพราะตุ่มจะแตก เลือดจะไหล ก็เริ่มกินข้าวและกลืนน้ำลายได้ และในวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน นี้ ตนต้องไปพบหมอเพื่อรับยาโดสที่ 2 และถ้าไม่หาย ก็ต้องถามหมอว่าจะรักษาอย่างไรต่อ
ตอนนี้ตนลำบาก ไปไหนไม่ได้ กลัวแผลจะติดเชื้อเพิ่ม เวลาใส่เสื้อผ้าแล้วเสื้อเสียดสีกับผิว ตุ่มก็อักเสบจนแตกเลือดไหล น้ำเหลืองไหล นอนก็ลำบากเพราะคัน นอนทับตุ่มก็แตก ทุกวันนี้ต้องเอาเจลหรือสเปรย์ใบย่านางมาทาและฉีดให้เย็น ตนเกรงใจทีมงานละครทุกคนที่ตนทำงานไม่ได้ ยิ่งบทที่รับต้องถอดเสื้อโชว์หุ่นอยู่ตลอด ทุกวันนี้ต้องอยู่แต่บ้าน อาบน้ำอุ่นแล้วล้างด้วยน้ำเกลือ ทายา กินยาเป็นสิบ ๆ เม็ด ตุ่มที่หลังตนก็ต้องซื้อเข็มมาเจาะ
ทั้งนี้ ตนคิดว่าคงเป็นบาปกรรม เป็นคราวเคราะห์ของตน คงถึงเวลาต้องชดใช้กรรม ต้องทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร คนในเฟซบุ๊กบอกแฟนเขาเคยเป็น 3 ปีถึงจะหาย แต่มันนานเกินไป ตนหวังในใจลึก ๆ ว่าขอให้ 3 เดือนหาย โดย 16 มิถุนายน เป็นวันเกิดของตน จะเป็นวันเกิดที่หนักที่สุดในชีวิต บาดเจ็บที่สุดในชีวิต จากคนที่ไม่เคยเป็นอะไรเลย จากที่เคยหุ่นดี ผิวสวย ตอนนี้เน่าทั้งตัว อยากบอกสังคมและแฟนคลับ ให้ดูแลตัวเองมาก ๆ อายุเยอะยิ่งต้องระวัง มีหลายโรคเกิดขึ้นที่เราไม่รู้ว่าคืออะไร
อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าจิตตกเป็นช่วง ๆ นั่งถอดเสื้อดูตัวเอง รู้สึกว่าคงต้องอำลาวงการบันเทิง จึงบอกกับภรรยาว่าถ้าตนทำงานไม่ไหว ให้ขายสวนปาล์มเลี้ยงลูก กระทั่งได้ดูข่าวน้องน้ำตาล เดอะสตาร์ ทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นหนักกว่าเราอีก เราเป็นแค่นี้ เราต้องสู้ ต้องหาย ขอบคุณทุกกำลังใจ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องน้ำตาลด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
