จตุรงค์ ประกาศชัดไม่ยอมรับ เจโม่ แฟนใบเฟิร์น กลัวเกาะลูกสาวกิน ไล่ไปทำงานก่อน

          เป็นอีกหนึ่งคุณพ่อที่หวงลูกสาว สำหรับ จตุรงค์ มกจ๊ก ดาราตลกชื่อดังคุณพ่อของนักแสดงสาว ใบเฟิร์น พัสกร ที่ล่าสุด (1 ธันวาคม 2564) ก็ได้ควงภรรยา แม่กุ้ง มาเปิดใจถึงเรื่องความรักของลูกสาวกับแฟนหนุ่ม เจโม่ เป็นครั้งแรกในรายการ แจ็คขอคุย

          ลุงรงค์ก็เผยว่า จริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นคนหวงลูกสาว ตอนนี้อนุญาตให้เขามีแฟนแล้วด้วยซ้ำ ไม่อยากให้เขาโสดไปจนอายุ 40 ซึ่งตอนนี้เขาก็ 31 แล้ว เมื่อก่อนตอนอายุเขายังน้อยก็หวงเป็นปกติ เพราะเขายังไม่ประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้เขามีงานทำแล้ว แต่คนที่จะมาเป็นแฟนเขาก็ต้องดูหน่อย

          และเมื่อถามว่าจริงไหมว่าลุงรงค์อยากให้คนที่มาคบเป็นแฟนใบเฟิร์นต้องมีเงิน ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบว่า มันก็เกี่ยวหน่อยหนึ่ง เพราะถ้าคนนั้นไม่มีงาน ไม่มีเงิน แล้วเขาจะเลี้ยงลูกเรายังไง สมมติวันหนึ่งถ้าลูกเราท้องก็ต้องหยุดทำงาน มันต้องมีทุน มีรายได้ แต่ถ้าคนนั้นเป็นคนดีจริง ๆ แต่จนลุงก็ไม่ได้ว่า แต่มองว่าพ่อแม่ทุกคนอยากได้คนที่มีฐานะทั้งนั้น ไม่มีใครอยากให้ลูกไปลำบาก ถามว่าจริง ๆ อยากได้คนมีเงินไหมก็อยากได้

          โดยก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าพ่อรงค์นั้นไม่ยอมรับ เจโม่ เพราะเคยมีข่าวว่าคบซ้อนตอนเปิดตัวคบกับใบเฟิร์น แถมฝ่ายหญิงยังทวงรถทวงของ จนกลายเป็นข่าวฮือฮา ทำให้ใบเฟิร์นถึงกับช็อกและประกาศตัดความสัมพันธ์ ก่อนจะกลับมาคบหากันอีกครั้ง ซึ่งทางแม่กุ้งก็เผยถึงเรื่องนี้ว่า เห็นด้วยว่าไม่น่าชอบ เพราะเขามีข่าวไม่ดีตอนนั้น ตอนเห็นข่าวตอนแรกตกใจว่าทำไมเกิดกับเรา เฟิร์นก็คุยกับแม่ทุกอย่าง

          ลุงรงค์ เผยว่า แม่ลูกเขาคุยกันทุกเรื่อง แต่กูไม่รู้สักเรื่อง ถามว่าดุลูกสาวจนลูกสาวไม่กล้าคุยด้วยไหม คือไม่ใช่ เขาคุยกับเราแล้วเขาจะได้คำตอบอีกอย่างที่เขาไม่ต้องการ แต่ถ้าคุยกับแม่เขาคุยง่าย เขาหยอกเล่นกัน เขาเหมือนเพื่อนกัน บางเรื่องแม่ก็มาเล่าต่อให้เราฟัง เพราะแม่กับเราก็คุยกันทุกเรื่องเหมือนกัน

          ถ้าเป็นเจโม่ก็จะไม่มีวันได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวจริงไหม แม่กุ้ง เผยว่า ตอนแรกก็ไม่ชอบ แต่ต่อไปเราไม่รู้เขาอาจจะดีขึ้น ต้องให้เวลา เขาจะเป็นแบบนี้ตลอดก็คงไม่ใช่ ด้าน ลุงรงค์ บอกว่าอยากได้คนโปร่งใสไม่มีด้านลบ นี่พอเปิดมาเอารถไปคืนแฟนเก่าอะไร ถามว่าแต่ลูกสาวเรารักเขา กูก็ไม่ได้ไปตามราวีเขา ไม่ได้ไปออกฤทธิ์ออกเดชกับเขา แต่มีคนมาสัมภาษณ์ เรากลัวลูกสาวเราผิดหวัง กลัวลำบาก

