นก อุษณีย์ ช็อก ! เจอไลน์ตัวเองหลุดกลางรายการ สงสัยฝีมือใคร-เอาไปได้ไง ?

             เจอประเด็นดราม่าอีกครั้ง สำหรับดาราสาว นก อุษณีย์ ที่มีข่าวน้องสาวปรึกษา หมอปลา เพราะสงสัยว่าพี่สาวถูกเล่นของใส่จนพฤติกรรมเปลี่ยนไป ทำให้สาวนกต้องออกมาชี้แจงผ่านอินสตาแกรมว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ยืนยันว่าไม่ได้ถูกทำของใส่

              อ่านข่าว : นก อุษณีย์ แจงชัดไม่ได้โดนทำของใส่ หลังน้องสาวร้องหมอปลาให้ช่วย ลั่นไร้สาระ !

              ล่าสุด (2 กุมภาพันธ์ 2565) ก็มีเรื่องให้สาว นก อุษณีย์ ไม่สบายใจอีกครั้ง จนต้องเข้าแจ้งความ หลังพบภาพแชตแคปจากไลน์ส่วนตัวของตนเอง ปรากฏในรายการหนึ่ง ทั้งที่ตนเองไม่ได้เป็นคนปล่อย อีกทั้งโทรศัพท์ก็ล็อกไว้ สงสัยว่าหลุดไปได้อย่างไรกันแน่ จึงต้องขอพึ่งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยสืบเรื่องดังกล่าว โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้

              "กลางรายการสดรายการหนึ่งเมื่อวานนี้ ทางรายการได้นำภาพแชตไลน์มาเผยแพร่ในรายการ นกตกใจมากเพราะแชตไลน์นั้นคือไลน์ส่วนตัวในมือถือนก ผู้ดำเนินรายการพูดในรายการว่ายังมีมากกว่าที่นำเสนออีกด้วย ช่วงที่ดำเนินรายการสดตอนนั้นในหัวมีแต่คำถามว่า "ทำไม ?" ผู้ดำเนินรายการถึงมีสิ่งที่อยู่ในมือถือส่วนตัวของเรา "ใคร ?" เป็นคนเอาแชตไลน์นี้ออกมาจากมือถือส่วนตัวของเรา เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง ? ฝีมือใคร ?

              เมื่อจบรายการจึงทบทวนพบว่า มือถืออยู่กับนกตลอดเวลาและมีรหัสล็อก มีเพียงวันเดียวที่นกทำธุระในสถานที่ราชการที่ไม่อนุญาตให้นำมือถือเข้าไป จึงฝากไว้กับอดีตคนสนิท 2 คนซึ่ง 1 ในนั้นรู้รหัสปลดล็อกมือถือนก

              เบื้องต้นคาดว่าอาจมีการแอบปลดล็อกมือถือนก ไปแคปข้อความที่นกสื่อสารกับบุคคลอื่น ๆ หลายคนออกไปเพื่อเหตุผลบางอย่าง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนก ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นถูกนำไปจับโยงกันเองจนเละเทะ สวนทางกับความจริง พาดพิงคนอื่นหลายคนจนเค้าเสียหายกันหมด นกชี้แจงแล้วก็ยังไม่หยุดไม่จบ นกตัดสินใจแจ้งความขอพึ่ง กม. ให้สืบว่าทั้งหมดนี้คือฝีมือใคร ใครต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องผิด กม. ครั้งนี้บ้าง และผู้เสียหายที่ถูกพาดพิงบางส่วนได้มอบหมายให้ทนายดำเนินคดีแล้ว ผู้เสียหายคนอื่น ๆ ที่เหลือจะตามมาแจ้งความเร็ว ๆ นี้ค่ะ

              นกอดทนมากมาพักใหญ่แล้ว ปรามแล้วห้ามแล้วจนมาถึงจุดที่มีคนอื่นเสียหายจากเรื่องนี้มากมาย ถึงเวลาที่นกต้องแสดงความรับผิดชอบโดยการพึ่ง กม. วอนสังคมหากจะวิพากษ์วิจารณ์ ขอให้อยู่บนพื้นฐานการเคารพสิทธิส่วนบุคคลผู้อื่นด้วยนะคะ"