หญิงลี ศรีจุมพล น้ำตาคลอ แจงปมโลก 2 ใบ รับได้คุยแต่ไม่ได้คบซ้อน เจ็บปวดเจอคุกคาม

          จากกรณีข่าวเมาท์อักษรย่อดารา ลูกทุ่งสาวมีโลก 2 ใบ สับรางเก่งแต่รถไฟชนกัน ถึงขั้นถูกยกปืนจ่อหัว จนหลายคนแห่เดาว่าเป็นใคร และมีเพจดังออกมาว่าชี้เป้าว่าคือนักร้องสาว หญิงลี ศรีจุมพล นั้น

          ล่าสุด (12 ธันวาคม 2566) หญิงลี ก็ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกถึงเรื่องราวในครั้งนี้ ยอมรับว่ามีปัญหากับแฟนหนุ่มจริง แต่ไม่ได้คบซ้อน และเธอถูกฝ่ายชายคุกคาม โดยเปิดเผยว่า ตนถูกคุกคามเรื่องความปลอดภัย ย้อนไปคืนวันที่ 16 เมษายน คาบเกี่ยววันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา วันนั้นเกิดความรุนแรงขึ้น คือการที่เราขอแยกย้ายทุกคนออกจากการทำงาน เนื่องจากพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างที่เรารู้สึกไม่สบายใจ แต่เขาไม่ยอมไป แล้วก็อาละวาด

          วันนั้นเขาได้มีการไลฟ์ เราก็เลยไปแย่งโทรศัพท์มาเพราะไม่อยากให้เกิดความเสียหาย โทรศัพท์เครื่องนั้นก็เป็นของหญิงที่เขาขอยืมไปใช้ แล้วเราก็ได้เห็นความน่าเสียใจในโทรศัพท์เครื่องนั้นเยอะมาก ได้เห็นการถูกคุกคาม ความรุนแรง และความน่ากังวลใจมากมาย แล้วก็มีข้อความที่น่าเสียใจที่เพื่อนของเขาส่งข้อความมาบอกว่าให้กอบโกยให้มาก ๆ นะ เราก็ช็อกและเสียใจ แล้วเราก็ได้เห็นว่าเขาถ่ายภาพกล้องที่ถ่ายทำโปรดักชั่น เราก็ไปตรวจหา ปรากฏว่ากล้องเราหายไปหลายตัว เลยไปแจ้งความ ซึ่งที่แจ้งไว้รวมประมาณ 3 แสน 8 หมื่นกว่าบาท

          ปมเรื่องโลก 2 ใบ มันมาจากเขา คำนั้นเขาก็อยากพูดอะไรของเขาไปเรื่อยเปื่อย แต่ในมุมของตน คือตนยังไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้จดทะเบียน ตนคุยกับพี่ไม้อยู่ ซึ่งพี่ไม้แกมีปัญหากับตน ทะเลาะกันเรื่องดื่ม ตนก็เลยบอกว่าฉันไม่สามารถพัฒนาหรือเปิดตัวคุณได้จริงจัง ในช่วงนั้นตนก็มีโอกาสได้ศึกษากับคนนั้นที่คุกคามทางสื่อ แต่ในช่วงระยะเวลา 2-3 เดือนมันมีแต่ความน่ากังวลใจ จนรู้สึกไม่ไหว ไปต่อไม่ได้ ต่อให้เรา ชอบ ถูกใจ หรือรอคอยมานานพันปีหมื่นปีมันก็ไปต่อไม่ได้ ตนก็เลยต้องบอกว่าเราเป็นเพื่อนกันเถอะ แต่เขาก็ไม่อยากไป

          หญิงลี ยืนยันว่าไม่ได้คบซ้อน ในช่วงเวลานั้นตนได้ห่างกับพี่ไม้ เพราะว่าเรามีปัญหา แล้วถ้าฉันคุยกับอีกคนหนึ่งฉันก็ต้องห่าง แต่คือตนคุยกับไม้แล้วรู้สึกปลอดภัย ถึงแม้ว่าวันนั้นตนจะพบวิกฤต แต่วันนี้ได้พบความรักที่ปลอดภัย ตนไม่รู้ว่าพัฒนาการจะเป็นยังไงในวันหน้ากับคุณไม้ แต่ ณ วันที่เกิดเหตุเราได้มีการปรับความเข้าใจและเริ่มต้นใหม่

