แม้จะป่วยหนักแต่ก็สู้สุดใจรักษาตัวมาโดยตลอด สำหรับ คุณหญิงแมงมุม ม.ร.ว.ศรีคำรุ้ง ยุคล ที่ต้องรักษาตัวเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลมานานหลายปี และได้คุณสามี นายพลดอลล่าร์ พล.ต. พัชร รัตตกุล คอยดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ห่าง
ล่าสุด (2 พฤษภาคม 2566) มดดำ คชาภา ก็ได้พา คุณหญิงแมงมุม และ นายพลดอลล่าร์ ออกมาเปิดใจผ่านรายการ แฉ โดยได้ถามถึงเรื่องดวงตาที่ตอนนี้ไม่สามารถมองเห็นได้แล้ว ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมองไม่เห็น ขณะที่คุณหญิงแมงมุม ก็ตอบว่า ใช่ใครจะไปคิด ตอนเด็กเราก็ใช้ชีวิตกันมันมากเลยเนาะ อยู่กับพี่มดดำทุกวัน กินข้าวเย็นแล้วก็เที่ยว
6 ปีแล้วที่ต้องเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาล นายพลดอลล่าร์ ยอมรับว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องงานตอนนี้ทำงานออนไลน์ ไปประชุมบ้าง ต้องให้เวลาเขาเยอะมากเพราะสถานภาพเปลี่ยนไปเยอะ ตั้งใจอยู่กับเขาให้มาก
มดดำก็เผยอีกว่าหลายคนชื่นชมเป็นสุดยอดผู้ชาย นายพอลดอลล่าร์ตอบว่า หลาย ๆ คนก็ทำแบบนี้แหละ ทำเอาคุณหญิงแมงมุมซึ้งและจับมือสามีแน่น แมงมุมอยู่ที่ไหนพี่อยู่ที่นั่น 3 ปีแรกพี่นอนเตียงพับ แต่เขาก็ไม่ยอมให้เรานอน มดดำ ยังถามอีกว่า 6 ปีพี่ไม่ท้อเลยเหรอ นายพอลดอลล่าร์ ก็ยืนยันว่า ไม่ เราต้องไม่เหนื่อย เห็นเขาอยู่สภาพแบบนี้ เราต้องลืมตัวเอง
ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาลนั้น นายพลดอลล่าร์ ตอบว่า เยอะมาก ๆ (มดดำถามเพิ่มว่าหลักร้อยล้าน ?) น่าจะได้ เริ่มจากปี 2561 เขาเส้นเลือดตีบในสมอง เป็นสโตรก มกราคม 2561 ถึงปัจจุบัน เขาเป็น SLE อยู่แล้ว ตั้งแต่อายุ 18 ก่อนหน้านั้นเขาก็เข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลอยู่แล้ว ปีหนึ่ง 5-6 ครั้ง อย่างมาก พอปี 2561 หลังเป็นสโตรกก็ลงเหวมาเรื่อย ต้องฟอกไตทุกสองวัน
นายดอลล่าร์ เผยว่าเรื่องลุ้นหัวใจหยุดเต้น เป็นภาวะซับซ้อน แมงมุมร่างกายเป็นทั้ง SLE ทั้งเส้นเลือดอักเสบ มีประวัติเส้นเลือดสมองตีบ ไตวาย โรคเขาเยอะ แม้หลายครั้ง ๆ ที่เขาไปแล้วพี่บอกไปไม่ได้ ต้องเอากลับมา นายพลดอลล่าร์ กล่าวว่า มันไม่เชิงอย่างนั้น เพราะในที่สุดพี่ก็ต้องให้เขาตัดสินใจเองว่าเขาอยากไปหรืออยากอยู่ แต่เวลานั้นพี่คิดว่าสมองเขายังดี ทุกอย่างเขายังดี ใจเขายังสู้ เลยคิดว่าเขาคงเห็นอะไรดี ๆ ที่ยังมีอยู่ ท้ายที่สุดอยู่ที่เขา แต่เราก็มองว่าเดี๋ยวมันต้องดีขึ้น เราต้องไม่ยอมแพ้
