เป็นคลิปที่ทำเอาตกใจแรงเลยทีเดียว เมื่อแรปเปอร์หนุ่ม ป๊อก ภัสสรกรณ์ สามีสุดที่รักของดาราสาว มาร์กี้ ราศรี ได้เผยคลิปวิดีโอชื่อ "ตกใจทั้งบ้าน! หมอสั่งผ่าตัดสมองด่วน | ป๊อกกี้ on the run SS4 EP50" ทางช่องยูทูบ Mindset TV ซึ่งในคลิปเล่าว่า ป๊อก มีอาการปวดหัวรุนแรงตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 จึงเดินทางไปหาหมอ ซึ่งทางตัวป๊อก มาร์กี้ และครอบครัว นับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ช็อกมาก ๆ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้
อาการเริ่มต้นเกิดจากอาหารหูอื้อ ตอนแรกไปหาหมอหู ตา จมูก ก็ไม่พบความผิดปกติ แต่อาการก็เริ่มหนักขึ้น เริ่มปวดท้ายทอย ปวดขมับ ปวดทุกอย่างพร้อมกันหมด ปวดจนถึงขนาดรู้สึกว่าจะล้ม ต้องหาอะไรมาจับตลอดเวลา เรียกว่าวิกฤตเลยทีเดียว จึงตัดสินใจไปหาหมอทางด้านสมอง และได้ทำ MRI กระทั่งได้เจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าะจะเกิดขึ้นในชีวิตก็คือ "ก้อนเนื้องอกในสมอง"
หลังจากเจอเนื้องอกแล้ว หมอก็แนะนำว่าให้ผ่าออกโดยเร็วที่สุด ผ่าโดยการเปิดกะโหลก ไม่ใช่แค่ส่องกล้องผ่า เบื้องต้นคาดว่าขนาดประมาณลูกปิงปอง 3.5 เซนติเมตร
ป๊อก บอกว่าตนเองกลัวมาก เพราะเคยมีประสบการที่ไม่ดีคือมีญาติเคยผ่าตัดเกี่ยวกับสมองแล้วไม่ได้ฟื้นกลับมา จึงเกิดการกลัวมาก เพราะคิดว่าถ้าตนเป็นหนึ่งในคนที่ผ่าไปแล้วไม่ฟื้นกลับมา ยังไม่ได้เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมเวลาเลย สิ่งที่ลอยเข้ามาตอนนั้นคือหน้าลูก และครอบครัว รู้สึกเป็นห่วงมาก ๆ
ต่อมาวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ก็ผ่าตัดเสร็จ และต้องรอผลตรวจชิ้นเนื้ออีก 1 วัน ว่าจะเป็นเนื้อร้าย หรือมีอันตรายอย่างไรหรือไม่ และต้องดำเนินการอย่างไรต่อ ซึ่งตอนที่ผ่าตัดออกมาแล้วเห็นก้อนเนื้อ พบว่ามีขนาดใหญ่กว่าที่ประเมินไว้ พบว่าใหญ่เกือบเท่าลูกเทนนิส และหมอต้องการจะประชุมร่วมกันกับสมาชิกครอบครัวโดยด่วน ซึ่งก็เป็นสัญญาณว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างซีเรียส แต่ต่อมาก็ยกเลิก ทำให้คิดในแง่ดีได้ว่าคงไม่มีอะไรให้ต้องกังวลแล้ว
ต่อมาผลตรวจชิ้นเนื้อก็ออก โดยหมอบอกว่า ตอนแรกที่เห็นผล MRI ประกอบกับการที่สมองมีเลือดออกด้วยนั้น เป็นอาการของคนที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ซึ่งมีอายุได้ไม่เกิน 2 ปี ทำให้ทางหมอตัดสินใจที่จะจัดประชุมร่วมกับครอบครัว
แต่เมื่อผลตรวจชิ้นเนื้อแล้วก็พบว่าไม่ใช่เนื้อร้าย ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิดในตอนแรกจึงยกเลิกการประชุมไป ซึ่งถือว่าป๊อก โชคดีมาก
ทั้งนี้ ป๊อกยอมรับว่าแปลกใจเหมือนกัน เพราะทุกอย่างชี้ไปในทิศทางนั้นหมดแล้ว สรุปคือป๊อก เป็นเนื้องอกที่มักพบในเด็กที่อายุไม่เกิน 10 ขวบ น้อยมากที่ผู้ใหญ่จะเจอเนื้องอกแบบนี้ เป็นเนื้องอกที่อันตรายน้อยที่สุด คือเมื่อนำเนื้องอกออกไปแล้วก็ไม่ต้องทำอะไรต่อ สามารถรักษาตัวเองต่อไปได้
