ภาพจาก Instagram nichaphatc
เป็นอีกหนึ่งอดีตคู่รักดาราที่เลิกรากันทั้งที่ยังรัก ทำเอาแฟน ๆ เสียดายไม่น้อย เพราะตอนคบกันเป็นคู่ที่น่ารักมาก ๆ สำหรับ แพรวา ณิชาภัทร และ หน่อง ธนา โดยล่าสุด (11 มิถุนายน 2565) ในรายการ Club Friday Show แพรวา ก็ได้มาเปิดใจเล่าถึงเรื่องนี้ ซึ่งนับได้ว่าเป็นแผลที่ยังสดของเธอ ถึงสาเหตุที่รักครั้งนี้มาถึงทางตัน โดยเล่าตั้งแต่เรื่องรัก จนถึงปมทะเลาะ กระทั่งแยกทาง
โดยสาว แพรวา ณิชาภัทร ได้เผยถึงสาเหตุที่โพสต์เพลง "ทางตัน" ช่วงที่เลิกกับ หน่อง ธนา ว่า เพลงเป็นเครื่องมือ ที่บางทีเรามีคำพูดที่อยากพูด แต่ไม่สามารถเรียบเรียงหรืออธิบายได้ แต่เพลงสามารถสื่อได้ รู้สึกว่าเพลงนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ รู้สึกว่าความรักมันไม่มีใครผิด เราพยายามกันทั้งคู่แล้ว เลยเลือกเพลงนี้ เพราะรู้สึกว่าตรง
ภาพจาก Instagram nichaphatc
ที่บอกว่าเป็นแผลสด ตนรู้สึกว่าเริ่มตกสะเก็ดแล้ว เลยรู้สึกว่าเล่าไหว เลิกกันตั้งแต่ช่วงวันที่ 19 มีนาคม ที่ใช้เวลากว่าจะประกาศเรื่องนี้ เพราะช่วงแรกตัวเธอเองก็ไม่ไหวด้วย และคิดว่าพี่เขาก็ไม่ไหว อยากให้รอวันที่โอเค ทำใจได้ทั้ง 2 ฝั่งแล้ว
ตอนนั้นต้องปรับตัวหากันค่อนข้างเยอะ ตอนเป็นคนคุยกันเราจะไม่ค่อยคาดหวัง แต่พอเป็นแฟนเราจะเริ่มคาดหวังแล้ว คือคบกันมาประมาณ 2 ปี เวลามีปัญหาอะไรต้องมีคนกลางคอยช่วย เพราะตนเป็นคนที่เวลาอธิบายอะไร เขาเหมือนไม่เข้าใจเรา ก็พยายามอธิบายฝั่งเขา เราก็อธิบาย แต่มันกลายเป็นว่ายิ่งเราอธิบายกันเท่าไร มันยิ่งไม่เข้าใจกันไปเรื่อย ๆ เลยเหมือนต้องมีคนกลางมารับฟังแล้วช่วยวิเคราะห์ แปลงสารให้มันง่ายขึ้น ว่าแต่ละคนหมายถึงยังไง
มันอาจมีเรื่องอารมณ์ ความรู้สึกส่วนตัวด้วย เวลาเราเป็นแฟนกัน อธิบายไปแล้วเขาไม่เข้าใจ เราจะแบบ ทำไมถึงไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเราเหรอ ฝั่งเขาก็จะรู้สึกว่าทำไมถึงไม่เข้าใจผมเหมือนกัน กลายเป็นว่าเราจะมีอารมณ์กันทั้งคู่ เลยต้องมีคนกลาง หลาย ๆ ครั้งที่เราทะเลาะกัน จะแบบ... แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยว โทร. หาเพื่อน ให้ไปอธิบายให้ฟังหน่อย ว่านี่คือสิ่งที่อยากจะพูดกับเขา แต่เขาไม่เข้าใจเรา เพื่อนก็เคลียร์ให้ แล้วมาบอกเราว่าที่เขาจะสื่อคืออย่างนี้นะ
เรื่องที่ทะเลาะกัน เรื่องหลักคือเรื่องการแต่งตัว หรือบางทีเรื่องเพื่อนผู้ชาย มันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เหมือนเราคุยกันไม่เข้าใจ ผิดที่การสื่อสารของเรา 2 คน ถามว่าเขาเป็นคนขี้หึงเหรอ... มากค่ะ เรื่องแต่งตัว เขาไม่อยากให้แต่งตัวโป๊ อย่างที่แต่งวันนี้ก็ถือว่าโป๊ ถ้าเราใส่กระโปรง มีกางเกงซับข้างใน เรานั่งแล้วเห็นกางเกงซับ เขาก็จะถือว่าโป๊
พอเราทำงานตรงนี้ ก็อยากแต่งตัวสวย คือเราจะมีลิมิตความโป๊ของเราอยู่ เราก็ไม่ใช่คนแต่งตัวโป๊มากอยู่แล้ว ก็เลยรู้สึกว่าแต่งแล้วจะมีปัญหา ก็ไม่แต่งดีกว่า ก็เคยถามว่าต้องแบบไหน เขาก็บอกแล้วแต่คุณเลย เราก็เลยถามเพื่อนผู้ชายที่สนิทว่าแบบไหนโป๊ แต่พอแต่งก็กลายเป็นโป๊สำหรับเขา คือถ้าแต่งแบบนี้ แต่เขาอยู่ด้วย เราแต่งได้
