เป้ ไฮ-ร็อก สุดลำบาก โดนโทร. ทวงหนี้ทุกวัน เงินเก็บหายเรียบ ต้องขายของประทังชีวิต

          ด้วยพิษเศรษฐกิจจากโควิด 19 ส่งผลให้นักร้องวงร็อกในตำนานอย่าง เป้ ไฮ-ร็อก ต้องขอยอมแพ้ เนื่องจากงานแสดงต่าง ๆ ถูกเลื่อนและยกเลิกไปอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ไม่มีรายได้หมุนเวียนเข้ามา จึงต้องนำของสะสมออกมาประมูลหารายได้
 

อ่านข่าว : เป้ ไฮ-ร็อก ยอมแพ้พิษโควิด หอบของสะสมออกขาย รักแค่ไหนก็ต้องปล่อย
 

          ล่าสุด (14 กุมภาพันธ์ 2564) เป้ ไฮ-ร็อก ได้มาเปิดใจผ่านรายการ ถามสุดซอย Weekend เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เรตค่าจ้างปกติทางวงรับประมาณเกือบแสน จนกระทั่งเจอพิษโควิด 19 ในรอบแรก รายได้ก็หายหมด เพราะร้านเจอผลกระทบ พอไม่มีรายได้ ก็ไม่มีเงินมาจ้าง ถ้าจัดคอนเสิร์ตแล้วมีคนมารวมตัวกัน เกิดติดโรคขึ้นมา ทางร้านก็จะยุ่ง จึงต้องเซฟตัวเองไปด้วย
 

          บางงานก็เลื่อนไปก่อน บางงานก็ยกเลิกไปเลย กว่าจะเปิดผับได้ก็เป็นปี เงินที่เก็บสะสมไว้ก่อนหน้าเกิดโควิด 19 รอบแรก ก็มีพอสมควร เป็นเงินที่เก็บเอาไว้เผื่อป่วย พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนแรกก็พยายามหาเงิน ทำเสื้อขาย เป็นโลโก้ไฮ-ร็อก ทำหมวก ทำแมสก์ขาย เอาเงินตรงนั้นมาเป็นค่าใช้จ่าย มีค่าผ่อนรถ ผ่อนบ้าน บัตรเครดิตสารพัด ประมาณ 4-5 หมื่นต่อเดือน
 

ไม่ได้กินเยอะ ?

          "ไม่ได้เยอะ ผมใช้จ่ายน้อย ตื่นมากินข้าวผัดกะเพรา 40-60 บาท กินง่าย อยู่ง่าย ไม่มีฟุ่มเฟือยอะไร แต่มีภาระในชีวิตประจำวันที่ต้องใช้ บางทีรถตู้ก็ต้องใช้ จำเป็นสำหรับวง จนกระทั่งโควิด 19 รอบแรกเบาไป งานก็เริ่มเข้ามา ติดต่อยาวก่อนคริสต์มาส ตั้งแต่พฤศจิกายน ปีใหม่ จนถึงวันนี้ วันแห่งความรัก งานเยอะมาก พอมีโควิด 19 รอบสอง ก็โดนยกเลิกอีกรอบ"

พอเกิดเหตุการณ์นี้ ท้อใจไหม ?

          "มีอยู่วันหนึ่งทางวงซ้อมเพื่อเล่นวันปีใหม่กันหนักมาก อยากเล่นเคานต์ดาวน์ เนื่องจากจะได้เงินเพิ่มขึ้นไปอีกจากแสนเป็น 2 แสน พอมีโควิด 19 ทุกคนก็ลุ้นว่าอย่านะ พอถูกยกเลิกก็เรียบร้อย กลับบ้าน ทุกคนบอกซ้อมกันซะเหนื่อยเลย ซ้อมหนักมาก ซ้อมกันทุกวัน"

ในวงท้อใจจนจะยุบวงไหม ?

