เฌอเบลล์ รับซึมเศร้าจนฆ่าตัวตาย-โดนคนในวงการแซวยังมีคนจ้างเหรอ !?

          นักแสดงสาวสวย เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน ที่เบื้องหน้าเป็นคนเฮฮา แต่หลายคนยังไม่รู้ว่าเจ้าตัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่เด็ก และอาการหนักขึ้นจนเคยฆ่าตัวตายมาแล้ว พร้อมเปิดโฉมหน้าแฟนหนุ่มที่นี่ที่แรก ซึ่งเป็นญาติของ จิน สามีหนิง ปณิตา ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow ออกอากาศทางช่อง one31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา ดำเนินรายการ

          เฌอเบลล์ : ขอบคุณค่ะ เรื่องเพิ่งจะเกิดเดือนนิด ๆ ค่ะ ตอนนี้เข้าใจว่ามันเป็นธรรมชาติ ทำใจได้แต่ยังไม่ชินมากกว่า กิจกรรมที่เราทำกันตลอดมันหายไป เราเห็นการถดถอยของช่วงวัยชรา จนวันที่เขาจะไปเขาก็โทร. ถามหาเราตลอด แต่เราติดงานอยู่บินไปไม่ได้ที่ภูเก็ต กว่าจะได้กลับไปคืออีก 5 วัน ในช่วงนั้นจิตใจไม่ดีตลอด เขาจะไปวันไหนก็ได้ วินาทีไหนก็ได้ใน 5 วันนั้น หนูก็ได้แต่ภาวนา ได้กลับไปบอกลาสักคำหนึ่ง ซึ่งก็เป็นอย่างนั้น เขาให้เวลาหนูเยอะอยู่ เขาแค่บอกเราว่าเขาจะนอนแล้วนะ กลับบ้านกันไปได้แล้ว ถอดออกซิเจนออก เขาพูดอย่างงี้

          เฌอเบลล์ : จริง ๆ มันจะมีขึ้น ๆ ลง ๆ บ้าง แต่มันกลับมาช่วงจังหวะโควิด งานไม่สเถียร แต่เรามีค่าใช้จ่ายปกติ เป็นห่วงด้วยเราอยู่กับคนอายุเยอะ เครียดไปหมดจะหาเงินจากไหน คุณพ่ออาการทรุดลงเรื่อย ๆ ช่วงโควิดมันเห็นชัดมาก

          เฌอเบลล์ : ใช่ค่ะ ไม่ได้โทษใคร เราเข้าใจว่าคนที่เป็นพ่อแม่คนจะต้องพร้อมในการจะเลี้ยงดู คุณแม่หนูเป็นคุณแม่ที่เก่งแต่เขายังไม่พร้อม ณ จุดนั้น เพราะฉะนั้นในการรับมือเด็กคนหนึ่งที่มีภาวะเป็นไฮเปอร์ด้วย รับมือยาก เราเป็นคนที่อ่านกลับหลังด้วย กว่าเราจะรู้เราต้องไปหาจิตแพทย์ตั้งแต่เด็ก อันนี้ที่เมืองนอก มีปัญหากับสารเคมีในสมอง แล้วบวกกับเราเป็นคนเซนซิทีฟมาก แค่ดุเบา ๆ เราจะเสียใจมากแล้ว ด้วยที่เราเป็นเด็กซน เขาอาจจะดุเรามากกว่าปกติ เขาเลี้ยงแบบดุ ๆ หน่อย เลยทำให้เราเป็นเด็กเก็บกดด้วยค่ะ เป็นเด็กเก็บตัวไม่ค่อยคบเพื่อน มีเปลี่ยนสภาพแวดล้อมตลอด