มดดำ ได้ถามแมงมุมอีกว่ายังสู้อยู่ คุณแมงมุม ตอบว่า สู้ แต่ถามมีท้อไหม มี พี่มดดำ บางทีมันเหนื่อย ป่วยอีกแล้วเหรอ ต้องทำอันนี้อีกแล้ว ทำอันนั้นอีกแล้ว เหนื่อยด้วย เจ็บตัวด้วย
นายพลดอลล่าร์ บอกอีกว่า เขาจะเจ็บปวด 24 ชั่วโมง ถ้าเขาลืมตาหรือตื่นเขาจะเป็นโรคปวดหัวเรื้อรัง ปวดท้องเรื้อรังเป็นปี ๆ แล้ว เขาต้องใช้ยาระงับความปวด วันหนึ่งเขาต้องฉีดยา 50-70 เข็ม เขาถึงบอกเขาทรมาน ด้านมดดำบอกว่าถ้าเขาจะหลับทีก็ต้องใช้ยา ซึ่งคุณแมงมุมเผยว่ากึ่ง ๆ ยาสลบ
นายพลดอลล่าร์ เผยว่า ถ้ายาแก้ปวดเอาไม่อยู่ ท้ายที่สุดต้องให้เขาหลับ จะได้ไม่ทรมาน หลับอย่างมาก ชั่วโมงครึ่ง 2 ชั่วโมง ตื่นมาปวดอีก ฉีดอีก โอเวอร์โดสก็ต้องให้หลับ ทุกวัน
คุณแมงมุม เผยว่า ช่วงดี ๆ ก็มี ช่วงหนึ่งเราไปอยู่สมุยก็โอเค ไปอยู่เชียงใหม่ก็โอเค มีช่วงดีขึ้นก็มี รู้สึกยิ่งอยู่โรงพยาบาลยิ่งป่วย เหมือนเป็นฮอสพิทอลซินโดรม รู้ว่ามียา ปวดหัวบ่อย ๆ ไม่เป็นไร แต่พออยู่ข้างนอก ทำกิจกรรมไม่ต้องไปคิดว่าเดี๋ยวเราต้องปวดหัว ปวดท้อง พี่ดอลล่าร์ก็พยายามหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ แว่นตาช่วยเรื่องการมองเห็น ด้านมดดำก็บอกว่าพี่ดอลล่าร์มีสติมากตอนที่รู้ว่าเมียมองไม่เห็นแล้ว เขาก็ไปหาเทคโนโลยีทั่วโลกเพื่อให้เมียมองเห็นกี่หมื่นกี่ล้าน จนแมงมุมต้องบอกหยุดซื้อได้แล้ว ซึ่งคุณแมงมุมบอกว่า มองไม่เห็นอยู่ดี
นายพลดอลล่าร์ เผยว่า ตาเขาเสียเพราะจอประสาทตาตาย ณ ตอนนี้ยังไม่มีเทคโนโลยีที่เปลี่ยนได้ แล้วเป็นต้อกระจกซ้ำทั้ง 2 ตา 100 เปอร์เซนต์ทั้ง 2 ข้าง เป็นสีเทา ถ้าลอกต้อออกให้มีแสงสักนิดสำหรับเขามันมีความหมายมาก เขาก็บอกลองได้ แต่ถ้าทำไม่ดีแล้วตาฝ่อได้ ต้องเอาตาออกแล้วใส่ตาแก้ว แต่เขาก็เอาลุยเลย หมอแนะนำให้ทำทีละข้าง แต่เขาไม่เอา เขาทำเลย 2 ข้าง ตอนนี้เขาทำแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีข้อต่างเรื่องการมองเห็น แต่ก็กลับเป็นสีดำแล้ว ไม่ใช่สีเทา มองว่าวิวัฒนาการทางการแพทย์ไปไกล
คุณแมงมุม ชื่นชมสามีว่า พี่ดอลล่าร์เขาคิดบวกมาก ๆ เวลาเราท้อเขาคือพลังผลักดัน รวมทั้งพ่อแม่ น้องชาย ครอบครัว ช่วยผลักดัน วันหนึ่งมันอาจดีขึ้นได้ ตอนนี้เราก็ใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม อาจจะไม่สุดเท่าเมื่อก่อน แต่เราก็มีความสุขได้หลาย ๆ ทาง ยอมรับว่าเรายังมีความฝัน ยังอยากทำหนังแนวชีวิตจริง อย่าง ไอซ์หีบเหล็ก หรือ แอม (แอม ไซนาไนด์) ก็อยากทำ
