จากกรณีที่ นก จริยา นักแสดงรุ่นใหญ่และผู้จัดละครคนดังออกมาโพสต์ภาพขึ้นจอดำ พร้อมข้อความลั่นแรง "กลับมารักตัวเอง" จนหลายคนเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้น พร้อมโยงไปเรื่องสามี จอนนี่ แอนโฟเน ซึ่งเจ้าตัวก็ชี้แจงว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องของครอบครัว ก่อนที่คนใกล้ชิดจะออกมาเปิดเผยว่าเป็นเพราะเครียดเรื่องงาน
ล่าสุด (28 มีนาคม 2567) นก จริยา ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อถึงเรื่องนี้ว่า ตอนแรกตั้งใจจะโปรโมตละคร แต่วันนั้นพอดีมีเรื่องกระทบกระทั่งกับทีมงาน ก็ขอให้เป็นความผิดของเราเองแล้วกัน วันนั้นเราเป็นผีบ้าในมุมของเรา เราก็เลยปะทุออกไป ก็ยอมรับว่ามีช่วงที่เบาปัญญา
ถามว่าอารมณ์ขึ้น-ลงบ่อย คือปกติไม่ค่อยหลุด ต้องบอกว่าไม่ได้เกี่ยวกับมุมครอบครัวนะ แต่มันเป็นความหวั่นไหวที่เราห่วงไอ้นั่นไอ้นี่ ห่วงคน ห่วงลูกน้อง แล้วพอมีตรรกะของคนที่พูดไม่คิดและทำให้จี้จุดอะไรบางอย่างของเรา เราก็เลยระเบิด ในช่วงที่ทำงานเยอะ ๆ ก่อนหน้านี้นกเป็นแพนิก ก็รักษาอยู่ มันก็มีช่วงที่ดีขึ้นแล้วก็ดาวน์ ซึ่งพอมีช่วงที่เราห่วงคนเยอะ ๆ หลาย ๆ คน เรื่องงานด้วย เราก็เลยไม่ได้ประคับประคองมันได้ดี
เอาจริง ๆ นกเป็นคนที่ใจเย็นมาก แต่ถ้าย้อนกลับไปช่วงเด็ก ๆ ตอนนั้นยอมรับว่าเป็นผีบ้า แต่หลังจากที่มีลูกแล้วผีก็ออก มีสติดีขึ้น พยายามที่จะใจเย็น แต่สงสัยพอใกล้จะบวชชีก็เลยมีมารนิดหนึ่ง แต่วันนั้นที่ได้ปะทุอะไรออกไป รู้สึกว่าเราได้ปล่อยอะไรออกไปบ้าง ก็โล่งนะ แต่มันก็ไม่ดีงาม และเบาปัญญาไปหน่อย ก็ยอมรับว่าไม่ดี ก็ให้เรียนรู้
ส่วนที่คนโยงไปเรื่องครอบครัว นก ก็เผยว่า พี่จอนนี่ถามเลย เพราะเขาไม่ได้เล่นโซเชียล แล้วก็มารู้หลังจากนั้นอีก 1-2 วัน เขาก็มาถามว่าเธอลงอะไร ทำไมคนมันพุ่งมาที่ฉัน เขาก็ถามว่าเธอเป็นอะไร ฉันไปทำอะไร เราก็เลยบอกว่าซอรี่ มันมีเรื่องอารมณ์เสียนิดหนึ่ง และพอลงไปแล้วเราก็รู้สึกอยากขอโทษคนที่ได้เห็นข้อความนี้ ก็เลยลงขอโทษไปว่าเราเบาปัญญาไปบ้าง ก็ลงเพื่อให้เรียนรู้ตัวเราเองด้วยว่าให้มีสติมากขึ้น
เหมือนเป็นคนที่เก็บเยอะ ประคับประคองเยอะและดูแลคนเยอะ มันแบกเยอะก็เป็นคนขี้ห่วง ขี้กังวล ตอนหลังก็รู้ว่าออกไปแล้วเดี๋ยวคนก็จะตีความกันไป แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราจะอธิบาย เพราะนกเป็นคนยอมรับว่าทำอะไร เกิดอะไรขึ้น ยอมรับเองและจะตอบเอง นกไม่ชอบพูดแบบเฉไปมุมนั้นมุนนี้ นกว่าการพูดความจริงไปมันก็สามารถแก้ปัญหาได้
พอพูดไปแล้วเรารู้สึกเหมือนได้ฮีลตัวเอง แต่ทำอย่างนี้บ่อย ๆ ไม่ดี ไม่ควรทำอีกแล้ว คือในมุมมนุษย์เราก็มีพุ่งไปบ้าง คิดว่ามันก็ไม่ได้ไปทำร้ายใคร แต่อาจจะทำให้คนเป็นห่วง และปกตินกก็ไม่ใช่คนที่จะมาโพสต์อะไรแบบนี้ด้วย หลังโพสต์ไปก็มีคนโทร. มาเยอะ แต่วันนั้นเรายังไม่สามารถอยู่ในอารมณ์ที่จะอธิบายได้ ก็ตีกับตัวเองเยอะ เราชอบโทษตัวเองในหลาย ๆ อย่าง ก็ไม่เป็นไร ก็ให้รู้ตัวและอย่าไปทำอีก