          เฌอเบลล์ : ด้วยความที่เราไม่เข้าใจว่าเราทำอะไรผิด แม้กระทั่งการสั่งการสั่งกลับหมดเลย คุณแม่ก็ยังไม่เข้าใจ เพราะเขายังไม่รู้ ทุกวันนี้ดีขึ้น มีฝึกการพัฒนาทำกิจกรรมเรื่อย ๆ เพื่อสร้างความเคยชินให้สมองเรา พออายุ 12 มาไทยก็ต้องปรับตัว เพราะต้องพูดภาษาไทย

          เฌอเบลล์ : เริ่มเข้าวงการเลยค่ะ เรื่องแรกที่หนูเล่นยังให้คุณแม่ช่วยอ่านแล้วเขียนภาษาไทยคาราโอเกะ คนในกองก็คอยแปลให้

          เฌอเบลล์ : คุณแม่เลี้ยงมาแบบไทยสไตล์ ไม่มีชม แนวกดดัน คุณพ่อจะเลี้ยงแบบฝรั่งเป็นเหตุและผล มีการชม ซึ่งเราชอบแบบคุณพ่อ แต่พอเจอแบบคุณแม่ ตั้งใจทำดีมากอยากให้เขาชม เขาบอกทำได้แค่นี้เองเหรอ เรารู้สึกเฟล คิดว่าเขาไม่รักเราหรือเปล่า มันเป็นปมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเรา

          เฌอเบลล์ : เราเป็นคนคิดดีกับใคร ไม่คิดว่าใครจะคิดไม่ดีกับเราหรือต้องการอะไรจากเรา แต่บางครั้งทุกอย่างที่เขาทำเป็นโอกาสของเขา พอเรามารู้ตอนหลังมันเป็นสาเหตุที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่เหลือใครนอกจากครอบครัวแล้ว เพื่อนก็คืออีกครอบครัวหนึ่งของเรา พอไม่เหลือทั้งคุณแม่ทั้งเพื่อนเราเลยรู้สึกว่าไม่เหลืออะไรแล้ว ทั้ง ๆ ที่เรามีทุกอย่าง แต่ทำไมเราไม่เหลือความรักที่เราต้องการ

          เฌอเบลล์ : มันเป็นมานานด้วยค่ะโดยที่เราไม่รู้ ไม่สามารถหยุดคิดได้เลย การทำงานที่ไม่ได้นอนด้วย เครียดด้วยหลาย ๆ อย่างรวมกัน ทำให้อาการซึมเศร้าหนักขึ้นเรื่อย ๆ

          เฌอเบลล์ : ผูกคอตายเลย ไม่บอกใคร นั่ง ๆ มองเพดานเอาเชือกผูกเลย แขวนไปแล้วเตะเก้าอี้ มันรัดคอหายใจไม่ออก มันทรมานมาก น้ำตามันเริ่มไหลออกมา บอกตัวเองไม่ได้อยากตายแล้ว แล้วจุดนั้นโคมไฟที่ไปแขวนกับผนังร่วงลงมา ครั้งแรกที่รู้สึกคือรอดแล้ว มันดีใจจนร้องไห้

          เฌอเบลล์ : ไปพบหมอ แต่ก่อนไปพบหมอเราชอบศึกษาอะไรเอง แล้วรู้สึกว่าที่เราเป็นมันไม่ปกติ ก็อ่านเจอ คิดว่าเป็นแต่ไม่รู้ขั้นไหน เราไปบวชเจอกลุ่มนักบำบัด เขาก็พาไปเจอหมอ คุยกับคุณหมอ ก็ได้ทานยา ทุกวันนี้ยังต้องทานยา

          เฌอเบลล์ : ถ้าหยุดเองมันอันตรายมาก ถ้าหยุดเลยวันหนึ่งอาการกำเริบจะเป็นหนักกว่าเดิม แล้วตัวยาที่เราเคยกินมันจะใช้ไม่ได้ผล

