ย้อนสัมภาษณ์ โต้ง - ปราง ก่อนขอแต่งงาน 1 เดือน หรือนี่คือสาเหตุที่เลิกกัน..

          นับเป็นข่าวที่ช็อกหัวใจแฟนคลับ เมื่อความสัมพันธ์ของว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวอย่าง โต้ง ทูพี และ ปราง กัญญ์ณรัณ ที่แม้ว่าจะยังไม่มีใครออกมาชี้แจง แต่นักข่าวชื่อดัง บอย วันบันเทิง ออกมายืนยันว่าทั้งคู่ได้จบความสัมพันธ์กันแล้วจริง ๆ โดยได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งคู่จบกันด้วยดี ไม่มีเรื่องมือที่สาม ส่วนสาเหตุที่เลิกเป็นเพราะเวลาการใช้ชีวิตที่สวนทางกัน

          บอย วันบันเทิง ยังบอกอีกว่า เช็กชัวร์แล้วว่าการออกมาพูดจะไม่เป็นหมา เพราะไม่ใช่แค่ถอยคนละก้าว แต่ต่างฝ่ายต่างยุติบทบาทในฐานะการเป็นคนรักกันเรียบร้อยแล้ว

          อ่านข่าว : นักข่าวดัง ฟันธง ! โต้ง - ปราง เลิกกันจริง เช็กแล้ว มั่นใจไม่หมาชัวร์ - เผยสาเหตุรักพัง..

          เชื่อว่าหลายคนรู้สึกเสียดายความสัมพันธ์รักของ โต้ง ปราง ที่ยาวนานถึง 10 ปี ถึงขั้นขอแต่งงานกันแล้ว ช่วยกันออกแบบและตกแต่งบ้านเรือนหอเสร็จแล้ว ทำให้สงสัยและอยากทราบสาเหตุแท้จริงที่เลิกกันเป็นเพราะอะไรกันแน่ โดยหากย้อนสัมภาษณ์ของปรางในรายการ คุยแซ่บSHOW มีหลายจุดในบทสัมภาษณ์ที่น่าสนใจ และอาจเป็นชนวนเหตุให้หนังสือเล่มนี้จบลงแบบเดิมอีกครั้ง

          ย้อนกลับไปความรักรอบแรก สาเหตุที่ทำให้ปรางตัดสินใจขอจบความสัมพันธ์กับโต้ง ทั้งที่ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ไม่มีเรื่องมือที่สาม ไม่ได้โกรธอะไรกัน จะว่าไปแล้ว.. หากลองเปรียบเทียบดูจะเห็นว่าเหตุการณ์คล้ายกับปัจจุบันที่ความรักดูเหมือนจะหวานฉ่ำ เหมือนทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่ทุกอย่างกลับต้องจบลง ที่ผ่านมา ปรางเคยให้เหตุผลและปัจจัยต่าง ๆ หลายข้อ ไม่แน่ว่าอาจเป็นสาเหตุเดียวกับปัจจุบันด้วยหรือไม่ เรามาไล่เรียงดูกัน !

         1. โต้ง ปราง เริ่มคบกันช่วงที่โต้งเริ่มเป็นศิลปิน มีซิงเกิลแรกออกมาแล้ว ต้องโปรโมตเพลงต่อเนื่อง ซึ่งงานส่วนใหญ่เป็นงานช่วงกลางคืน

          2. ทั้งคู่มีความรักให้กัน แต่ไลฟ์สไตล์ต่างกันมาก คือ ปรางตื่นเช้าไปกองถ่าย ถ่ายละครจนดึกแล้วกลับบ้านไปนอน ทางด้าน โต้ง ชีวิตเขาจะเริ่มช่วงเวลาบ่ายแก่ ๆ หรือตอนเย็น และออกไปยังสถานที่ทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสถานบันเทิง

          3. ช่วงนั้นโต้งกับปรางทะเลาะกันบ่อยครั้ง โต้งจะเป็นคนอารมณ์เสียค่อนข้างง่าย เมื่อก่อนเวลาทะเลาะกันฝ่ายชายจะพูดไม่ค่อยดีแล้วจะวางสายไปเลย แต่มีข้อดี คือ เขาเป็นคนไม่มีอีโก้ เมื่อรู้ว่าผิดก็จะขอโทษเร็วมาก ไม่เกินครึ่งชั่วโมงจะมาง้อ เป็นอย่างนี้มาตลอด ทำให้ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ปรางไม่เครียดเพราะรู้ว่าเดี๋ยวก็ดีกัน

          4. ปรางเคยพูดถึงนิสัยของโต้ง ตอนคบกันรอบแรก ซึ่งทั้งคู่ยังเรียนมหาวิทยาลัย เขาเป็นคนที่มีอารมณ์เป็นศิลปิน เวลาน่ารักก็น่ารักมาก เวลาหวานก็หวานมาก แต่อีกมุมโต้งก็เป็นคิดมาก ขี้งอน เป็นผู้ชายที่มีครบทุกอารมณ์ แต่ช่วงกลับมาคบกันรอบ 2 ทั้งคู่โตขึ้น นิสัยเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ทำให้คุยกันได้สบายใจมากขึ้น

          5. ส่วนนิสัยของปราง เป็นคนรักครอบครัวมาก มีความฝันตั้งแต่เด็ก คือ อยากซื้อบ้านให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน อยากพาครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งความฝันเริ่มชัดขึ้นช่วงที่เธอได้แสดงละครในวงการบันเทิง เธอจึงคิดอยากเต็มที่กับการงานเพื่อให้บรรลุความฝันนั้น