ถามว่าถ้าเป็นเรื่องครอบครัวจริง ๆ เราจะแสดงออกยังไง นก ก็เผยว่าคือถ้าสมมติว่ามันใช่และเป็นเรื่องจริงเราจะเป็นคนที่ไม่บิดเรื่อง จะยอมรับ แต่จะให้กระทบคนอื่นน้อยที่สุด เพราะจริง ๆ ถ้ามันเป็นเรื่องครอบครัว เราก็ต้องนึกถึงลูก นึกถึงคนในครอบครัวด้วย แต่เราเป็นคนสาธารณะ บางครั้งถ้าถูกโฟกัสกับบางเรื่องหรือมีอะไร การตอบที่ให้คนเคลียร์ได้มันจะเป็นมุมที่ดีกว่าในการที่ไม่เคลียร์ อย่างเช่นสิ่งที่โพสต์ไปวันนั้นเราก็รู้สึกว่าเราเป็นผีบ้า ซึ่งจริง ๆ แล้วเรื่องมันก็ไม่ได้ใหญ่โต เรื่องมันนิดเดียว
เราก็ต้องเรียนรู้ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็คิดว่าเราก็เป็นมนุษย์วะ มันก็ได้ฮีลตัวเองว่าโพล่งออกไปบ้าง แต่มันต้องไม่ให้ใครบาดเจ็บหรือเดือดร้อน ก็เลยออกมาขอโทษว่าดิฉันเบาปัญญาไปนิดหนึ่ง
ภาพจาก Instagram jariya
นก ยังเผยเรื่องที่กำลังจะบวชชีด้วยว่า คิดมาหลายปีแล้ว เวลาเห็นใครบวชหรือไปปฏิบัติธรรม มันจะมีความรู้สึกข้างในว่าดีจังตลอดเวลา เพราะมุมนี้เป็นมุมที่ไปสงบ ไปศึกษาตัวเอง คิดว่ายังไงก็เป็นมุมที่ดีงามกับชีวิตกับจิตใจตัวเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการไปบวชด้วยภาวะใด ๆ นกว่ามันก็น่าจะได้บวกกับจิตใจกับสติกับปัญญาตัวเอง
บวชแบบโกนหัว นกรู้ตัวเองว่าถ้าแค่ปฏิบัติธรรมไม่ค่อยพอ เพราะต้องมีอะไรมาขนาบให้แข็งแรงเข้าไว้ ยอมรับเลยว่ามีสิ่งนี้ให้ยึดเอาไว้เพื่อเราจะได้รู้ว่าเราอยู่ในสถานะไหน เพราะแค่ถือศีลรู้สึกไม่พอ แค่สวดมนต์ไม่พอสำหรับเรา สวดอยู่ทุกวัน ก็รู้สึกว่าดีนะ พุทโธ ๆ แต่เหมือนชีวิตหนึ่งเราก็อยากทำไปให้เต็มที่ที่สุดกำลังที่เราจะทำได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยจะบวชที่เสถียรธรรมสถาน เพราะว่าเป็นที่ของแม่ชีกับผู้หญิงที่ปฏิบัติอยู่แล้ว และไปปฏิบัติที่เพชรบุรี ที่เป็นสาขาของเสถียรธรรมสถานอีก 15 วัน
ส่วนที่คนมองว่าบวชเพราะปลงกับชีวิตกับเรื่องความรัก มองว่าอันนี้มันเป็นกรรมของผู้หญิงหรือเปล่านะ พอเวลาที่ผู้หญิงจะบวชก็จะเป็นแต่เรื่องอกหักรักคุด ปลงชีวิตหรืออยู่ในสถานะไหนไหม จริง ๆ ถ้ามันอยู่ในโหมดนั้นแล้วคิดว่าจะมาทำแบบนี้ ก็ถือว่าไปประคับประคองสติ แต่บางครั้งเราก็มีมุมว่าเราอยากเรียนรู้ วันที่แม่ชีสัมภาษณ์ตั้งใจแบบไหนเหรอคะ หรือว่ามีความคิดแบบไหนที่มา นกก็รู้จากหัวใจเลยว่าอยากเข้าไปเรียนรู้และจัดเรียงจิต สมาธิ ปัญญาของตัวเอง โดยมีทางพึ่งเป็นคำสอนกับหลักปฏิบัติของวิถีพุทธ นกว่ามันสุขดีออกนะ ไม่รู้สิ เราทำงานเกี่ยวกับเรื่องโลกเยอะมากเลย เราอยู่ในสื่อ เราอยู่ในข่าวใด ๆ มันเยอะ เราก็อยากไปรีเซตใจตัวเอง จัดเรียงให้แข็งแรงหรือว่าให้ดีขึ้นหรือว่าให้เรียนรู้ มันก็เป็นมุมบวกนะ