          เฌอเบลล์ : มีหลายเรื่อง การทำงานต้องทำงานอย่างมีความสุข คือเรามีความสุข แต่เขาเป็นส่วนสำคัญในการทำงานกับตัวนักแสดงอยู่แล้ว เราต้องมีการพูดคุยกันเยอะ ถ้าการพูดคุยกับเขาไม่เข้าใจคนที่เป็นโรคซึมเศร้ามันค่อนข้างที่จะทำงานด้วยกันยาก เราเข้าใจว่าเขาพูดโดยไม่คิด แต่สภาพจิตใจกับเคมีในสมองเรามันไม่สามารถควบคุมได้สมองเรามันเก็บไปคิดหมดแล้วมันก็แย่ไปเรื่อย ๆ เขาพูดตลอดเวลา รู้สึกเหมือนเขาบูลลี่เรา ว่าเราต่อหน้าคนเยอะ ๆ บางทีมันเป็นอะไรรู้สึกแย่

          เฌอเบลล์ : เราเป็นคนปกติเฮฮา ไม่ชอบให้ใครมารู้ว่าจริง ๆ เสียใจร้องไห้หรืออะไร แต่พอทำงานเสร็จแยกจากทุกคนขึ้นรถ นั่นคือวินาทีปิดประตูปั๊บน้ำตาไหลเลย มันเหมือนอั้น แม้กระทั่งในงานเรารู้สึกแย่ที่เขาทำแบบนั้นกับเรา แต่เราก็จะยิ้ม เราไม่ต้องทำลายบรรยากาศตรงนั้นให้แย่ บางทีเราเจอประโยคจากเพื่อนในวงการก็มี บางทีเขาแซวเล่น เรารู้ว่าเขาแซวเล่น แต่มันแรง เขาเดินมาแบบ อุ๊ย ! มีคนจ้างงานอยู่เหรอ เราพยายามบอกตัวเองว่าเขาพูดเล่น แต่ในใจเรามันเสียไปแล้ว อาการก็มีกำเริบมาบ้าง เราพยายามนั่งสมาธิให้มากขึ้น มีสติให้มากขึ้น เพื่อที่จะตามอารมณ์เราให้ทัน

          เฌอเบลล์ : มีค่ะ คบกันมาจะ 2 ปีแล้ว เขาชื่อแก้ว รู้จักจากเพื่อนหนู รู้จัก 5-6 ปีได้ก่อนจะมาเป็นแฟน เขาเหมือนเดิมมาตลอดตั้งแต่รู้จักมา เรารู้สึกลองคุยกันเรื่อย ๆ ก่อน ต่างคนต่างโสดพอดีช่วงก่อนโควิด ก็คุยกัน

          เฌอเบลล์ : เขาเป็นคนนิสัยดีมาก เป็นคนใจเย็นกับเรามาก ๆ ยอมรับว่าหนูเป็นคนใจร้ายขึ้นมาก ๆ หลังจากเจออะไรในชีวิตเรื่องราวความรัก หนูปิดเขาเยอะมากถ้าเทียบกับตอนก่อนหน้านี้ เป็นเพื่อนเป็นพี่ เขามาจีบรอบนี้เราค่อนข้างปิด ไม่ได้เปิดเต็มที่ ไม่ยอมเปิดตัวไม่อะไรเหมือนที่ผ่านมา เขาอยากให้เปิดนั่นแหละแต่เขาเข้าใจ

          เฌอเบลล์ : เข็ดมากค่ะ ตอนแรกเขาก็เหมือนไม่เข้าใจ แต่สุดท้ายก็เข้าใจ เอาที่เราสบายใจมีความสุข

          เฌอเบลล์ : ยังค่ะ มีรูปค่ะแต่เราเก็บไว้ในเครื่องเรา

          เฌอเบลล์ : ขอบคุณมาก ๆ ที่เขาใจเย็นกับหนู ขอบคุณที่รักและเอ็นดูเสมอ ขอบคุณที่เข้ามาเป็นทุกอย่างในชีวิต

          ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ YouTube Channel : Orange Mama