เคนโด้ เผยเบื้องลึก พิ้งค์กี้ ทำไมถึงโดนจับ แม่ส่อเกี่ยวเต็ม ๆ - ช็อกอาจคุกอ่วม 5 หมื่นปี

           จากรณีข่าวดาราสาว พิ้งค์กี้ สาวิกา ไชยเดช กับคุณแม่และพี่ชาย ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ หลังศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว จากคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D พร้อมด้วยจำเลยในคดีนี้รวม 19 ราย ที่ถูกแจ้งข้อหาหนัก ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นที่สนใจมากเพราะบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นดาราที่มีชื่อเสียงนั้น

           เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 รายการแฉ GMM25 ได้เชิญ เคนโด้ เกรียงไกรมาศ พิธีกร ผู้ประกาศข่าว ซึ่งติดตามกรณี Forex-3D มาตั้งแต่แรก เล่าถึงข้อมูลที่น่าสนใจถึงเบื้องหลังที่มีผู้เสียหายเยอะ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนที่เข้ามาทำ Forex-3D หน้าตาดีทั้งนั้น เพื่อทำให้ธุรกิจดูดี ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งดาราเหล่านี้อาจเป็นผู้เสียหายด้วย ไม่แน่ใจว่าดาราเหล่านั้นชวนคนด้วยหรือเปล่า

           ตอนนั้นคนไปลงทุนกันเยอะมาก มีการันตีเงินต้น ลงทุนแล้วไม่เสี่ยง ได้รีเทิร์นค่อนข้างเยอะ ที่สำคัญมีคนหน้าตาดี บุคลิกดี สวยหล่อเล่นเต็มไปหมด มีดารานักแสดงด้วย ขณะที่มดดำเสริมว่า มีการนำดาราเหล่านี้มาเทกแคร์คนที่ลงทุนด้วย ซึ่งอาจจะยอมในจุดนี้ มีล้านอาจจะลงล้าน เพราะไปเที่ยวบาร์โฮสต์หมดมากกว่านี้อีก (ดาราที่เกี่ยวข้อง) แต่ละคนระดับพระเอก เด็กเล่นหนังผู้ชาย 20-30 คน

           เคนโด้ กล่าวอีกว่า เด็กเหล่านี้ดูรวยขึ้นจริง ๆ จากตัวประกอบธรรมดา วันหนึ่งมีการถ่ายภาพกับรถสปอร์ต รถหรู ซื้อบ้านใหม่ มีนาฬิกาแพง ๆ ทำงานอะไรทำไมรวยเร็วจัง กระบวนการนี้เป็นการเอาเงินคนใหม่มาจ่ายคนเก่า ไม่ต่างจากแชร์ลูกโซ่ คนที่จะลงเงิน จะลงเองไม่ได้ ต้องมีคนแนะนำเท่านั้น ต้องผ่านแม่ทีม เพราะมีค่าแนะนำ ยิ่งชวนมากยิ่งได้เงินมาก

           หนึ่งกรณีนี้ที่ชวนคนลงเงินเยอะคือ แม่ของพิ้งค์กี้ ที่โดนเพราะจุดนี้เลย แหล่งข่าวบอกว่า คุณแม่มีความสนิทกับคนในวงการเยอะ ก็ชวนคนในวงการบันเทิง โดยให้โอนเงินไปให้คุณแม่ แม่ก็ตัดหัวคิวเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ตัวเองจะได้ (มดดำ กล่าวเสริมว่า เหมือนที่เขามาเสนอให้ฉันนี่แหละ)

            จากนั้นก็ส่งเงินเข้าบริษัท แล้วดาราที่คุณแม่ชวนก็เยอะมาก ซึ่งขอไม่เอ่ยชื่อ เพราะดาราเหล่านี้เป็นผู้เสียหาย (มดดำ กล่าวเสริมว่า นอกจากดาราแล้ว ช่างแต่งหน้าโดนกันครึ่งวงการบันเทิง) เหตุที่ช่างแต่งหน้าโดนเยอะเพราะไปหลายช่อง มีหมดทุกช่อง จะมีคนมาถามตลอดว่าคดีไปถึงไหนแล้ว