          ส่วนที่ถูกอีกคนคุกคามเป็นเพราะเขาอยากกลั่นแกล้งที่กลับไปคบแฟนเก่าหรือไม่ หญิงลี ก็เผยว่า ตรงนั้นก็คงจะมาทำให้เราเสื่อมเสีย เพราะเขาส่งข้อความมาว่า ผมไม่มีอะไรจะเสีย ผมจะเอาไปฟ้องสื่อนั่นนี่ ซึ่งตนก็มีความกังวลใจมาตลอด ทั้งความไม่ปลอดภัย ขนาดเขาเป็นคนไปร้องสื่อเอง เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน เขายังโพสต์เลยว่า 555 ขออย่าให้เป็นตัวเขานะ ถามว่าเขาเคยทำร้ายเราไหม เขาไม่เคยทำร้ายร่างกาย แต่จิตใจคือทำให้เรารู้สึกกังวลและเสียใจเสมอมา

          ยอมรับว่าข่าวที่ออกมาส่งผลกระทบมันก็ดูไม่ดีอยู่แล้วสำหรับผู้หญิงที่ถูกใส่ร้าย เพราะเขาเข้ามา เขารู้อยู่แล้วว่าบ้านนี้มีกี่คน ๆ ที่อยู่ แล้วมันก็เดือดร้อนไปถึงศิลปินหลาย ๆ ท่านที่ถูกโยงไป ถ้าตนจะปฏิเสธมันก็ไม่ใช่ เพราะมันเป็นเรื่องราวของเราที่ถูกคุกคาม แต่ถ้าจะให้ออกมาตั้งแต่วันนั้น ตนก็ไม่มีหลักฐานที่จะมาพูด

          ตนก็ได้แต่มาอธิบายว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็เพราะโชคชะตาที่ขีดเส้นไว้ ตนเคยโชคดีสูงสุด มีเงินมีทอง แต่ถ้า ณ วันหนึ่งถ้าจะโชคร้ายสูงสุด ตนก็จะยอมรับกับโชคชะตาที่จะเกิด แต่ที่ตนอยากจะขอวอนพี่ ๆ สื่อก็คือว่าความเจ็บปวดที่ไม่เคยรู้จากข้อมูลตน แต่ตีข่าวฟังความฝ่ายเดียว อันนี้มันเจ็บปวด

          และตนก็ขอบคุณหลายคนที่โทร. หาและทราบข้อมูลจากหญิง รวมถึง พี่หนุ่ม กรรชัย โทร. มาถามและให้คำปรึกษาที่เป็นกลาง พี่บุ๋ม ปนัดดา ก็บอกว่าถ้ามีหลักฐานที่ถูกคุกคามก็พูดความจริง

          หญิงลี ยังเผยถึงเหตุการณ์ที่ผู้ชายทั้ง 2 คนเผชิญหน้ากันว่า มีครั้งหนึ่ง ตอนอยู่บ้านคุณแม่ใจดี แล้วเขาก็ไปหาตน ส่วนข่าวที่บอกว่ามีการใช้ปืนจ่อหัวกัน อันนั้นตนเห็นข่าวแล้วก็รู้สึกว่าทำไมเขาแต่งเรื่องได้มหัศจรรย์ขนาดนั้น คือวันนั้นคุณไม้เขาจะไปรับหญิงที่บ้านแม่ใจดี มีเคสแบบนี้ ๆ มันต้องหยุด ต้องจบ ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทีนี้มันมีการแจ้งความ ตนก็ไม่แน่ใจว่าอะไร ซึ่งตำรวจอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อพอดี

