นารา เครปกะเทย ประวัติเน็ตไอดอลสาวสอง กับเส้นทางชีวิตสุดพลิกผัน

นารา เครปกะเทย ประวัติที่น่าสนใจ พาไปรู้จัก นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลสาวสองชื่อดัง นาราคือใคร กว่าจะประสบความสำเร็จ จนกระทั่งชะตาชีวิตพลิกผัน มาดูกันว่าเธอผ่านอะไรมาบ้าง

ถ้าพูดถึงเน็ตไอดอลไทยที่โดดเด่นเรื่องความฮา น่ารัก และเป็นกันเอง หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ นารา เครปกะเทย หรือ อนิวัต ประทุมถิ่น อยู่อย่างแน่นอน ยิ่งพักหลังเธอมีกระแสข่าวบันเทิงดราม่ามากมาย ทั้งเรื่องพิษจากการทำคอนเทนต์ซึ่งนำไปสู่คดีต่าง ๆ ก่อนจะตกเป็นข่าวในคดีอาหารเสริม และอีกหลายดราม่าที่ถาโถม ทำให้คนจับตามองเธอเป็นอย่างมาก แต่ใครจะรู้บ้างว่า นารา เครปกะเทย กว่าจะมีชื่อเสียงโด่งดังและมีผู้ติดตามหลักล้าน ชีวิตของเธอก็เคยติดลบมาแบบสุด ๆ ผ่านการทำงานหลากหลายรูปแบบ จนสามารถปลดหนี้ให้กับตัวเองและได้เป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ล่าสุดชีวิตก็พลิกผันอีกครั้ง ใครที่อยากรู้ว่า นาราคือใคร วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปรู้จัก ประวัติ นารา เครปกะเทย กันค่ะ

สำหรับประวัติของ นารา เธอมีชื่อจริงว่า อนิวัต ประทุมถิ่น เดิมชื่อเล่นว่า เอิร์ธ เกิดวันที่ 31 สิงหาคม 2542 (ปัจจุบันอายุ 23 ปี) เกิดที่จังหวัดลพบุรี แต่ย้ายไปอยู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณแม่ โดยเธอเป็นลูกคนโต มีน้องชายแท้ ๆ 1 คน และน้องสาวต่างพ่ออีก 1 คน คุณพ่อเป็นข้าราชการ ส่วนคุณแม่ทำอาชีพค้าขาย เธอเรียนจบระดับมัธยมต้นจากโรงเรียนยอแซฟอยุธยา จากนั้นจึงเรียนสายอาชีพที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการอยุธยา และเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ สาขาการแสดง สำหรับที่มาของชื่อ “นารา” มาจากดาราสาวแบ๊วสุดน่ารักที่เธอชื่นชอบ ทำให้มีความคิดว่าอยากจะเป็นนารา จึงเลือกใช้ชื่อนี้เรื่อยมา

          นารา เครปกะเทย เริ่มเป็นที่รู้จักจากคลิปแนะนำตัว ซึ่งช่วงนั้นเธอทำธุรกิจร้านเครปเป็นของตัวเองที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยตัวเครปแป้งหนานุ่ม ไส้แน่น รสชาติดี แถมลีลาการขายเด็ด จึงมีคนแชร์จำนวนมากและตามมาต่อคิวซื้อเครปเพียบ จากจุดนี้เองทำให้เธอได้ไอเดียทำคลิปตลก ๆ โพสต์ลงโซเชียล จนกลายเป็นเน็ตไอดอลสายฮาในชั่วข้ามคืน และเริ่มมีงานรีวิวติดต่อเข้ามาจนเธอสามารถหาเงินปลดหนี้ ส่งตัวเองเรียน และต่อยอดไปยังธุรกิจอื่น ๆ จนกระทั่ง นารา เครปกะเทย สามารถมีบ้าน มีรถ อย่างที่ตัวเองต้องการได้สำเร็จ

