โดนดราม่าตั้งแต่ต้นปี สำหรับนางเอกสาว แมท ภีรนีย์ หลังตกเป็นจำเลยสังคมเพราะถูกโยงว่าเป็นมือที่สามของซุปตาร์สาว อั้ม พัชราภา กับ ไฮโซพก พรประภา ล่าสุด (2 กุมภาพันธ์ 2566) ก็ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกในรายการ แฉ
โดยสาวแมทเปิดเผยว่า อยากขอบคุณพี่สงกรานต์ และครอบครัวที่ช่วยแก้ข่าว ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ไม่เคยทอดทิ้งและก็จับมือแมทตลอด เป็นสิ่งที่แมทซาบซึ้งในหัวใจมาโดยตลอด ก็อยากขอบคุณจากหัวใจ
ส่วนความรักกับ สงกรานต์ อย่างที่หลายคนทราบนั้น สาวแมทยืนยันว่าตอนนี้ก็ไม่ได้เลิกกัน ยังรักกันเหมือนเดิม พี่เขายังให้กำลังใจ ส่วนข่าวที่ออกมาว่าเลิกกันทางพี่สงกรานต์ก็ไม่ได้หยุมหยิมกับอะไรพวกนี้ เพราะเขาก็ทำงานเยอะ มีเป้าหมายในชีวิต และเรื่องพวกนี้ไม่สามารถดึงความสนใจไปจากเขาได้
ภาพจาก Instagram mattperanee
อีกทั้งเขายังรู้อยู่แล้วด้วยว่าแมทกับพี่พกรู้จักกันมานานแล้ว รู้จักกันมาก่อนที่จะรู้จักพี่สงกรานต์ พี่เอมมี่ มรกต จะรู้ดีว่าเราแฮงเอาต์กันมานานแล้ว เคยไปเจอกับคนก่อน ๆ ของพี่พกมาตลอด เราสนิทกันมาตลอด กับพี่พกคือเราเป็นมากกว่าเพื่อน เพราะเราคือพี่น้องจริง ๆ พี่พกเรียกแมท "อีแมท" นึกออกไหมคะ (หัวเราะ)
ยอมรับว่าข่าวที่ถูกโยงเป็นมือที่สามของพี่พกสร้างผลกระทบให้เยอะมาก แต่เรื่องที่เราซีเรียสที่สุดคือเรื่องมุมมองของผู้หญิง เราเป็นห่วงความรู้สึกของผู้หญิงด้วยกัน อีกเรื่องคือเราทำให้คนรอบตัวเราเดือดร้อนอีกแล้ว เราต้องขอโทษจริง ๆ ที่คิดน้อยเกินไป จริง ๆ
สำหรับเรื่องนี้ก็ไม่อยากพูดแล้ว อยากให้เรื่องนี้จบแล้ว เลยรู้สึกว่าเราต้องหนักแน่นเพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อของคำพูดในข่าวของคนอื่น ซึ่งเราก็ได้อธิบายไปค่อนข้างเคลียร์แล้ว และไม่มีอะไรจะพูดไปมากกว่านี้แล้ว
ภาพจาก Instagram pokphornprapha
สาวแมท ยังเผยอีกว่า สงกรานต์ เป็นต้นแบบที่ดีให้แมทในหลาย ๆ เรื่อง ถามว่าชีวิตเปลี่ยนไปเพราะคบกับเขาจริงไหม คือในมุมของแมทมองว่าเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ตั้งแต่คบเขาเราดูโตขึ้นทางด้านการคิด เพราะเขาเป็นผู้ใหญ่กว่าเราเยอะมาก และเขาก็เจออะไรที่หนักกว่าเรา
และที่เราซาบซึ้งตลอดคือเขาไม่เคยปล่อยมือเราเลย ทุกครั้งที่มีอะไรที่ทำให้เราท้อ เสียใจ ร้องไห้ ดาวน์ เขาจะคอยจับมือให้เราสู้ต่อ แมทได้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ทำให้เราคิดว่าเราต้องโตขึ้น ทำอะไรต้องคิดให้เยอะขึ้น มีสติมากขึ้น เพราะทุกคนคอยช่วยเหลือเรา แต่คงจะให้คนอื่นมาช่วยเหลือเราตลอดไม่ได้
สาวแมท ยังเปิดใจถึงเรื่องกระแสแอนตี้และข่าวดราม่าที่โดนมาตลอด 5 ปี ว่า ตอนแรก ๆ ก็เจอแบบนั้น แต่ตอนนี้โอเคแล้ว ถามว่าผ่านมาได้ยังไง คือเราก็ยังตอบเหมือนเดิมว่าไม่รู้เหมือนกันว่าผ่านมาได้ยังไง เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราอดทนเก่งขนาดนี้ จริง ๆ อ่อนแอบ้างก็ได้ ยอมรับว่ามีร้องไห้ตลอด แต่จะไม่ทำให้ใครเห็น จริง ๆ เราก้าวผ่านมาได้โดยการไม่รับอะไรเลย ไม่รับเลยเพราะกลัว ถ้าโดนคนเดียวเราทนไหว เเต่ถ้าคนอื่นโดนด้วยมันไม่เเฟร์กับเขาเลยที่จะต้องมาเกี่ยวเนื่องกับข่าวไร้สาระของเรา
ส่วนจะกลับไปเล่นละครได้เมื่อไร คือจริง ๆ มีคนติดต่อมาตลอด ทางช่องก็บอกว่าให้รับละครได้แล้ว ไม่รับมานาน 3-4 ปี เเล้ว ช่องต่อว่าตลอดว่ารับได้เเล้ว คิดถึงอยากรับเเต่ยังไม่พร้อม ช่วงที่ไม่รับละครเราก็ไปทำธุรกิจของตัวเอง พอได้ถอยห่างจากวงการเราก็พบความสุขอีกอย่างหนึ่ง เราเข้าวงการมาตั้งเเต่อายุ 12-13 ปี เเต่พอถอยออกห่างมาเเล้วเราก็รู้สึกดี เราเองก็คิดถึงอยากกลับมานานแล้ว
แต่ถามว่ากลัวอะไรอยู่ไหม คือเหมือนเราห่างไปนาน และระบบการถ่ายทำมันก็เปลี่ยนไป โปรดักชั่นมันเป็นยังไงไม่เหมือนเก่าแล้ว อีกทั้งยังก่อนหน้านี้เราเล่นบทนำเป็นบทกุ๊กกิ๊ก วัยใสมาตลอด แต่ตอนนี้อายุ 30 กว่าแล้วเลยรู้สึกอยากเลือกบทที่เราไม่เคยเล่น หรือท้าทายเรามากกว่า ตอนนี้ก็ยังมีสัญญากับ ช่อง 3 อยู่
