จับเข่าคุย เท่ง เถิดเทิง หนุ่มปั่นสามล้อมาเป็นตลกดัง

   


"เท่ง เถิดเทิง" ทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้ ล้วนมาไกลเกินฝัน (ทีวีอินไซต์)

              มีนักแสดงเพียงไม่กี่คน ที่แค่เอ่ยชื่อ ก็สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้แล้ว "เท่ง เถิดเทิง" ก็น่าจะเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในนักแสดงจำนวนนี้ เพราะ "ตลก" แท้ ๆ ที่ทำให้ "เท่ง เถิดเทิง" หนุ่มปั่นสามล้อ ได้ก้าวมาเป็น "เท่ง เถิดเทิง" ตลกคนดัง ที่พรั่งพร้อมด้วยชื่อเสียง และทรัพย์สิน คนเราจะแสดง "ตลก" เพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ความเป็นตลกแถวหน้าได้เหมือนทุกวันนี้ แต่เบื้องหลังความตลก คือ "กึ๋น" ที่แฝงอยู่ในตัว ที่ "เท่ง" สามารถนำมาใช้เป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จ จนถึงทุกวันนี้

งานเยอะขนาดนี้ไม่เหนื่อยเหรอ หรือยังรวยไม่พอ ?

            เท่ง เถิดเทิง : ยังครับ ไม่ใช่ยังรวยหรือไม่พอ เป็นคนไฮเปอร์อยู่บ้านก็ไม่นิ่ง คิดนู่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย หลายปีมีคนติดต่อมาให้ทำเพลง แต่ไม่ใช่แนวเรา อาจจะปล่อยเป็นซิงเกิ้ลไปก่อน หรืออาจจะมีมากกว่าสิบเพลงก็ได้ อีกอย่างที่อยากจะทำคืออยากเดินแบบ ตลกไม่มีใครเดินแบบ ต้องถามคนจัดงานว่านายแบบต้องมีซิกแพ็คหรือเปล่า (หัวเราะ)



เคยคิดจะแยกตัวจากเวิร์คพ้อยท์บ้างมั้ย ?

            เท่ง เถิดเทิง : ไม่ครับ (เสียงหนักแน่น) ชีวิตเรามันมาเกินคาดแล้ว เคยดูในละครแล้วเราคิดว่าบ้าป่าวยืนพูดคนเดียว เราเคยยืนคุยกับตัวเองในกระจกว่าชีวิตเรามันมาไกลแล้ว ต้องประคอง จากเด็กจบป.4 ปั่นสามล้อแล้วมาอยู่ตรงนี้ บางคนถามว่าพี่เท่งคิดว่าชีวิตประสบความสำเร็จหรือยัง อย่าพูดคำนี้ มันเกินที่เราคาดหวังมามากแล้ว คิดว่าเราโชคดีที่เจอคนเมตตา พี่ตา พี่จิก เสี่ยเจียง พอเรามีอย่างนี้ได้ เหมือนเราพอเพียงแล้ว เห็นลูกมีการศึกษาที่ดี เคยอยู่บ้านเช่าก็มามีบ้านหลังใหญ่ มันมองเห็นความเจริญเติบโตในครอบครัวเรา

คิดจะรับใครเข้าแก๊ง (ชะชะช่า) เพิ่มมั้ย ?

            เท่ง เถิดเทิง : ไม่ได้ปิดกั้นนะ แต่คนๆนั้นต้องมีของ อย่าง "ตุ๊กกี้" ใครจะไปคิดว่าจากเด็กคอสตูมคนหนึ่งจะมาตรงนี้ได้ อย่างหม่ำ เท่ง โหน่ง โชคดีที่แนวเราไม่ซ้ำทางกัน อยู่ด้วยกันก่อนที่จะมีชื่อเสียงอีก ถ้าจะมีไปกินนอกบ้านก็อยู่แค่สามหลังนี้เอง แต่น้อยครั้ง เพราะมันไม่ค่อยส่วนตัว การกินอาหารผมถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก บางทีชอบกินมือ คนรอบข้างอาจจะมองได้

ตอนนี้มีงานหนังเรื่องใหม่ผลงานจากฝีมือของตัวเองจริงๆ เลยเหรอ ?

            เท่ง เถิดเทิง : จริงสิครับ ก็หนัง " เท่งโหน่ง จีวรบิน " มันได้ไอเดียมาจากการที่เราชอบอ่านหนังสือพิมพ์และค่อนข้างจริงจังกับข่าว การเมือง หรือข่าวเด็กแว๊น ยิ่งพระสงฆ์เรายิ่งใส่ใจ เพราะเรานับถือศาสนาพุทธ สมัยนี้พระปลอมยังมีเลย คือเราทิฐิมากกับเรื่องนี้ อ่านข่าวพระมั่วกับสีกาอีกแล้ว ตอนพระไปเมืองนอกเราก็คิดแล้วว่าตอนอยู่บนเครื่องบินเค้าทำอะไร ก็คิดหรือพระจะขับเครื่องบิน เราก็ปิ๊งไอเดียเลยเอาปากกาขึ้นมาจด เขียนเหตุและผลว่าทำไมพระถึงมาขับเคลื่อนบินได้ พระไม่ได้เรียนขับเครื่องบินมาด้วย

เขียนคนเดียว ?

            เท่ง เถิดเทิง : คนเดียวครับ กำกับเอง เขียนบทเอง

เหนื่อยมั้ยทำคนเดียว ?