          6. ชีวิตคนทำงานกลางวันกับกลางคืน เวลาสวนกันไปเรื่อย ๆ ต่างคนต่างทำงานทำให้ไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกัน โต้งรู้ดีว่าปรางไม่ชอบปัญหาเรื่องเวลา แต่เขาไม่สามารถจัดการตารางเวลาของตัวเองได้ ปรางเชื่อว่าถ้าเราอยากจะเจอคนรัก ไม่ว่างานจะยุ่งแค่ไหน แต่ก็จะหาเวลามาเจอกันจนได้ ปัญหาในความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มบานปลาย เพราะสำหรับโต้งที่ไม่มีเวลามาเจอ บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องงาน ซึ่งเขายอมรับว่าติดเพื่อนมากเลยทำให้ทะเลาะกัน

          9. เมื่อถามถึงแพลนแต่งงาน ปรางตอบชัดว่ายังไม่พร้อม เพราะสถานการณ์โควิด 19 เพิ่งดีขึ้น หลังจากที่ต้องหยุดนิ่งไป 2 ปี ปรางยังสนุกกับการทำงาน ยังอยากอยู่กับครอบครัว อยากไปเที่ยวกับที่บ้าน เธอคิดว่าถ้าแต่งงานแล้วก็ต้องไปอยู่ด้วยกันไปดูแลสามี ต้องให้เวลากันมากกว่าปัจจุบัน ปรางยังบอกอีกว่าโต้งมีโปรเจกต์เยอะเช่นกัน เหมือนเก็บกดมาในช่วงโควิด เธอจึงยังไม่ได้คิดถึงเรื่องแต่งงาน

          10. มีช่วงหนึ่งที่รายการโฟนอินหาโต้ง ถามว่าอยากบอกอะไรกับปราง หลังจากคบมา 10 ปี โต้ง ทูพี บอกว่า "อยากขอบคุณนะที่ทนมาได้ตั้งนาน" คำนี้บ่งบอกว่าฝ่ายหญิงผ่านอะไรมาเยอะ อดทนต่อเรื่องไม่ดีต่อใจมาเป็นระยะเวลานานหรือไม่

          11. โต้งพูดถึงเรื่องแต่งงาน เขาบอกว่าต้องรอดูสถานการณ์โควิดก่อน และยังต้องเก็บเงินอีกหน่อย ที่ผ่านมาไม่ได้ทำงานเลย แต่ยังต้องจ่ายค่าบ้านมาตลอด จึงขอเวลาอีกหน่อย

          ทั้งคู่พูดถึงเรื่องแต่งงานในรายการคุยแซ่บShow ออกอากาศวันที่ 29 ตุลาคม 2564 และผ่านไปไม่ถึงเดือนก็มีเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงานที่นิวยอร์ก และมีภาพลงอินสตาแกรม 24 พฤศจิกายน 2564 เป็นโมเมนต์ที่ซาบซึ้งใจน้ำตาไหลกันทั้งคู่      

   12. เมื่อเวลาผ่านไป นักข่าวสอบถามถึงเรื่องงานแต่ง ทั้งคู่บอกว่าจะจัดในปี 2566 ส่วนฝ่ายเจ้าสาวก็ยังไม่ได้เริ่มดูเรื่องชุดแต่งงาน ยังไม่มีการวางแผนงานแต่งอย่างละเอียด

          13. ต่อมาพบว่าอินสตาแกรมของทั้งคู่ไม่มีภาพหวานเหมือนอย่างเคย โมเมนต์สวีตหายไปนาน กระทั่งมีข่าวลือเรื่องเลิกกันออกมา

          14. บอย วันบันเทิง ออกมายืนยันว่าเลิกกันจริง ตัดสินใจจบกันด้วยดี ไม่ได้ทะเลาะ ไม่มีเรื่องมือที่สาม แหล่งข่าวบางคน เผยกว่า ฝ่ายหญิงมาถึงจุดที่หมดความอดทนกับบางเรื่อง และคำพูดบางคำของฝ่ายชายก็อาจจะทำร้ายหัวใจของฝ่ายหญิงด้วย ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ที่เลิกรากันเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดมากของทั้งคู่

          15. ครั้งหนึ่ง ปรางเคยให้สัมภาษณ์ว่าครอบครัวของเธออยู่ด้วยกันอย่างอบอุ่นมาตั้งแต่เด็ก กระทั่งวันหนึ่งคุณพ่อ-คุณแม่ ตัดสินใจแยกทางกัน ตอนนั้นเธอโตแล้ว เธอได้เข้าใจหัวอกจากครอบครัวจากสมบูรณ์ไปสู่ความไม่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นแผลในใจเธอเรื่อยมา

          16. หลังจากถูกขอแต่งงาน ปรางไม่ได้มองโต้งเป็นแค่ผู้ชายที่รักแล้ว แต่มองไปการเปลี่ยนสถานะชีวิตและการสร้างครอบครัว ถ้าต่างฝ่ายต่างมีงานรัดตัวและอยู่ในช่วงจุดสูงสุดของชีวิต โอกาสเจอกันน้อยลง สุดท้ายจะเป็นครอบครัวได้อย่างไร ปรางรู้ดีว่าการที่พ่ออยู่ทาง แม่อยู่อีกทาง คนเป็นลูกมันเจ็บปวด ถ้าจะมีครอบครัวก็อยากจะสร้างให้สมบูรณ์