ณัฏฐ์ ควง นาน่า เปิดใจหลังคุณพ่อบวชอุทิศให้ญาติผู้ใหญ่ - ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อ 9 ปีที่แล้ว

แต่งงานกัน เป็นสามีภรรยากันกี่อาทิตย์แล้ว ?

          ณัฏฐ์ : 2 อาทิตย์ครับ ตั้งแต่วันที่ 25 ที่ผ่านมา

แต่หลาย ๆ คนเมาท์ว่าที่นาน่าแต่งกับณัฏฐ์ เพราะว่าหวังความรวยของเขา ?

          นาน่า : ไม่ใช่เลยค่ะ จริง ๆ เขาธรรมดาเหมือนเรานี่แหละ เขาทำงานหาเลี้ยงครอบครัว

          ณัฐฐ์ : จริง ๆ ผมไม่ได้เป็นคนรวย ผมมีใช้พอประมาณ ผมไม่ใช่คนฟุ่มเฟือยอะไร หลัก ๆ ผมถ่ายละครมันก็พอดีกับการหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวผม ถ้าถามว่ามีเงินเก็บเยอะขนาดนั้นไหม ก็ไม่ขนาดนั้น เราใช้เงินอย่างมีสติ เมื่อก่อนผมอาจจะฟุ้งเฟ้อ ซื้อรถก่อนซื้อบ้าน พอมาเจอเขา ผมรู้สึกว่าชีวิตต้องวางแผน

นาน่าอยากจะบอกคนที่เข้าใจผิดยังไงบ้าง ?

          นาน่า : น่าอยู่กับเขาเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญ

สินสอด เงิน ที่ดิน เครื่องเพชร ลือกันว่าหลายร้อยล้านบาท จริงไหม ?

          ณัฏฐ์ : ไม่จริงครับ ไม่ได้ขนาดนั้น จะบอกว่าที่ดินเราได้รับมรดกมา เหมือนผ่านมาจากอีกรุ่นสู่อีกรุ่น ซึ่งมันก็ไม่ได้มากและไม่น้อย ผมบอกเสมอว่าเราอยากให้เขาให้สมฐานะ ตระกูลเขาก็น่ารักให้เกียรติครอบครัวผมมาก แล้วก็การที่เราจะแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง เราต้องมีอะไรไปขอเขาเพื่อตอบแทนพระคุณพ่อแม่ที่เขาเลี้ยงมา

ที่สำคัญสินสอดเป็นการเก็บหอมรอมริบของณัฏฐ์เอง ?

          ณัฏฐ์ : เป็นเงินผมเอง เป็นเงินสด แล้วอย่างอื่นถ้าไม่ใช่พวกที่ดิน มันก็คือน้ำพักน้ำแรงของเรา มันก็ไม่ได้เยอะมากขนาดที่คนคิดว่าเป็นสิบล้าน เป็นร้อยล้าน มันมูลค่าหลักล้านนี่แหละ มันคือน้ำพักน้ำแรงที่เราทำมาด้วยตัวเอง มันเป็นความภูมิใจของเรา นี่คือสิ่งที่ผมมีทั้งหมดในชีวิตแล้ว ผมขอมอบให้คุณ และผมเชื่อว่าคุณจะจัดสรรปันส่วนมันอย่างดี และทำให้มันงอกเงย ผมคิดอย่างนี้นะ

เขาพูดแบบนี้รู้สึกยังไง ?

          นาน่า : นี่แหละเป็นเหตุผลที่ทำให้น่าอยู่กับเขา

เมื่อวานหรือวันก่อนที่คุณพ่อบวช คือการไปบวชนี่อุทิศบุญให้กับคุณปู่ คุณย่า แล้วผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีที่แล้วหรือเปล่า ?

          ณัฏฐ์ : ใช่ครับ คือหลวงพ่อท่านได้บอกกับผมคืนก่อนวันแต่งงาน ว่าหลวงพ่อจะทำอะไรสักอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ แต่อยากให้ทุกอย่างมันผ่านไปได้ด้วยดีก่อน แล้วเขาจะทำในสิ่งที่เขาตั้งใจ นั่นก็คือบวช แล้วก็อุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศล ให้กับคุณปู่ คุณย่า แล้วก็ผู้ที่เสียชีวิตทั้งหมด 9 ท่าน จากโศกนาฏกรรมเมื่อ 9 ปีที่แล้ว จริง ๆ มันเป็นเหตุการณ์ที่ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก แต่เมื่อมันเกิดขึ้นไปแล้ว แล้วเราผ่านเรื่องการขึ้นโรงขึ้นศาล ผ่านเรื่องของกฎหมาย จนวันนี้มันจบเรียบร้อยแล้ว ได้เคลียร์ทุกอย่าง ได้เยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งหมด มันจบแล้ว แล้วผมรู้สึกว่าเหมือนพ่อได้ยกความทุกข์ที่เขามีมาตลอด 9 ปี เขาไม่เคยพูดกับใคร ไม่เคยไปออกสื่อที่ไหน แล้วผมได้แต่เห็นแต่พูดแทนเขาไม่ได้ เหมือนเราก็อึดอัดมาตลอด เราดีใจมากที่เราเห็นเขาได้ปล่อยวางตรงนี้ แล้วก็เขายิ้มได้ เขาตั้งใจทำตรงนี้เพื่ออุทิศให้ เพราะว่าเหมือนเขาทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว การที่เราจะบวชให้ใครสักคน เราต้องตั้งใจมาก ๆ ผมเชื่อ เพราะผมเคยบวชมาก่อน ผมรู้ว่าคุณรู้สึกยังไง ก็อนุโมทนากับคุณพ่อด้วย