          ชีวิตของ นารา เครปกะเทย กว่าจะประสบความสำเร็จในแบบทุกวันนี้ เธอผ่านการทำงานมาแล้วหลากหลายรูปแบบ ทั้งแดนเซอร์ ขี่วินมอเตอร์ไซค์ ขายปลาหมึกย่าง ขายของในห้าง แถมยังเคยหลงผิดมาก่อน ไม่ว่าจะหลอกเอาเงินที่บ้านไปทำศัลยกรรมและเปย์ผู้ชาย ติดหนี้จนโดนประจาน พอมาขายของก็โดนขโมยเงิน และที่พีคที่สุด นารา ยอมรับว่าถึงขั้นเคยขายตัวตอนอายุ 18 แต่ทำได้ไม่กี่วันเท่านั้น เธอก็หันมากัดฟันสู้ชดใช้ในสิ่งที่เคยทำผิด จนสามารถหาเงินปลดหนี้ทั้งหมดได้สำเร็จภายในปีเดียว

          ก่อนหน้านี้นาราเคยน้ำหนักมากถึง 98 กิโลกรัม แต่เธอตัดสินใจรักตัวเองและทุ่มเทลดน้ำหนักจนเหลือ 62 กิโลกรัม ซึ่งก็ไม่วายมีชาวเน็ตกล่าวหาว่าไปตัดกระเพาะและใช้สารเสพติด เพื่อให้ผอมลงอย่างรวดเร็ว จะได้สามารถโฆษณาขายอาหารเสริมธุรกิจส่วนตัวของเธอได้ แต่ นารา เครปกะเทย ก็ออกมาแก้ข่าวอย่างทันควันว่าไม่เคยตัดกระเพาะหรือใส่บอลลูนใด ๆ ทั้งสิ้น รวมถึงไม่เคยใช้สารเสพติด โดยนาราได้นำผลตรวจจากโรงพยาบาลมายืนยันว่าผอมด้วยตัวเองและพึ่งอาหารเสริมที่เธอกำลังคิดค้นอยู่เท่านั้น

          ต้องยอมรับจริง ๆ ว่านาราเป็นคนที่มีความพยายามและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ล่าสุดเธอได้เปิดบริษัทของตัวเอง และทำผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ทั้งอาหารเสริมควบคุมน้ำหนัก อาหารเสริมบำรุงผิวพรรณ รวมถึงเซรั่มทาหน้า กลายเป็นเจ้าของธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย

          หลังจากเป็นที่รู้จักในโลกโซเชียล สิ่งที่ตามมาอย่างปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือการถูกจับตามองและเป็นกระแสดราม่าต่าง ๆ ซึ่ง นารา เครปกะเทย ก็เคยมีประเด็นอยู่หลายครั้ง ทั้งเรื่องเกาะรุ่นพี่เน็ตไอดอลดัง และยังเคยร่วมวงแฉ ออฟฟี่ แม็กซิม เรื่องเอาเปรียบค่าตัว รวมทั้งมีข่าวเคยบูลลี่ หนูรัตน์ อีกด้วย แต่เธอก็ออกมาเคลื่อนไหวทุกครั้ง รวมถึงได้ปรับความเข้าใจกับหนูรัตน์เป็นที่เรียบร้อย

          ประเด็นต่อมาคือ เมื่อช่วงปี 2564 นาราทำคลิปเหมาทั้งตลาด เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าจากพิษเศรษฐกิจช่วงโควิด 19 ระบาด ทำให้เธอได้รับเชิญไปออกรายการแฉ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ดำเนินรายการโดย มดดำ คชาภา, น็อต วรฤทธิ์ และดีเจบุ๊กโกะ ซึ่งในโลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ในกรณีที่นาราพูดเรื่อง Call Out แต่กลับถูกพิธีกรคอยเบรกอยู่หลายครั้ง นอกจากนี้ยังมีอีกชอตที่นาราไม่รับของกลางรายการอีกด้วย แต่หลังจากมีดราม่าเกิดขึ้น เธอก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม ขอโทษมดดำที่ทำให้เกิดปัญหา และยืนยันว่าไม่โกรธเรื่องคำพูดในรายการ พร้อมขอบคุณโอกาสที่ยื่นมาให้

          จากนั้นเมื่อกลางปี 2565 ก็เกิดดราม่าขึ้นอีก เมื่อนาราทำคลิปวิดีโอเพื่อโปรโมตโปรโมชั่นของแอปพลิเคชันขายของแอปฯ หนึ่ง และมีการนำ หนูรัตน์ มาสวมบทบาทนั่งรถเข็น ทำให้เกิดประเด็นว่าเธอบูลลี่ผู้พิการ และมีเจตนาพาดพิงดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ได้รับความเสื่อมเสีย ซึ่งเรื่องนี้นาราได้ออกมาทำคลิปขอโทษพร้อมยืนยันว่าไม่มีเจตนาดูถูกผู้พิการ ทั้งยังเดินทางไปมอบเงินบริจาคให้กับสมาคมคนพิการจังหวัดสระบุรี เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท อีกด้วย