เรื่องบวชสามีกับลูก ๆ ก็ยินดี ลูกอนุญาต สามีอนุญาต พอนกบวชสึกปั๊บ พี่จอนนี่จะบวชต่อ ไม่รู้หนีกันหรือเปล่าเนี่ย บวชต่อกันเลย สงสัยจะบวชหนีกันสองคนผัวเมีย คือพี่จอนนี่ก็จะมีวาระบวชในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ค่ะ ส่วนนกจะบวชวันที่ 6 เมษายน นี้ 15 วัน ก็ออกมาในช่วงปลายเมษายนพอดี พี่จอนนี่เขาก็มีวาระของเขาที่บวชพอดี
ภาพจาก Instagram jariya
นกเป็นคนบอกก่อนว่าจะบวช นกชนะ แต่ที่พี่จอนนี่เขาจะบวชเพราะเขาเคยบวชที่อินเดียเมื่อหลายปีก่อน โดยความตั้งใจที่ครูบาอาจารย์ของแกบอกว่าไปบวชเพื่อเรียนรู้และปฏิบัติ และวัดไทยที่อินเดียก็อยากให้ไป คือพระท่านอยากให้เผยแพร่ อยากให้เป็นสืบทอดอะไรใด ๆ อันนี้คือของพระ เราก็ไม่รู้ว่าใช้ถูกหรือเปล่า แต่ก็จะเป็นมุมนั้นแหละค่ะ รอบนี้ไปบวชที่ศรีลังกา ก็น่าจะบวช 10 กว่าวัน แต่บางทีเขาก็อยู่ต่อ
มองว่าเป็นชะล้างจิตใจ รีเซต เรียนรู้ และนกก็คิดว่ามันก็เป็นมุมดี ๆ กับชีวิต เพราะว่าเราก็ไม่ได้ไปเล่นพนันออนไลน์หรือไปงมงายกับเรื่องใด ๆ เพราะนกว่าทุกวันนี้มันหนักทุกเรื่อง ไม่เห็นมีเรื่องไหนเบาเลย ก็เลยมีความรู้สึกว่าเรามีหลักไว้ก็ดีนะ เป็นเรื่องบวก
ถามว่าคิดว่าการบวชครั้งนี้จะทำให้โรคแพนิกของเราดีขึ้นไหม คือโรคนี้มันคือโรคข้างใน มันก็เป็นการเยียวยา อย่างที่บอกว่าตอนนี้มันหนักทุกอย่าง ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจโลก สังคมใด ๆ ถ้าเราทำให้ตัวเราเองแข็งแรงไว้บ้าง มันก็ทำให้ฐานใจเราดี ส่วนที่เราเป็นคนขี้ห่วง จะปล่อยได้ใช่ไหม ลูกก็บอกว่า ไปบวชก็ต้องละนะ อย่าห่วงนั่นนี่นะ นี่แหละก็ต้องไปเรียนรู้ นี่หมา หมู แมวที่บ้านก็ห่วงหมดแหละ
เอาจริง ๆ จะตัดได้ไหม ก็ต้องฝากไว้ คือถึงเราไปบวชมันก็ไม่ได้บรรลุอะไรหรอก แค่ให้ไปเรียนรู้ตัวเอง อยู่กับใจตัวเอง แต่เราก็ยังเป็นคนนี่แหละ เดี๋ยวก็จะเขียนโพสต์-อิตแปะเอาไว้ว่าอันนี้ทำอย่างนี้ อันนั้นอย่างนี้ เพราะทุกครั้งเวลาที่จะไปไหนจะโพสต์-อิตแปะไว้เลย ก็เป็นมนุษย์แม่แหละเนอะ
ส่วนการบวชครั้งนี้จะทำให้เราเปลี่ยนไปยังไงบ้าง คือไม่รู้เหมือนกันว่าเราไปบวชแล้วมันจะเปลี่ยนอะไรได้เป็นมุมไหน แต่แค่เราไปตั้งใจที่จะไปอยู่กับตัวเองบ้าง และหัดพิจารณามัน รู้จักตัวเอง มันก็คงจะดีกับตัวเราเองมั้ง ไม่ได้คาดหวังอะไรเยอะเลย แต่เป็นความตั้งใจ
งานนี้เมื่อถูกถามว่าบวชแล้วจะกลับมาทำงานวงการเป็นผู้จัดเหมือนเดิมไหม จะบวชไม่สึกใช่หรือเปล่า นกก็รีบตอบทันทีว่า "ไม่ ๆ อย่าเพิ่งให้พรสิ ยิ่งหวาดเสียวอยู่ (หัวเราะ) บอกแล้วว่าจะสุดทั้งทางโลกและทางธรรม (หัวเราะ)"
