เมเปิ้ล ยันไม่ได้โกง แคทรียา อิงลิช ถามกลับเงินทางนี้หาย 6 ล้าน ใครรับผิดชอบ !?

          เพื่อนรักแตกกันเพราะเงินทำธุรกิจ ซึ่งก็มาโยงที่ เมเปิ้ล พัชชุดาญ์ กับ แคทรียา อิงลิช ซึ่งทั้งคู่ก็ได้ให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้กับสื่อมวลชนเป็นที่เรียบร้อย

          จากกรณีข่าวปมเพื่อรักแตกหักเงินร่วมทุนทำธุรกิจ และมีฝ่ายหนึ่งโกงเงินไป จนคนโยงว่าเป็นดาราสาวเซ็กซี่ เมเปิ้ล พัชชุดาญ์ และดารานักร้อง แคทรียา อิงลิช ก่อนที่ทั้งคู่จะออกมาชี้แจงกับสื่อ ซึ่งเมเปิ้ลยืนยันว่าเจ้าตัวนั้นไม่ได้โกงเงินให้แน่นอน แต่ดูเหมือนเรื่องจะมีจบเมื่อมีประเด็นร้อน ๆ เกี่ยวกับเงินลงุทน 4 ล้านบาทที่ลงทำธุรกิจร่วมกันที่หายไปผุดขึ้นมาใหม่

          ล่าสุด (20 เมษายน 2564) เมเปิ้ล พัชชุดาญ์ ได้ออกมาชี้แจงในประเด็นดังกล่าวอีกครั้งในอินสตาแกรมส่วนตัวยืนยันชัดว่าไม่เคยโกงเงิน แคทรียา แน่นอน โดยระบุว่า "เมเปิ้ลขอใช้พื้นที่ส่วนตัว ในการอธิบายข่าวที่ออกมานะคะ วันก่อนเมเปิ้ลให้สัมภาษณ์ไปแล้ว ตามที่เมเปิ้ลได้พูดไปทั้งหมด วันนี้ขอย้ำนะคะว่า ข่าวที่ออกมาว่าเมเปิ้ลโกงเงินเรื่องนั้นไม่เป็นความจริงเลย !!! แล้วก็ชัดเจนและบริสุทธิ์ใจ โปร่งใสมาตลอดในทุก ๆ เรื่องรวมถึงเรื่องเอกสารหลักฐานทั้งหมดได้โชว์และให้ทนายทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงตัวเมเปิ้ลเองและพี่เขาดูแล้วในวันที่มีการนัดประชุมกัน ตอนนี้ก็รอทนายทั้ง 2 ฝ่ายตรวจเอกสาร และยินดีพร้อมที่จะแถลงข่าวพร้อมกันค่ะ ในสิ่งที่ทุก ๆ คนที่ได้ยินได้เห็นข่าวอย่าเพิ่งตัดสินว่าใครผิดถูก ถ้าไม่รู้ความจริง อย่าตัดสินคนอื่นเพราะฟังความข้างเดียว

          "นางร้ายก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ร้ายเสมอไป" ที่ต้องออกมาพูดมาเขียนเพราะอยากแสดงความบริสุทธิ์ใจและปกป้องชื่อเสียงของตัวเอง ในคำครหาหรือข่าวต่าง ๆ ที่ออกมา มันทำให้เราเสียหายเป็นอย่างมาก รวมถึงทั้งครอบครัวเราด้วยอีกอย่างเราก็ยังเป็นคนของสังคม ยังต้องมาหากิน ถ้ามีข่าวเสียหายทางด้านนี้ใครจะอยากทำธุรกิจด้วย ใครอยากจะเป็นเพื่อนกับเราอีก !!! เงิน4ล้านหายไปไหน ?? เลื่อนดูค่ะ #นางร้ายก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ร้ายเสมอไป #คนอย่างฉันไม่เคยโกงใคร #ชัดเจนโปร่งใสและบริสุทธิ์ใจ

          โดยเมเปิ้ลยังได้ชี้แจงเรื่องราวต่าง ๆ เป็นข้อ ๆ แบบละเอียดยิบ ซึ่งเรื่องเริ่มจากการที่เมเปิ้ลได้ทำธุรกิจด้ายความงามขนาดเล็ก ๆ ลงทุนไป 2 ล้านบาท ก่อนที่แคทรียาจะสนใจร่วมหุ้นด้วยและได้นำเงินมาลงทุน 1 ล้านบาท ก่อนจะขยายธุรกิจและมีการจดทะเบียนเกิดขึ้น จากนั้นได้ขยายธุรกิจลงทุนกันเพิ่มคนละ 4 ล้านบาท ก่อนร้านจะถูกปิดเพราะสถานการณ์โควิด 19 ไม่มีลูกค้า โดนพนักงานฟ้องเพราะไม่มีรายได้จ่ายค่าแรง ทำให้เมเปิ้ลต้องแบกรับภาระคนเดียวเพียงลำพังตลอดเวลา 1 ปี ซึ่งแคทรียาไม่เคยมาร้านเลย

          จนกระทั่งต้องขอปิดกิจการ จากนั้นแคทรียาได้เสนอขายหุ้น 2 ล้านบาท แต่ตัวเองนั้นไม่ไหว จึงลงมติให้เลิกบริษัท พร้อมบอกว่าปัจจุบันธุรกิจได้ปิดตัวลงแล้ว ได้นำทรัพย์สินออกขายเพื่อนำมาชดใช้หนี้ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และค่าแรงพนักงานที่ไปฟ้องศาลแรงงาน ซึ่งตอนนี้เธอได้ชดใช้หนี้หมดแล้ว

          ปิดท้าย เมเปิ้ล ยังถามกลับอีกว่า "ถามว่าเงิน 4 ล้านบาทของฝั่งนั้นหายไปไหน แล้วไม่ถามบ้างหรือคะว่าทางนี้เงินหายไปไหนมากกว่าถึง 6 ล้านบาท ส่วนต่างใครเป็นคนรับผิดชอบ ไม่ใช่ เมเปิ้ล เหรอคะ !!!"