คุณพ่อบวชนานแค่ไหน ?

          ณัฏฐ์ : ด้วยสุขภาพของคุณพ่อที่มีโรคประจำตัวเยอะ มีเบาหวาน ความดัน แล้วก็เป็นมะเร็งอยู่ด้วย ก็อาจจะบวชไม่ได้นาน ตอนแรกตั้งใจอยากจะบวช 2 อาทิตย์ แต่ว่าบวชได้แค่ 3 วัน

หลวงพ่อป่วยเป็นมะเร็งอะไร ?

          ณัฏฐ์ : เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ตอนนี้ท่านกำลังรักษาตัวอยู่ ตอนแรกน้ำหนักลงไปเยอะ แต่ว่าท่านเลือกที่จะไม่ทำคีโม แต่จะใช้แพทย์ทางเลือกอื่น ๆ เช่น สมุนไพร อะไรแบบนี้

ณ จุดนี้เบื่อไหม ที่คนอคติ พอเห็นเรา และชื่อของเรา ?

          ณัฏฐ์ : ผมว่าผมเข้าใจมากกว่า เพราะว่าผมอยู่ในจุดที่ผ่านอะไรมาเยอะ ได้เห็นหลายรูปแบบ ผมเข้าใจว่ามนุษย์ทุกคนมีความคิด มีความอ่าน มีศีลธรรม มีอะไรต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกันเลย มันก็ไม่ใช่ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่เขาอคติ มันก็จะมีคนที่เข้าใจ แยกแยะได้ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่มีอคติกับผม แต่พอได้มาเจอ ได้คุย บางทีอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณคิดก็ได้

หลายคนมองว่า ณัฏฐ์ เทพหัสดิน เป็นเกย์หรือเปล่า ?

          ณัฏฐ์ : ก็มีคนสงสัยเยอะนะ ญาติผมเองก็สงสัยตั้งแต่เด็ก

เขาบอกชอบโชว์หุ่น ยั่วเก้ง ?

          ณัฏฐ์ : ผมเป็นคนรักสวยรักงาม ก็เลยดูแลตัวเองในเรื่องของผิวหน้า

นาน่าคุณคอนเฟิร์มสามีของเราไม่ได้เป็น ?

          นาน่า : จริง ๆ สงสัยอยู่นะ ล้อเล่น ๆ ไม่ใช่ชัวร์ ๆ

เห็นหวานกันขนาดนี้แต่ทะเลาะกันบ่อย เรื่องเส้นผมของเราถึงกับทะเลาะกับสามีเลยเหรอ ?

          นาน่า : ปกติผู้หญิงผมมันร่วง เขาจะเป็นคนที่ช่วงแรกที่ย้ายเข้ามา เขาจะเป็นคนเห่อบ้านมาก แล้วพอเห็นเส้นผมหล่นมาเขาก็จะโมโหมากแล้วเขาจะขึ้น ๆ เราต้องแยกไปนอนอีกห้อง จะได้ไม่ต้องปะทะกัน

          ณัฏฐ์ : เขารู้ว่าเราเป็นคนอารมณ์ร้อน บางทีเราก็ใจร้อน ก็คือเราก็บ่นแหละ คือผมกับเขานิสัยจะสลับกัน ผมจะนิสัยแบบผู้หญิง แล้วเขาจะนิสัยแบบผู้ชาย

เห็นว่าจากความเครียดที่ผ่านทำให้เราเครียด จนเป็นซึมเศร้า ?

          ณัฏฐ์ : เป็นภาวะซึมเศร้าอยู่ช่วงหนึ่ง ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาผมเล่นละครที่เป็นบทร้ายเยอะ มีความลบเยอะ เราค่อนข้างเซนซิทีฟกับข่าวลบเยอะ แล้วอะไรที่มันมากระทบ จากที่เมื่อก่อนเราไม่ได้หงุดหงิด มันกลายเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็หงุดหงิดไปหมด ซึ่งมันคือผลกระทบจากที่เรารับอารมณ์ลบมาเยอะ