            เท่ง เถิดเทิง : เหนื่อยก็เหนื่อย แต่มันก็เป็นงานที่เราต้องรับผิดชอบ ดูโลเคชั่น อะไรหลายๆอย่าง ดูซาวน์เสียง พอเราได้ทำสิ่งที่อยากจะทำมันก็เลยหายเหนื่อย แน่นอนเป็นหนังสนุก สองคือโปรดักชั่นค่อนข้างจะใหญ่มาก เราพยายามจะลบคำสบประมาทที่ว่าหนังมีคำหยาบมันไม่น่าดู เพราะเราก็มีลูกสาว ไม่อยากให้มีหนังที่มีภาพล่อแหลม คำหยาบคาย เราอยากทำให้หนังครอบครัว กล้าพูดได้เต็มปากว่านี่คือหนังครอบครัว




ลูกสาวมีกี่คน ?

            เท่ง เถิดเทิง : คนเล็ก 9 ขวบ คนโต 10 ขวบ

ดูหวงลูกสาว ?

            เท่ง เถิดเทิง : หวงลูกสาว เป็นคนที่พูดจาเพราะกัน

เวลาลูกดูผลงานคุณพ่อล่ะ ?

            เท่ง เถิดเทิง : บอกเค้าหมดไม่ว่าจะเป็นละคร จะบอกเค้าหมด ในระหว่างที่เค้าดูเราก็ปล่อยให้เค้าดู พอพักโฆษณาเราก็อธิบายให้เค้าฟังว่านี่คือการแสดง ชีวิตจริงมันไม่มีหรอกลูกแบบนี้

อยากให้ลูกเข้าวงการเหมือนเรามั้ย ?

            เท่ง เถิดเทิง : เราอยู่วงการนี้เรารู้มาเยอะลูกสาวก็เหมือนมาทางเรา แต่เราก็ห้ามไม่ได้ ต้องยอมรับ

วางแผนอนาคตลูกไว้ยังไง ?

            เท่ง เถิดเทิง : ลูกชายคนโตไปอยู่นิวซีแลนด์มา 5 ปีเพิ่งกลับมา ส่วนคนเล็กสองคนไปสิงคโปร์ ลูกชายนี่ไม่มาทางพ่อเลย ค่อนจะติดไปทางเกาหลี ผมยาวมาเลย (หัวเราะ)





แต่ก่อนเคยเล่นหนังกับพี่โน๊ต เชิญยิ้มอย่างหลวงพี่เท่ง แต่ตอนนี้ทำไมไม่เล่นแล้ว ?

            เท่ง เถิดเทิง : ถ้าถามผมนะ ผมรับเล่นหมด งานคือเงิน เงินคืองาน แต่ส่วนหนึ่งต้องบอกว่าคิวตัวเองมีแค่นี้ สองไม่ใช่นักแสดงฟรีแลนซ์เราไม่ต้นสังกัด ก็ต้องคุยกัน เราไม่สามารถรับเองสะเปะสะปะเองได้

แล้วความสัมพันธ์กับพี่โน้ต ?

            เท่ง เถิดเทิง : เหมือนเดิม ยังกินข้าว รักกันมากเหมือนเดิม ขนาดตอนนั้นเจอพี่โน๊ตยังคุยกันเลยว่าทะเลาะกันเหรอ คุยฮาเฮกันไป

เห็นว่าหลวงพี่เท่งภาค 4 ถ้าพี่เท่งไม่ไปเล่นให้จะไม่ใช้ชื่อหลวงพี่เท่งแล้ว ?

            เท่ง เถิดเทิง : ก็แล้วแต่เค้าครับ

หนังก็ทำแล้ว ร้องเพลงก็ร้องแล้ว อยากทำละครมั้ย ?

            เท่ง เถิดเทิง : ฟังคนทำแล้วเหนื่อยมาก คือละครจะละเอียดกว่า เราถนัดหนังมากกว่า เรามองว่ามันยากไป

แล้วพี่เท่งวางบั้นปลายอนาคตไว้อย่างไร ?

            เท่ง เถิดเทิง : เคยวางไว้ว่า 60 ก็อยากจะปลดเกษียณตัวเองแล้ว อยากอยู่บ้าน ทำสวน แต่มองอีกทีก็กลัวตัวเองยังชอบชีวิตที่ยืนอยู่บนเวที ถ้ายืนอยู่บนเวทีมีความสุขมาก แค่ถ้ามีกำลังก็คงทำต่อ

ฝากทิ้งท้ายกับแฟนๆ ทีวี อินไซด์ ?

            เท่ง เถิดเทิง : ฝาก "เท่งโหน่ง จีวรบิน " ช่วงตรุษจีนนี้ด้วยนะครับ หนึ่งแน่นอนได้ความสนุกสนาน สองมีธรรมะมาเกี่ยวข้องด้วย แล้วก็ไปหาคำตอบว่าทำไมพระถึงต้องทำอย่างนั้น ทั้งๆที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่จะได้คำตอบมาว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ธรรมะสามารถขัดเกลาได้ และกล้าพูดว่านี่เป็นหนังครอบครัว ไม่มีคำหยาบโลนแน่นอน เรากำลังถ่ายทอดความเป็นจริงในแง่ของพระ

         อีกมุมหนึ่งของ "เท่ง เถิดเทิง" ที่น่าจะบ่งบอกถึงความเป็นตลกที่มี "กึ๋น" และ "สาระ"


ขอขอบคุณข้อมูลจาก



 

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก 
  วิกิพีเดีย