และเมื่อถามถึงตอนที่แต่งงานกัน นายพลดอลล่าร์เผยว่า ตอนแต่งงานผมอายุ 50 แล้ว ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าเขาป่วย SLE แต่รู้แค่ว่าตอนนั้นต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อย ๆ ตอนนั้นก็ช่วยเขา จัดยาให้เขากินมาตลอด ส่วนทุกวันนี้มีคุณพยาบาลช่วย วันหนึ่งเขายังต้องกินยา 50-60 เม็ดด้วย ส่วนอาการป่วยเขาคือมาแย่ก็ตอนเป็นผู้กำกับ ตอนเบรกไปฉีดยาแล้วไปกำกับต่อ
มดดำ ยังถามถึงเรื่องที่นายพลดอลล่าร์จะเปลี่ยนเอาไตตัวเองให้แมงมุมว่า หมอไม่ให้ บอกว่าไตแก่ไป ทางแมงมุมก็ไม่ยอม จริง ๆ น้องชายเขาก็จะให้ แต่เราไม่เอา คือเราจินตนาการว่าน้องต้องเจ็บ เห็นท่านพ่อท่านแม่ต้องมองลูก 2 คนถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดทั้งคู่มันเสี่ยง
และทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ที่รู้ว่าเขาจะต้องไป ไม่รู้หรอกว่าไป รู้ตัวก็ตื่นมาแล้ว เครื่องปั๊มหัวใจทรมานมาก คุณหญิงแมงมุมยอมรับว่า เจ็บมาก ล่าสุดปั๊มไป 4 ที หมอฉีดยานอนหลับให้ ยังไม่ทันหลับเขาชอตไปแล้ว รู้สึกตัวเด้งกระตุก เจ็บมาก คือเดี๋ยวนี้เขาก็พัฒนาแล้วไม่เหมือนในหนัง
นายพลดอลล่าร์เผยว่า อันนั้นหัวใจยังไม่หยุดเต้น หัวใจใกล้หยุดเต้น ที่เห็นในหนังหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว ส่วนที่เหมือนในหนังคืออันนั้นครั้งก่อน ปั๊มหัวใจกับ ซีพีอาร์ เป่าปาก ปั๊มซี่โครงร้าวไปซี่หนึ่ง หัวใจหยุดเต้นไป 12 นาที ปกติสมองต้องบวมต้องตายไปแล้ว แต่โชคดีที่เราอยู่ในโรงพยาบาล หมอเตรียมอุปกรณ์ล่วงหน้า พอหยุดแล้วเขาปั๊มเลย หยุดไป 12 นาที แต่สมองไม่เสียหาย ซึ่งน้อยมาก
มดดำถึงกับถามทั้งสองคนว่า กำลังสู้กับอะไรกันอยู่ ด้านคุณหญิงแมงมุมก็ตอบว่า สู้เพื่อครอบครัว เพื่อพี่ดอลล่าร์ เพื่อคุณพ่อคุณแม่ เพื่อทุกคนที่เป็นกำลังใจให้แมงมุม เขายังมีกำลังใจให้เรา เราก็ท้อไม่ได้ ยอมรับว่าทรมาน จากคนเคยเห็น เราไม่ได้ตาบอดตั้งแต่เกิด วันหนึ่งมันมืดไปหมดเลย
และเมื่อถูกถามว่า อะไรทำให้นายพลดอลล่าร์อยู่สู้กับคุณแมงมุมถึงตอนนี้ เจ้าตัวก็ตอบว่า เราเลือกของเราแล้วว่านี่คือภรรยา สำหรับพี่การแต่งงานต้องอยู่ด้วยกัน ต้องช่วยเหลือกัน ต้องเป็นเพื่อนกันไปจนตาย พี่ถึงแต่งงานช้าเพราะไม่เคยอยากแต่งมาก่อนหน้านั้น แต่งแล้วก็ตั้งใจจะทำแบบนี้ ทำด้วยความสุข ไม่ได้บังคับตัวเอง ด้วยความเต็มใจไม่มีใครมาบังคับ และคนที่เรารักเขาอ่อนแอ เขาเจ็บปวด เราก็ต้องเข้มแข็ง อาบน้ำโบกเดียวก็หาย
คุณหญิงแมงมุม ขอบคุณทุกอย่างที่พี่ดอลล่าร์ทำแม้จะมองไม่เห็น แต่รู้สึกได้ถึงความรัก ความใส่ใจ ความเข้มแข็งที่เขาให้แมงมุม ถ้าไม่มีพี่ดอลล่าร์ป่านนี้คงแย่มากไปกว่านี้แล้ว