          ถามว่าวันหนึ่งถ้าเจโม่พร้อมจะเปิดโอกาสไหม ลุงรงค์ เผยว่า พูดไม่ได้หรอก เขายังไม่ได้ล้างตัวเองให้มันโอเคเลย ไม่รวยก็ไม่ว่าขอให้เป็นคนดี อันนี้ก็ไม่รวย แล้วยังไม่ดี ในสายตากูยังไม่ดีนะ ขนาดแม่เขายังไม่โอเคเลย ทาง แม่กุ้ง ก็บอกว่า ไม่โอเคอยู่แล้ว มันยังไม่ถึงเวลา เรื่องการงาน แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่โอเค

          เมื่อถามว่าวันหนึ่งเขาไม่เชื่อพ่อแม่จะทำยังไง ลุงรงค์ ถามกลับว่าแล้วมึงจะให้กูทำยังไง จะให้ไปโวยวายอะไร เฟิร์นไม่ได้อยู่ในอาณัติเราแล้ว ไม่ได้อยู่ในสิ่งที่เราจะไปชี้นกชี้ไม้ เพราะเขาโตทำงานเลี้ยงตัวเอง ส่งเงินให้แม่ ซื้อบ้าน เลี้ยงน้อง ถ้าสมมติวันใดมันไม่ยอมกูก็ต้องเงียบ แล้วแต่เขา

          แต่คือจะไปบอกเขาว่าไม่ได้ลูก พ่อลูกตัดขาดกันจะให้ทำยังงี้เหรอ คือถ้าเราบอกเขาแล้ว เขาไม่สนองเรา จะให้เราทำยังไง แต่เชื่อว่าเฟิร์นก็ต้องรักษาน้ำใจพ่อแม่ ลูกเราก็ฉลาด ไม่ถึงขนาดหักด้ามพร้าด้วยเข่า ไม่สนพ่อแม่ ตัดพ่อตัดแม่ เฟิร์นไม่ใช่คนแบบนั้น

          ที่หลายคนมองว่าใบเฟิร์นไม่ค่อยอยากคุยกับพ่อเพราะคำตอบเราจะได้อีกอย่างที่เขาไม่ได้อยากได้ อย่างเราเป็นคนพูดตรงอย่างเรื่องนี้ก็บอกเลยว่าไม่ต้องมาเจอกูเลยกูไม่เอา ไม่คุยด้วย แต่ถ้าจะไปคุยอะไรกันก็เรื่องของเขา ไม่ได้ว่าเพราะเราก็ไม่ได้ตามไปตอแยอะไร

          โดย แจ็ค นำคลิป เจโม่ ที่ฝากมาให้ จตุรงค์ ซึ่งในคลิปนั้น เจโม่ กล่าวว่า อยากเจอมาตั้งนานแล้ว เราอยากจะมั่นใจมั่นคงถึงจะไปเจอเขา ช่วยรอผมหน่อย ผมจะพร้อมขึ้นเรื่อย ๆ ไม่กลัวที่จะเจอเขาถ้าผมดีพอเขาน่าจะแฮปปี้ที่จะอ้าแขนรับ ขอให้มั่นใจในตัวผม ทุกวันนี้ผมก็พยายามอย่างเต็มที่อยู่แล้ว

          ด้าน จตุรงค์ ก็เผยหลังดูคลิปเจโม่ว่า เหมือนพ่อแม่ทั่วไป ผู้ใหญ่ทั่วไปที่เขาเห็นคนจะมาเป็นลูกเขย อันดับแรกเขาต้องรู้ก่อนทำงานอะไร งานเขาพอจะเลี้ยงลูกเราได้ไหม บ้านนอกบ้านนาใครก็แล้วแต่พ่อของผู้หญิงก็ต้องถามว่าทำงานอะไร นี่กูยังไม่รู้เลย

          แม่กุ้ง ยอมรับเห็นคลิปแล้วสงสารเขา เขาเคยพูดแล้วว่าอยากมาหาพ่อ เราบอกไม่ต้อง จตุรงค์รีบบอกว่า ถ้าอยู่ ๆ เดินมานี่บอกเลยไม่คุยที่กูบ้านกู ไม่คุย อย่ามาเซอร์ไพรส์นะหน้าแตก ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินนะ แต่มันไม่มีงาน เรายังไม่รู้เลยทำงานอะไร ไปทำงานให้เป็นหลักเป็นฐานก่อน มันเกี่ยวกับเรื่องอนาคต ใครจะมาคบต้องมีงาน ฝากอนาคตไว้ได้ เงินเป็นเรื่องต่อไป งานก่อน

          ส่วนเรื่องรักเราไม่เคยไปห้าม เราไม่เคยไปโวยวายต่อหน้าเลย มีแต่โวยวายลับหลังเขา ไม่กล้าทำต่อหน้าเขาหรอก แต่ความคิดเรา คนมาชอบลูกเราต้องมีหลักแหล่งทำงานการชัดเจน คนที่เทียวไปลอยไปลอยมา เราไม่ได้สนใจเรื่องเงิน แต่ขอให้มีงานทำจริงจัง คนอื่นที่ยังไม่เป็นพ่อเป็นแม่ก็มาด่าเราว่าเลือกจังเลยนะ วันใดวันหนึ่งถ้าเป็นพ่อแม่คนแล้วจะรู้