          เรื่องคือกระเป๋าคาดอกของคุณไม้ หญิงเข้าใจว่าน่าจะเป็นโทรศัพท์ แบตเตอรี่สำรอง หญิงไม่คิดว่าจะเป็นปืน เขาก็ถูกจับดำเนินคดีในส่วนของพกพาอาวุธ ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ไม่มีการจี้หัวใด ๆ เลย ซึ่งเราก็แบบทำไมหนังคนละม้วน ผู้ชาย 2 คนเจอหน้ากันวันนั้น ไม่มีเรื่องใหญ่รุนแรงกัน เขาก็เคลียร์กันประมาณว่า ขอโอกาสให้ไปคบกับเขา แต่เราก็ไม่ไป แต่ยังมีพูดคุยอยู่ ยังมีงานที่ยังต้องเคลียร์ด้วยกันอยู่ คุณไม้ก็บอกว่าถ้ายังไม่จบผมก็ยังไม่ยุ่ง ทีนี้เราก็เฟล วันเกิดก็ยังไม่จัดเลย เพราะเราเศร้ามาก รู้สึกแย่ เป็นวิบากกรรมที่รู้สึกไม่ค่อยดี

          ถามว่ารู้สึกพลาดไหมที่ไปคบกับเขา ตนว่าเป็นโชคชะตาขีดเส้นให้เราเจอ ถึงแม้ว่าจะดีหรือไม่ดียังไง เราก็ต้องอยู่กับธรรมะจัดสรร

          ส่วนหลังจากนี้เขาจะมาแฉอะไรอีกไหม อันนี้คงต้องฝากพี่ทนายความดูแล เพราะตนก็เหนื่อยล้าและเศร้าใจ ตนต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องทำงานอีกเยอะ บางครั้งที่มีปัญหาเยอะก็ร้องไห้ด้านหลัง แล้วขึ้นแสดงบนเวที ต้องดำเนินทุกอย่างต่อไป

          หญิงลี ยังเปิดใจอีกว่า ความดีในสิ่งที่เราทำไปเยอะแยะมากมาย ถ้าหากว่าเขาไม่เห็นความดีตรงนั้นเลยก็อย่าได้มาระราน อย่ามาคุกคามกันอีก ขอให้หมดเวรหมดกรรมต่อกัน ตนก็ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะว่าพูดไปก็เหมือนเสียอยู่ฝ่ายเดียว เขาพูดตลอดว่าไม่มีอะไรจะเสีย

          ถามว่าเขาอยากได้อะไรกับเราถึงทำแบบนี้ หญิงลี ก็เผยว่า ตนขอไม่ตอบแทนเขา เพราะในสิ่งที่เขาส่งข้อความมาหากันคือกอบโกยเอาให้มาก ๆ เราก็ช็อกหลาย ๆ สิ่งอย่างแล้ว บางอย่างก็เหมือนเราจะไปใส่ร้ายเขา แต่ตนมีหลักฐานเยอะ แต่ขอไม่ออกทางสื่อ ขอพูดเท่าที่ควรพูด

          หญิงลี ยังได้ฝากถึงแฟนคลับทั้งน้ำตาว่า ความจนนำพาหญิงลีมาถึงจุดนี้ ถึงแม้ว่าวันหน้าแฟนคลับยังจะรักหรือไม่รัก จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ แต่ตนอยากจะบอกว่าหญิงยังรักเสียงเพลง ยังรักการร้องเพลง แล้วก็ยังจะทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป

          "สำหรับแฟนคลับที่เข้าใจและให้กำลังใจล้นหลามเต็มหน้าเวทีหญิงขอบคุณ และขอบคุณสำหรับความรักนะคะ หญิงจะบอกแค่ว่าหญิงต้องแข็งแกร่ง ให้กำลังใจตัวเอง (ร้องไห้) หญิงขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจหญิง ชีวิตมันถูกขีดไว้หมดแล้วนะคะ ถ้าครั้งนี้มันทำให้หญิงเกิดอะไร เขาเรียกว่าประสบการณ์ชีวิต ขอให้เป็นประสบการณ์ชีวิตของทุกคน ที่ให้ได้ตรึกตรอง ศึกษาคนที่เข้ามา ขอให้หญิงได้เป็นบทเรียนหนึ่ง

          สำหรับการที่ใครเข้ามาแล้ว เราคิดว่าเราเป็นคนจิตใจบริสุทธิ์ เขาก็คงจิตใจบริสุทธิ์เหมือนเรา มันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป ยังโชคดีที่เทวดายังช่วยหญิงในคืนวันนั้น โชคดีที่ยังไม่เกิดความรุนแรงภัยร้าย หญิงไม่มีบทเรียนค่ะ แต่ธรรมะ โชคชะตา และเวลาจัดสรรค่ะ"