เปิดปม จอย ไกอา ไลฟ์อ้างถูกขู่ฆ่า ที่แท้สั่งอาหารแต่ยกเลิก - ไม่จ่ายเงิน ยันเคลียร์แล้ว

         จากกรณีระทึกที่ทำให้แฟน ๆ ตกใจไปตาม ๆ เมื่อ นักร้องสาว จอย ณัฐฐานิตา วิชัย หรือ จอย ไกอา ได้ไลฟ์ผ่านอินสตาแกรมเมื่อคืนนี้ (29 เมษายน 2565) ว่าตนและเพื่อน ๆ ถูกขู่ฆ่าที่รีสอร์ต ในเกาะยาวน้อย จ.พังงา จึงไลฟ์ขึ้นมาเพื่อฝากว่า หากตนเกิดอะไรขึ้น หรือหายไปจากโซเชียลใน 24 ชม. ฝากแจ้งตำรวจด้วย ซึ่งต่อมาเจ้าตัวก็เข้ามาอัปเดตว่าได้รับความช่วยเหลือแล้ว มีตำรวจเดินทางมาอย่างรวดเร็ว เรื่องจบที่อีกฝ่ายขอโทษและไล่เธอออกจากโรงแรม

         อ่านข่าว : ระทึก ! จอย ไกอา ไลฟ์บอกถูกขู่ฆ่าที่พังงา ฝากคลิปนี้ไว้ ถ้าหายไป ฝากแจ้ง ตร. !! 

         ล่าสุด (30 เมษายน) นายจําเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า จากการสืบข่าวในพื้นที่ ได้ความว่ากลุ่มนักร้องชุดดังกล่าวเข้าพักที่ โรงแรมฮอลิเดย์ เกาะยาวน้อย โดยเข้าพักในวันที่ 29 เมษายน เวลาประมาณ 13.30 น. จำนวน 7 ห้อง 14 คน

         จากนั้นเวลาประมาณ 15.30 น. มีการสั่งอาหาร แต่เนื่องจากโรงแรมยังไม่เปิดร้านอาหารภายในโรงแรม พนักงานจึงออกไปสั่งซื้อจากร้านข้างนอก ซึ่งอาหารเสร็จเวลาประมาณ 17.00 น. จึงนำไปส่งให้

         แต่ปรากฏว่าทางกลุ่มแจ้งพนักงานว่าได้ยกเลิกการสั่งไปแล้ว จึงเกิดการโต้เถียงกันไปมา และกลุ่มผู้เข้าพักไม่ยอมจ่ายค่าอาหาร ทางพนักงานเลยถามว่าพรุ่งนี้ไปเรือกี่โมง สิ่งที่เกิดขึ้นอาจทำให้ทางกลุ่มเข้าใจผิดว่าถูกไล่

         ต่อมาพนักงานโรงแรมได้รายงานไปยังเจ้าของที่ กทม. ซึ่งทางเจ้าของได้สั่งให้เชิญแขกชุดดังกล่าวออกจากโรงแรม พร้อมคืนเงินให้ทั้งหมด ยืนยันว่าไม่มีการขู่ฆ่าเพราะคนเกาะยาวไม่มีนิสัยเกเรเช่นนั้น ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้ไปพูดคุยตกลงกับที่สถานีตำรวจเรียบร้อยแล้ว 

         อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ได้เผยกับกระปุกดอทคอม ยืนยันว่าทางกลุ่มได้มีการชำระค่าอาหารแล้ว ส่วนเรื่องที่ถูกถามว่าจะขึ้นเรือกี่โมงนั้นไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นอยู่ที่ทางฝั่งคู่กรณีมีการตะโกนข่มขู่ว่า "เดี๋ยวคืนนี้ มึงเจอกู" 

         ต่อมา ว่าที่พันตรี อภิญญา ศักดินันท์ นายอำเภอเกาะยาว เปิดเผยว่า จากกรณีข่าวที่เกิดขึ้น ได้สอบถามข้อเท็จจริงจากผู้เห็นเหตุการณ์ แจ้งว่าในวันที่ 29 เมษายน เวลาประมาณ 13.00 น. คณะของ จอย ไกอา ได้เข้าพักในโรงแรมฮอลิเดอร์ จำนวน 14 คน โดยหลังเข้าพักแล้วมีการสั่งอาหาร ซึ่งทางร้านแจ้งให้ทราบว่าโรงแรมช่วงนี้ไม่มีแม่ครัวอยู่ เนื่องจากอยู่ในช่วงถือศีลอด จึงรับออร์เดอร์ไปสั่งอาหารจากร้านภายนอก

         จากนั้นได้นำอาหารมาส่งให้คณะดังกล่าวช่วงเวลาประมาณ 16.00 - 17.00 น. ทำให้คณะผู้มาพักไม่พอใจ มีการต่อว่าพนักงานว่าสั่งตั้งนานแล้ว ไม่เอา ได้ยกเลิกไปแล้ว ซึ่งทางพนักงานแจ้งว่า ไม่ทราบว่ามีการยกเลิก แล้วค่าอาหารที่สั่งมาประมาณ 1,700 บาท ใครจะเป็นคนจ่าย 

         ทั้งนี้ในการโต้เถียงดังกล่าว พนักงานโรงแรมแจ้งว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งใช้กิริยาวาจาก้าวร้าว พนักงานจึงแจ้งให้เจ้าของกิจการทราบทางโทรศัพท์ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มา ซึ่งต่อมาทางตำรวจ สภ.เกาะยาว ได้เข้ามาระงับเหตุ รวมถึงเชิญตัวทั้ง 2 ฝ่ายไปที่ สภ.เกาะยาว เพื่อทำการไกล่เกลี่ย

         โดยทางโรงแรมได้คืนค่าเช่าที่พักทั้งหมดให้ ส่วนกลุ่มดังกล่าวเช็กเอาท์ออกไปในเวลาประมาณเที่ยงคืน เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัย ทางตำรวจจึงพากลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวไปเข้าพักที่โรงแรมอื่นในบริเวณข้างเคียง ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัยและมีความพอใจ จึงได้ลงคลิปขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาช่วยเหลือได้ทันเวลา

         ทั้งนี้ สำหรับกระแสข่าวในกรณีดังกล่าว สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมในพื้นที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการกล่าวหาที่เกินความจริงทำให้ธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ตำบลเกาะยาวน้อยได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง


* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุด วันที่ 30 เมษายน 2565 เวลา 13.45 น.