          "ไม่ครับ ทุกคนยังสู้อยู่ เหมือนอายุเราเยอะแล้ว อยากเล่นด้วยกันมากกว่า ผมเป็นวงร็อกก็ไม่เหมือนวงดนตรีลูกทุ่ง อย่างผมอาจมีลูกน้อง 3-4 คน มีเด็กคอนวอยบ้าง มีคนขับรถบ้าง ก็ไม่เยอะ แต่เราไม่มีงาน เขาก็ไม่มีงานด้วย ไม่ได้จ่ายเงินเดือนประจำ มีงานก็มีงานด้วยกัน"
 

หนี้สินที่ทำให้ต้องออกมาไลฟ์ หาหนทางให้ชีวิตอยู่รอด คำว่าหนี้สินมากขนาดไหน ?

          "ทวงเช้าทวงเย็น (หัวเราะ) เมื่อก่อนผมทำอะไรตรงเวลามาก เพราะรายได้โอเค ไม่ค่อยได้ค้าง พอค้างก็รู้สึกแปลก ๆ เขาก็โทร. มาทวง เราก็บอกไปตรง ๆ ว่าถ้าผมจ่ายคุณแล้วจะเอาอะไรกิน บางทีโทร. มาทวงจนรู้สึกว่าทำไมขยันทวงจัง ปวดหัวมาก มันไม่ทันจริง ๆ สมมติมีเงินอยู่หมื่นนึง แล้วต้องจ่ายเขาหมื่นนึง เราจะเอาอะไรกิน นึกอยู่ตลอด"

หนี้สินที่มีอยู่บนหน้าตัก เป็นหนี้ในหรือนอกระบบ ?

          "เป็นหนี้ปกติ อย่างเช่ารถตู้ไปเล่นคอนเสิร์ต ก่อนหน้านั้นเราไปทัวร์คอนเสิร์ตต่างจังหวัด แล้วเลยไปสักชั่วโมงหนึ่ง เขาคิดเป็นอีกวันหนึ่งเลย ก็เสียความรู้สึก แล้วเสียอีก 2 พัน ก็เลยรู้สึกว่าเก็บไว้ให้ลูกน้องกินดีกว่า จึงซื้อรถตู้เอง แล้วก็มีหนี้บ้าน บัตรเครดิต ไม่เคยไปกู้นอกระบบ"

จุดเปลี่ยนอะไรทำให้ต้องมาไลฟ์ ?

          "มีอยู่วันหนึ่งเครียดมาก จะไปทางไหนดี โพสต์แต่เรื่องเศร้า ๆ ทุกคนก็บอกว่าสู้ ๆ นะพี่เป้ พอเข้าบ้านไปก็คิดว่าของที่บ้านเยอะมาก ทำไมไม่เอามาขาย นาฬิกาเกือบร้อยเรือนที่สะสมไว้ พอเปิดลิ้นชักมา มันไม่มีประโยชน์สำหรับตัวเองเลย แต่ว่าตอนนี้มันมีประโยชน์ เพราะอยากได้เงินเอามาใช้จ่าย จึงโทร. หาน้องคนหนึ่งชื่อ หนุ่ย ชวนมาไลฟ์เอาของไปขาย น้องถามว่าจะดีเหรอ ก็บอกว่าไม่ตายก็หาใหม่ได้ จึงไลฟ์ขายของ ราคาหมื่น 2 หมื่นไม่สน จะขาดทุนก็ไม่สน"
 

ขาดทุนแค่ไหน ?

          "อย่างนาฬิการักมาก เก็บเงินซื้อประมาณหมื่นกว่าบาท เอามาประมูลตั้งราคาประมาณ 1,200-1,500 บาท ไม่ว่าของจะแพงขนาดไหน มีน้องหนุ่ย ซาวด์เอนจิเนียร์ในวง เขาพูดเก่ง ก็มาช่วยกัน"
 

มีคนมาซื้อเยอะไหม ?

          "ก็เยอะครับ หลายคน ส่วนมากเป็นแฟนคลับตัวยง เป็นแฟนพันธุ์แท้ที่อยากเก็บของผมเอาไว้ ผมอ่านแล้วน้ำตาจะไหล เขาบอกว่าเขาดีใจมากที่ได้นาฬิกาผม เขาจะเก็บเอาไว้ เขารักเรา จากที่เสียดายของ ผมเลิกเสียดายเลย มันมีค่าสำหรับเขา แล้วทุกอย่างเป็นของสะสมของผมจริง ๆ ไม่ได้ซื้อหา เป็นของสะสมจริง ๆ"
 

ตอนนี้ขายไปได้เท่าไร ?