         นอกจากนี้ยังมีกระแสดราม่าระหว่าง นารา กับ นัท นิสามณี เน็ตไอดอลรุ่นพี่ ซึ่งเกิดจากการจัดงานปาร์ตี้วันเกิด แต่เจ้าตัวไม่ได้ถูกเชิญไปร่วมงานด้วย โดยงานนี้นาราได้ออกมาโพสต์ตัดพ้อ เชื่อว่าอีกฝ่ายมีเหตุผลของตัวเอง และคงไม่มีใครอยากยุ่งกับเธอ เนื่องจากเคยเกิดเรื่องร้ายแรง คนที่เข้ามาอาจจะเดือดร้อนไปด้วย พร้อมยอมรับว่าน้อยใจ ขณะที่ นัท นิสามณี ก็ออกมาเคลื่อนไหวเช่นกันด้วยการโพสต์ไอจีว่า “เคล็ดลับความสุขง่าย ๆ ที่นัทใช้ช่วงนี้ คือยุ่งเรื่องคนอื่นให้น้อยที่สุด พูดเฉพาะเรื่องที่ก่อประโยชน์ อะไรพูดแล้วกระทบคนอื่นไม่ต้องพูด สิ่งที่คนอื่นตัดสินเรา ไม่ใช่ว่าเราเป็นแบบนั้นเสมอไป” พร้อมกับทิ้งระเบิดลูกใหญ่ด้วยว่า “การไม่พูด ไม่ใช่ไม่รู้ ความลับไม่มีในโลก นิ่งเพื่อไม่อยากก่อเหตุ ถือว่าใจดีสุดแล้ว คนนอกก็อย่ารีบตัดสิน เห็นเพียงมุมเดียว” เรียกว่าทำเอาแฟนคลับหูผึ่งว่าดราม่าครั้งนี้ต้องมีอะไรแน่ ๆ

          ย้อนไปก่อนหน้านี้ นารา เครปกะเทย เคยโดยหมายศาลเรียกดำเนินคดีมาแล้วทั้งหมด 7 คดี ตามความผิด ม.112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ฐานร่วมกันผลิตและเผยแพร่สื่อโฆษณาที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นการดูหมิ่นสถาบันฯ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565

          ปัจจุบันแม้ว่าเธอจะประกันตัวออกมาสู้คดี แต่ผลกระทบต่าง ๆ ยังคงตามมาอย่างต่อเนื่อง เพราะงานจ้างลดน้อยลง สินค้าไม่มีคนซื้อ และไม่มีเงินมาสู้คดี โดยนาราได้ไลฟ์เปิดใจว่าตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเงิน รถ บ้าน แม้กระทั่งเพื่อนและความสุข พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ โดยต่อจากนี้เธอจะขอเป็นเด็กที่น่ารัก พร้อมเป็นคนของสังคม และขอโอกาสทำงานหาเลี้ยงครอบครัวต่อไป

          แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ต้องเผชิญกับมรสุมอีกครั้ง หลังจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงผลการเข้าจับกุมเครือข่ายผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “ชาร์มาร์ กลูต้า” ซึ่งเป็นอาหารเสริมผสมสารอันตราย กินแล้วประสาทหลอน หวาดระแวง หรือมีพฤติกรรมรุนแรง โดยหนึ่งในผู้ต้องหามี นารา เครปกระเทย เน็ตไอดอลชื่อดัง รวมอยู่ด้วย ซึ่งเธอถูกหมายจับศาลอาญาในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 (2-ไดเฟนนิลเมทิลโพโรลิดีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำทางการค้า”

          ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ “ชาร์มาร์ กลูต้า” ได้ว่าจ้างให้ นารา เป็นอินฟลูเอนเซอร์หลักในการโฆษณาและขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ แม้เธอจะปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับขั้นตอนหรือกระบวนการผลิต แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบต่อสังคมได้