           กรณีที่ พิ้งค์กี้ และคุณแม่ไม่ได้ประกันตัว เนื่องจากคดีนี้มีโทษหนัก ผู้เสียหายเกือบหมื่นคน มูลค่าความเสียหาย 2,500 ล้าน เริ่มจากที่พี่ชาย พิ้งค์กี้ ไปเปิดบริษัทร่วมกับนายอภิรักษ์ ซึ่งเป็นบริษัทในการทำ Forex-3D (มดดำ กล่าวเสริมว่า ที่ตนไม่เชื่ออภิรักษ์ เพราะครั้งหนึ่งเคยมาออกรายการ ตอนนั้นยังบอกเขาต้องเก็บเงินไปทำจมูก  จึงข้องใจว่าเอาที่ไหนมารวยพันล้าน) เจ้าตัวเพิ่งโดนยึดทรัพย์ไป รถสิบกว่าคัน ของอย่างอื่นอีก 200 กว่าล้าน ยังยึดไม่หมด โดยพี่ชายพิ้งค์กี้มีสายสัมพันธ์กับอภิรักษ์ คือการเปิดบริษัทร่วมกัน แบบนี้ผิดตรง ๆ เพราะมีชื่อในบริษัท

           ทางอภิรักษ์เปิดหลายบริษัทซึ่งคาดว่าใช้บริษัทเหล่านี้ในการฟอกเงิน มีบริษัทหนึ่งเป็นบริษัทบันเทิง มีอภิรักษ์ถือหุ้นร่วมกับพิ้งค์กี้และคุณแม่ มีเส้นทางการเงิน กับบริษัททำ Forex-3D บริษัทบันเทิงดังกล่าวเห็นว่ามีการทำหนังแต่ไม่ได้ดัง เอาเงินมาถลุงเฉย ๆ ให้มันมีรายจ่าย แล้วเส้นทางการเงินของ พิ้งค์กี้เอง ข่าววงในบอกว่ามีการโอนเงิน จากบริษัท Forex-3D มาทางบัญชีของพิ้งค์กี้ด้วย

           กรณีที่คนลงเงินไปแล้วยังเชื่อว่าจะได้เงินคืน เนื่องจากเจ้าของ Forex-3D ยังคงโพสต์โชว์ชีวิตหรูอยู่สบาย มีเครื่องบินเจ็ต มีรถ ภรรยาก็ถือกระเป๋าแบรนด์เนมเยอะมาก ทำให้ดึงดูดว่าถ้ามาทำกับเขาจะร่ำรวย แต่ต่อมามีข้อมูลหนึ่งหลุดจากหลังบ้าน ตอนนั้นวงจะแตก ทางอภิรักษ์กับพวก ทำการแคปหน้าจอของที่คนลงทุนออกมาในโซเชียลแล้วขู่ว่า ถ้าไม่โอนเงินมาให้เขา จะเอาข้อมูลเหล่านี้ไปให้ดีเอสไอ ซึ่งข้อมูลที่แหล่งข่าวไปแคปมาได้แม่ทีมใหญ่เป็นชื่อของแม่พิ้งค์กี้ มันเป็นเครือข่ายหลังบ้านของกลุ่มนี้ แต่ตนไม่ยืนยันว่าข้อมูลนี้คือฐานข้อมูลจริงหรือเป็นสิ่งที่อภิรักษ์โลกน์ขึ้นมา

           เบื้องต้นพบว่าคุณแม่พิ้งค์กี้ลงทุนไปล้านกว่าบาท แต่ที่น่าตกใจคือพิ้งค์กี้มีเงินลงทุนที่ระบุอยู่ในนั้น 33 ล้าน ทางอภิรักษ์ก็พยายามจะระดมทุนอยู่ตลอด ถ้าไม่มีเงินเข้าระบบก็ไม่จ่ายออก ต้องให้ลงทุนไปเรื่อย ๆ ถึงจะได้เงินคืน ส่งผลให้มีคนลงเพิ่มอีกเยอะไปหมด

           มดดำ เล่าย้อนว่า พิ้งค์กี้ไปรู้จักอภิรักษ์ตอนทำศัลยกรรมใหม่ ๆ ตอนนั้นเป็นยุคที่มีการแคสต์งานกันเยอะ อภิรักษ์ก็ไปแคสต์เรื่องต่าง ๆ จนได้รู้จักกับพิ้งค์กี้ เท่ากับว่าพิ้งค์กี้รู้จักอภิรักษ์ตั้งแต่ก่อนทำ Forex-3D