          "ไม่เท่าไรครับ 3 วัน ขายไป 20 กว่าชิ้น แต่ของเยอะมาก ไลฟ์ครั้งหนึ่งก็ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง วันแรกที่ไม่เป็นข่าวได้ประมาณ 2 หมื่นบาท ตอนที่ยังไม่เป็นข่าวไม่มีใครรู้ พอครั้งที่สองดีหน่อย รายได้ขึ้นมาหลัก 9 หมื่นบาท พอเมื่อคืนอีกครั้ง แสนขึ้นเลย"

เพราะคนรู้ข่าวและเขาไปดูการไลฟ์ ?

          "ครับ และมีศิลปินที่เขาอยากช่วยเหลืออย่าง พี่หรั่ง ร็อกเคสตร้า เมื่อคืนแกเอากีตาร์มาให้ประมูล แกเห็นเราลำบาก เอากีตาร์มาให้ฟรี ๆ ให้ประมูล แล้วกีตาร์พี่หรั่งตัวหนึ่งได้ 8 หมื่น เพราะมีลายเซ็น คนอยากเก็บเขาก็ซื้อ"
 

มีกำลังใจขึ้นไหม ?

          "โห มาก จากคนที่มืดแปดด้าน พอไลฟ์คนเข้ามาให้กำลังใจผมหมดเลย คนเข้ามาประมูลน่ารักมาก พอแคปเสร็จก็บอกว่าขอเลขที่บัญชีจะโอนแล้ว น่ารักมาก บางคนเข้ามาแบบ ให้ยืมเงินเอาไหม บางคนบอกไม่ประมูลได้ไหม เดี๋ยวเอาเงินให้เลย ผมก็บอกว่าไม่ต้อง เอาของดีกว่า ผมไม่ต้องการแบบนี้"
 

เป็นร็อกระดับตำนาน 30 กว่าปีที่ผ่านมา เงินเก็บไปไหนหมด ?

          "ผมไม่ชอบเก็บเงิน จะเก็บไว้ส่วนหนึ่งเผื่อเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยแค่นั้นเอง แล้วอยากสร้างความสุข อยากหาความสุขให้ตัวเอง ได้เงินมาอะไรที่เราชอบ อะไรที่เรารัก เราก็สนองตัวเอง ผมไม่รู้ว่าเราตื่นมาจะมีลมหายใจหรือเปล่า เราอาจหมดลมหายใจก็ได้ แล้วผมเก็บไว้เป็น 10-20 ล้าน ผมอยู่คนเดียว แล้วใครจะเอาเงินไปใช้ ผมทำความสุขให้ผม ผมอยากได้ทีวี โฮมเธียเตอร์เครื่องใหญ่ ๆ มันมีความสุข ผมไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ไม่รู้เราจะตายเมื่อไร"

มีวางแผนการใช้หนี้ยังไง ?

          "ตอนนี้ทยอยใช้ สบาย (หัวเราะ) ไม่มีปัญหาแล้ว"
 

ดูมีความสุขขึ้น ?

          "มันมีความหวังครับ คนเราถ้ามีความหวัง ผมเป็นคนหนึ่งไม่ย่อท้อต่ออะไรเท่าไร สิ่งที่ผ่านมาในชีวิต 30 กว่าปี ผมไม่ค่อยท้อชีวิต"
 

ไม่รับบริจาค ?

          "ไม่เอาครับ ให้มาประมูลของผมดีกว่า ผมมีตั้งแต่หลักพันยันหลักร้อย ผ้าเช็ดหน้าที่ผมใช้ ตั้งราคา 50 บาท ยังมีคนประมูลเลย ประมูลไป 300"
 

ไหน ๆ วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ มีใครอยู่ในหัวใจ ?

          "ก็มีคุยบ้าง แต่ไม่อยากมี อยากใช้ชีวิตแบบให้มีความสุขมากที่สุด"