          ตัวใบเฟิร์นจะกดดันไหมถ้าเจอแบบนี้ กดดันอะไร เราไม่เคยพูดต่อหน้าเขา ลูกเราก็ไม่ได้เดือดร้อนหาเงินใช้เองได้ แต่ถ้ามันจะรักก็เรื่องของมัน เราไม่ไปโวยวาย มันรู้ว่าเราไม่ไปตามราวี แต่เราไม่อยากเจอ ถ้ามันมีงานเป็นหลักเป็นแหล่งก็ได้ ถ้ามันขายลูกชิ้นปิ้งก็ได้แต่ต้องขายจริงจัง จะไปเซอร์ไพรส์หน้าร้านเลย

          ถามกลัวเขามาหลอกลูกเราเหรอ จตุรงค์ เผยว่า ไม่ได้กลัวเขามาหลอกลูก กลัวเขามาเกาะ เห็นมานักต่อนักแล้ว คนไม่มีงาน แล้วผู้หญิงมีงาน ผู้ชายไม่มีงานเลยแบมือขอตังค์อย่างเดียว กลัวแบบนี้มาก กลัวลูกจะต้องทำงานเลี้ยงมัน กลัวที่สุด เรื่องนี้สำคัญที่สุด กลัวลูกเหนื่อยตื่นตีสี่กลับสองทุ่มมานั่งเลี้ยงผัว

          ด้าน แม่กุ้งบอกว่าใบเฟิร์นเขาก็มาคุยกับเราว่า ล่าสุดเขาบอกว่าเจโม่ทำงาน เราก็ไม่ได้ถามแต่เขาเหมือนอยากจะบอก แม่ไม่พูดแล้วแต่เขา พูดไปแล้วก็จะไม่พูดแล้ว ตอนนี้ไม่ได้เจอ ไม่อยากเจอ

          เราก็มีเหตุผลของเรา แม่เขาก็มีเหตุผลของเขา เข้าใจไหมคนเราสิ่งนี้สำคัญที่สุด ยิ่งคนบ้านนอกยิ่งถือใหญ่เลย มีหัวนอนปลายเท้า คำนี้ยังไม่เท่าไหร่ คำว่าทำงานเป็นเรื่องเป็นราว มันต้องทำงาน มนุษย์เราต้องมีงานทำงานเป็นหลักแหล่งชัดเจน ที่มันส่งคลิปมาบอกว่าพยายาม มึงพยายามทำงานให้กูเห็นก่อนเหอะ นี่เปิดทางแล้วนะมีงานอะไรก็ได้ ทำให้เห็นก่อนว่าทำงานจริงเว้ย

          แจ็ค ยังถามทั้งพ่อแม่มีอะไรจะฝากใบเฟิร์นและเจโม่บ้าง ซึ่งจตุรงค์ก็ย้ำเลยว่า ต้องมีงานทำก่อน ให้เขารู้ว่าทำงานจริงจัง ไม่ใช่ทำงานหลอกกู หลอกแม่มันนะ ทำงานเป็นเรื่องเป็นราว มีงานทำทุกวัน ไม่ใช่บอกเป็นดารา ทำงานอาทิตย์ละวัน หรือเดือนหนึ่งทำสองวัน ที่เหลือนอนยาวไม่ใช่อย่างนั้น ไม่เรียกดารา ต้องทำงานแทบทุกวันอย่างนี้เรียกดาราโอเค ถ้าเป็นดาราต้องมีงานถ่ายหนังถ่ายละคร หรือถ้าไม่เป็นดารา ก็ทำอะไรก็ได้ต้องทำงาน ขณะที่แม่กุ้งก็เห็นตรงกันทำงานให้นาน ๆ

          จตุรงค์ ยังทิ้งท้ายว่า ที่พูดวันนี้หลายคนอาจจะด่าลุงเรื่องมาก ต้องมีงาน ต้องมีเงินเหรอ เดี๋ยวเลือกไม่ได้ดีกูจะสมน้ำหน้าให้ มึงไม่เป็นกูไม่รู้หรอก การเป็นพ่อแม่คนจะปล่อยให้ลูกไปเผชิญ ลูกเราฟูมฟักมาตั้งแต่เด็ก ๆ คนมาเป็นสามีลูกเราต้องแทนเราได้สิ ต้องมีงานเป็นหลักแหล่ง ไม่ใช่ไม่มีงานไม่มีเงิน ไม่ได้เห็นแก่เงิน แต่กลัวลูกไปลำบาก กลัวลูกต้องไปเลี้ยงเขา กลัวแค่นี้ กูไม่เห็นแก่เงินหรอก กูมีเงินพอจะเลี้ยงลูกกูได้