เล็บเป็นเชื้อรา เกิดจากอะไรบ้าง ถ้าต่อเล็บหรือทำเล็บจนเกิดเชื้อราที่เล็บ จะทำยังไงดี มีวิธีดูแลรักษายังไงให้เล็บกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
ผู้หญิงกับการทำเล็บเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะเล็บเจล เพราะสวยนาน ไม่ต้องทำบ่อย ๆ และแน่นอนว่าสาว ๆ หลายคนก็ชอบต่อเล็บเพื่อให้นิ้วมือดูเรียวยาว แต่บางครั้งก็ต้องเจอกับฝันร้าย เพราะทำไปทำมาเล็บเป็นเชื้อราซะงั้น เชื้อราที่เล็บเกิดจากอะไร และจะมีวิธีดูแลเล็บยังไงให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม กระปุกดอทคอมมีคำตอบค่ะ
เชื้อราที่เล็บคืออะไร
เชื้อราที่เล็บ คือ การติดเชื้อทั่วไปของเล็บ โดยเริ่มจากเป็นจุดสีขาวหรือสีเหลืองน้ำตาลใต้ปลายเล็บมือหรือเล็บเท้า ถ้าเชื้อยิ่งลุกลามเล็บอาจเปลี่ยนสี หนาขึ้น และแตก โดยลักษณะของเล็บเป็นเชื้อรา คือ
- เล็บหนาผิดปกติ
- สีของเล็บเข้มผิดปกติ
- เล็บเปราะ แตกง่าย และดูสกปรก
- เล็บผิดรูป
- เล็บไม่แนบกับเนื้อนิ้ว แต่แยกออกมา
- มีกลิ่นเหม็น
สาเหตุของเชื้อราที่เล็บมีอะไรบ้าง
สาเหตุของเชื้อราที่เล็บเกิดได้จากหลายปัจจัย ต้องบอกเลยว่านิด ๆ หน่อย ๆ ก็เสี่ยงเป็นเชื้อราแล้ว โดยสาเหตุที่เล็บจะเป็นเชื้อราเกิดได้ดังนี้
- มือเปียกหรือเท้าเปียกเป็นเวลานาน ๆ บ่อย ๆ เกือบทุกวัน มักจะพบบ่อยในบรรดาช่างทำผมที่ต้องสระผมให้ลูกค้าทีละนาน ๆ
- อยู่ในที่ร้อนชื้นตลอดเวลา อากาศร้อนชื้น อับ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อราที่เล็บได้
- สวมถุงมือพลาสติกเป็นเวลาหลายชั่วโมงทุกวัน ทำให้เกิดความอับชื้นจากเหงื่อ ส่งผลให้เล็บเป็นเชื้อราได้
- ติดเชื้อจากการทำเล็บโดยเฉพาะคนที่ไปทำเล็บที่ร้าน แล้วยาทาเล็บถูกใช้กับคนที่เล็บมีเชื้อรามาก่อน เชื้อราก็อาจปนเปื้อนอยู่ในยาทาเล็บ หรืออุปกรณ์ทำเล็บ จนติดเชื้อราได้
- การขัดเล็บที่รุนแรงเกินไป ร้านทำเล็บบางร้านขัดเล็บรุนแรงจนหนังถลอกหรือเล็บบาง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ผิวได้ง่าย ส่งผลให้ลุกลามกลายเป็นเชื้อรา
- การต่อเล็บที่ไม่ได้มาตรฐาน การต่อเล็บต้องอาศัยความชำนาญ เพราะเป็นการนำเอาเล็บปลอม เจล หรืออะคริลิก ครอบทับเล็บจริงเอาไว้ ซึ่งต้องปิดช่องว่างระหว่างเล็บปลอมกับเล็บจริงให้ดี ไม่เช่นนั้นจะทำให้น้ำและเชื้อโรคเข้าไปในช่องว่างนั้น เกิดการอับชื้นจนเป็นเชื้อราได้
รักษาเชื้อราที่เล็บยังไง
เชื้อราที่เล็บใช่ว่าจะรักษาไม่ได้ หากรักษาให้ถูกวิธีก็จะทำให้เชื้อราหายได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าปล่อยไว้ให้หายเอง ไม่มีทางแน่นอน โดยวิธีการรักษาเล็บเป็นเชื้อราทำได้ดังนี้
- พักการทำเล็บ - เพราะการทำเล็บจะทำให้เล็บไม่ได้สัมผัสกับอากาศ เล็บจริงจะเกิดความอับชื้น จนทำให้เชื้อราลุกลาม ดังนั้นหยุดก่อนสักพักจนกว่าเล็บจะหาย
- หยอดยารักษาเชื้อราเป็นประจำ - ยารักษาเชื้อราจะช่วยฆ่าเชื้อราทั้งในเล็บและบริเวณรอบ ๆ เล็บ โดยต้องใช้ยาอย่างสม่ำเสมอและถี่ตามคำแนะนำ
- ขูดด้านในเล็บที่เสียออก - เล็บที่เป็นเชื้อรามักจะหนาและมีเนื้อเล็บร่วน ซึ่งเนื้อเล็บเหล่านั้นแหละคือเชื้อโรค จึงควรขูดออกให้หมดก่อนที่จะตัดเล็บออก จะช่วยให้เชื้อราหายไวขึ้น
- รักษาความสะอาดของเล็บและหลีกเลี่ยงความอับชื้น - ตัดเล็บเป็นประจำ ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งที่ต้องจับของสกปรก หากจำเป็นต้องใส่ถุงมือเป็นประจำก็ควรหาเวลาพักเพื่อถอดถุงมือบ้าง เพื่อลดความอับชื้น
- ถอดเล็บ - หากเชื้อราที่เล็บรุนแรงมากอาจจำเป็นต้องถอดเล็บ ซึ่งหากรักษาเบื้องต้นแล้วไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษาหรือถอดเล็บเป็นขั้นตอนต่อไป
เชื้อราที่เล็บเป็นกันง่ายมาก ๆ ดังนั้นจึงควรดูแลรักษาให้ดี หลีกเลี่ยงความอับชื้น เลือกร้านทำเล็บที่ได้มาตรฐาน ละเอียด ประณีต เพื่อสุขภาพที่ดีของเล็บเราเองนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : mayoclinic.org, dallaspodiatryworks.com, aad.org
