ช็อก ! บิว จักรพันธ์ ถูกแฉซ้อมแฟน-คบซ้อน ถูกงัดหลักฐาน บอกอยากฆ่า !?

          หลังเป็นประเด็น วานนี้ (21 มกราคม 2566) บิว จักรพันธ์ ได้ไปออกอีเวนต์และในช่วงท้ายงานได้มีการรวมตัวกับกลุ่มแฟนคลับเพื่อชี้แจงประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าสนิทกับ ป. มีเวลาที่ดีร่วมกัน แต่ตอนนี้ได้ตัดความสัมพันธ์แบบเพื่อนกันไปแล้ว และเคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ทั้งเรื่องเงิน รถ ทุกอย่างจบไปแล้ว
 

          ยืนยันว่าไม่เคยคิดที่จะทำร้ายอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางใจ ไม่มีใครอยากทำร้ายหรือโดนทำร้าย ส่วนเรื่องชื่อเรื่องและพล็อต ตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ และบอกกับแฟนคลับว่า "อยู่กับผมเจ็บปวดหน่อยนะครับ"
 

          ทำให้แฟนคลับต่างพากันสะเทือนใจและสงสารบิว บางรายก็ส่งเสียงร้องไห้ตาม ขณะที่ในโลกโซเชียลก็มีแฟน ๆ ออกมาให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก และเชื่อในคำพูดของนักแสดงหนุ่ม บางรายยังเข้าไปโจมตีฝ่ายหญิงคู่กรณีด้วย
 

          ล่าสุด (22 มกราคม 2566) นักเขียน ป. ได้ออกมางัดหลักฐานฟาดคืน ยืนยันว่าเธอและบิวคบหาเป็นแฟนกันจริง และเธอถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกายมาโดยตลอดจริง ส่วนที่ไม่เคยออกมาพูดหรือบอกให้ใครรับรู้ เพราะยอมโดนทำร้ายเอง อีกทั้งกลัวและไม่อยากให้ฝ่ายชายเสียชื่อเสียง
 

          โดยระหว่างที่คบกัน บิวมีการคบซ้อนกับแฟนเก่าที่บิวบอกว่าเลิกรากันไปแล้วมาโดยตลอด ทั้งยังนำสิ่งของ รถยนต์ ตลอดจนเรื่องทางการเงินเข้ามาเกี่ยวข้องไปใช้กับผู้อื่น จึงเป็นเหตุให้ต้องเลิกรากันไป แต่หลังจากนั้นผู้หญิงคนดังกล่าวก็เพิ่งมาบอก ป. ว่าไม่เคยเลิกกันเลย
 

          ที่ต้องออกมาพูดในตอนนี้ก็เป็นเพราะว่าไม่สามารถติดต่อบิวเพื่อสอบถามถึงเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ จนคุณแม่ทราบเรื่องและเค้นความจริง จนเป็นเหตุให้ต้องออกมาพูดเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้หญิงโดยไม่ได้ติดใจประเด็นใด ๆ นอกจากการทำร้ายร่างกาย
 

          ซึ่งขณะนี้ได้นำหลักฐานทั้งหมด อาทิ แชตสนทนา หลักฐานการโอนเงิน การซื้อของให้ การนำรถที่ให้ใช้ไปใช้กับผู้หญิงคนอื่น การคบซ้อน ฯลฯ เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว และขอยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง
 

          อย่างไรก็ตาม หลังมีประเด็นออกมาก็ทำให้ตลอดทั้งวันในวันนี้โลกทวิตเตอร์ระอุสุด ๆ ส่งผลให้แฮชแท็ก #บิวทําร้ายร่างกายผู้หญิง ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีแฟนคลับของบิวอีกด้านที่ไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง และยังรอให้บิวและต้นสังกัดออกมาชี้แจงเรื่องทั้งหมดอีกครั้ง