ในช่วงที่ผ่านมาเรียกว่า นารา เครปกะเทย เจอมรสุมอย่างหนัก แต่ดูเหมือนเธอก็ไม่ย่อท้อ เริ่มต้นใหม่แบบสับ ๆ ด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สวยขึ้น แล้วเดินหน้าลงประกวดนางงามตามความฝัน แม้จะผิดหวังมาหลายเวที แต่ในที่สุดเธอก็สามารถคว้ารางวัล Miss Beauty Boy ที่เจ้าตัวตอบคำถามได้ประทับใจกรรมการจนมงลงในที่สุด

หลังจากเรื่องคดีความ นารา เครปกระเทย ก็ประสบปัญหาเรื่องธุรกิจและเป็นหนี้ แต่ก็สู้สุดใจ ทั้งไลฟ์ขายสินค้าและทำธุรกิจกล่องสุ่ม โดยก่อนหน้านี้เธอชักชวนคนให้มาลงทุน 3,500 บาท แล้วจะได้เงินคืน 5,000 บาท โดยไม่ต้องทำอะไร และในเวลาต่อมาก็เพิ่มจำนวนเงินลงทุนมากขึ้น โดยจะให้ผลตอบแทนที่มีกำไรเยอะ จนมีผู้ร่วมลงทุนมากมาย

อย่างไรก็ตาม ได้มีเพจออกมาเตือนภัยมิจฉาชีพระดมทุน เอาเงินชาวบ้านไปหมุนโดยใช้โมเดลกล่องสุ่มบังหน้า สุดท้ายพอหมุนเงินไม่ทันก็ผัดผ่อนไปเรื่อย ทั้งยังเริ่มมีผู้เสียหายออกมาให้ข้อมูลว่า หลังจากลงทุนกล่องสุ่มของ นารา เครปกะเทย เสียหายกว่า 620,000 บาท แต่ไม่ได้รับเงินทุนคืน เมื่อทวงถามก็ถูกตอกกลับ ไล่ให้ไปฟ้องเอา ซึ่งล่าสุด (7 มีนาคม 2566) นารา ได้ไลฟ์ผ่านทาง TikTok ยอมรับว่าตอนนี้ขายกล่องสุ่มต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องหยุดและรับผิดชอบ กรณีของผู้เสียหายที่ออกมาบอกว่าไม่ใช้เงินคืนนั้น ขอยืนยันว่าไม่จริง ใช้เงินคืน แต่ทยอยใช้ทีละ 3 หมื่น 5 หมื่น แต่บางคนก็ไม่พอใจ

ขณะที่ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายชื่อดัง ได้ออกมาให้ความเห็นถึงกรณีดราม่ากล่องสุ่มว่า อาจมีความผิดหลายกระทง เพราะหากจะขายกล่องสุ่มลุ้นรางวัลต้องขออนุญาตจากหน่วยงานราชการ ไม่เช่นนั้นจะเข้าข้าย พ.ร.บ.การพนัน และหากกล่องสุ่มแบบไม่มีของรางวัลจะแจกจริง หลอกเอาเงินคนอื่น มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โทษจำคุกกระทงละ 5 ปี

นารา เครปกะเทย นับเป็นอีกหนึ่งเน็ตไอดอลตัวแม่ที่ผ่านบทเรียนในชีวิตมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งกว่าจะมีสปอตไลท์ส่องมายังเธอและมีแฟนคลับมากมาย เรียกได้ว่าชีวิตเธอไม่ง่ายเลยจริง ๆ

• นารา เครปกะเทย พ้อไม่มีเงิน-งาน โดนหมายศาล 7 คดี ไม่เหลือเพื่อน-ไร้คนช่วย
• รวบ นารา เครปกะเทย เครือข่ายอาหารเสริม ผสมสารอันตราย - เจ้าตัวลั่นไม่มีเอี่ยว
• ย้อนโพสต์ นารา เครปกะเทย ชวนลงทุนกล่องสุ่ม ก่อนมีข่าวโกง ลั่นเป็นหนี้ต้องใช้ สู้สุดใจ
• นารา เครปกะเทย รับไปต่อไม่ไหว ยันไม่ได้โกงเงิน ขายของทั้งวันทั้งคืนหาเงินใช้หนี้

ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก นารา เครปกะเทย, เฟซบุ๊ก อนิวัต ประทุมถิ่น, Instagram nara.aniwat
ขอบคุณข้อมูลจาก :  ยูทูบดอทคอม โพสต์โดย นารา เครปกะเทย, เฟซบุ๊ก นารา เครปกะเทย, เฟซบุ๊ก อนิวัต ประทุมถิ่น, dailynews.co.th, brighttv.co.th