เขาจะอยากรู้เรื่องในอดีตของเรา คือเราเป็นคนไม่แคร์อดีต แต่เขาอยากรู้ก็ให้เขารู้ แต่พอเขารู้แล้วเขาปล่อยวางไม่ได้ ทำให้มีปัญหากัน ตนเลยเลือกโกหกเรื่องอดีต จะได้ไม่มีปัญหา แต่พอเขาจับได้ว่าโกหก ก็รู้สึกว่าทำไมต้องโกหก เราก็อธิบายว่าถ้าเขารู้แล้วก็จะทะเลาะกันไปเรื่อย ๆ ในเรื่องอดีต ซึ่งเราแก้ไขอะไรไม่ได้
ตนเป็นคนที่เป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้ และยังชอบกิจกรรมเตะบอล เลยมีเพื่อน ๆ ผู้ชายเยอะ เราก็รู้สึกว่านี่คือเพื่อน เขาก็ยังหึง แม้จะพามารู้จักกัน ให้รู้ว่าเปฺ็นเพื่อนกัน ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ เคยลองแล้ว ขนาดเพื่อนเกย์ เพื่อนตุ๊ด ก็โดน แค่เพศสภาพเป็นผู้ชายคือหึงหมดเลย
ส่วนเรื่องการแต่งตัวที่เป็นปัญหา ก็ตัดสินใจเปลี่ยนการแต่งตัวดีกว่า ตอนนั้นเปลี่ยนเป็นใส่ฮู้ดดี้ แขนยาวไปเลย ตอนไปถ่ายรายการ การทะเลาะก็ดีขึ้นนิดนึง ตอนนั้นเราไม่อยากมีปัญหา เราทำงานมาเหนื่อย ก็ไม่อยากเหนื่อยกับความสัมพันธ์ เลยตัดปัญหา ไม่อยากแต่งตัวโป๊ แต่งแบบเซฟสุด ๆ
แต่ก็แต่งแบบนี้ทุกวันไม่ได้ ด้วยอาชีพด้วย ผู้จัดการก็ถามว่าทำไมแต่งตัวแบบนี้ มีไปออกรายการ ต้องใส่ชุดของรายการ เราเห็นแล้วว่าน่าจะมีปัญหาแน่เลย เลยถามทีมงานพอจะมีชุดอื่นไหม หรือใส่เสื้อคลุมได้ไหม ผู้จัดการเลยถามว่าหนูเป็นอะไร เลยต้องเล่าให้เขาฟัง ตอนนั้นก็รู้สึกว่าไม่เป็นอะไรหรอก ก็ดีกว่าเหนื่อยใจ
เธอกล้าพูดว่าตัวเองเป็นคนซื่อสัตย์กับความรักมาก ถ้ามีแฟน แต่พอโดนไม่ไว้ใจ โดนระแวงตลอด จนรู้สึกว่ามีจุดไหนเหรอที่เราพลาดในความสัมพันธ์นี้ ทำให้เขาไม่ไว้ใจเลย คิดว่าเราทำเต็มที่มากในความรัก ความซื่อสัตย์ จนเราเริ่มรู้สึกว่าการพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อเขาเริ่มไม่มีความสุขแล้ว
จริง ๆ ในความสัมพันธ์เราปรับกันมาจนจะเลิกกัน 3-4 รอบแล้ว จนมาครั้งหนึ่งที่เรารู้สึกว่าไม่อยากปรับแล้ว เหนื่อยแล้ว รู้สึกว่าเราพยายามเป็นสิ่งที่ดีที่สุดให้เขา แต่มันห่างไกลจากคำว่าดีที่สุดของเขาอีกไกลมากเลย เลยรู้สึกว่าไม่อยากปรับแล้ว เราลองเป็นตัวเองกันเลยได้ไหม คือเขาก็พยายามปรับตัวให้เราเยอะเหมือนกัน จนเราทำเกินตัวกันทั้งคู่ในการปรับให้กัน ทำให้เราไม่เป็นตัวเอง เลยยิ่งทะเลาะกันเข้าไปใหญ่
จุดที่ทำให้ความสัมพันธ์ยุติ คือ แพรวาจะไปกินข้าวกับเพื่อน แต่หน่องน้อยใจที่ไม่ไปกับหน่อง ในมุมแพรวาคิดว่า เดี๋ยวก็จะไปเที่ยวทะเลด้วยกันตั้ง 4 วัน จะได้อยู่ด้วยกัน 2 คน อันนี้แค่อยากไปกินข้าวกับเพื่อน ช่วงนี้ทำงานหนัก อยากเจอเพื่อน
แพรวาคิดว่าตนกับหน่องคือจิ๊กซอว์คนละชิ้นที่พยายามจะปรับเข้าหากัน แต่มันสุดทางแล้ว เข้ากันไม่ได้จริง ๆ นี่คือฟางเส้นสุดท้าย สำหรับแพรวามันใหญ่ เพราะหน่องเป็นคนขอให้เพื่อนคนนี้พาแพรวามาเคลียร์ด้วย อีกทั้งเพื่อนก็เป็น LGBTQ+ ด้วย แพรวาก็แค่อยากไปกินข้าวกับเพื่อน จึงรู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างใหญ่ ถ้ามาแตะเรื่องเพื่อน
