น้ำเพชร อิสรีย์ ตอบสาเหตุเลิก อาไท ทะเลาะทีไรมีซีนใหญ่ ขนของกลับบ้านทุกรอบ

          ทำเอาแฟน ๆ เสียดายไปตาม ๆ กัน กับอดีตคู่รัก อาไท กลมกิ๊ก และ น้ำเพชร อิสรีย์ ที่ออกมาประกาศปิดฉากความรัก หลังคบหากันมาสักใหญ่และมีโมเมนต์หวาน ๆ ออกมาให้แฟนคลับได้ติดตามตลอด

          ล่าสุด (26 พฤษภาคม 2567) ในรายการ ความสัมพันธ์ 101 ทางช่องยูทูบ ShaAeng ของ ช่า บันทึกของตุ๊ด ก็ได้ออกมาเผยคลิป น้ำเพชร อิสรีย์ เปิดใจถึงเรื่องราวความรักกับปัญหาต่าง ๆ ในระหว่างที่คบหากัน ซึ่งอีพีนี้ได้ถ่ายไว้ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ก่อนที่ อาไท จะออกมาประกาศจบความสัมพันธ์ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 นั่นเอง

          โดย น้ำเพชร เผยว่า จุดเริ่มต้นความรักที่ทำให้รู้จักกัน เพราะไปทำงานด้วยกัน ไปเล่นในรายการตลก ซึ่งเขาเขินเรา ไม่เล่นอะไรเลย จากนั้นก็ได้เริ่มคุยกัน ได้ร่วมงานกันอีก และขยับความสัมพันธ์จนกระทั่งมาถึงวันที่ใช้คำว่าแฟน แต่ระหว่างที่เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ก็มีหลากหลายเรื่องราว มีทั้งดีไม่ดี รักกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง ให้ต้องปรับจูนพูดคุยตลอด

          ส่วนตอนนี้อยู่ในช่วงทะเลาะกันบ้าง เป็นช่วงปรับความเข้าใจ แต่ด้วยความที่เราอายุห่างกัน เขาเด็กกว่า 4 ปี แต่ตอนที่เราอายุเท่าเขาก็มีอารมณ์เหมือนเขาที่ งอแง ขี้หึง แต่พอเราอายุเท่านี้แล้วเราปล่อยจอย ไม่อะไรแล้ว เลยพูดกับเขามา ลองไปคิดดูใหม่ไหม ว่าเป็นยังไง เลยตกลงแยกกัน แต่มันเป็นการแยกกันที่ดี เพราะเราผ่านการคุยกันแล้ว เขายังตามดูแลเราเหมือนเดิม แต่เรามองว่าความรักมันไม่ใช่อยากไปก็ไปอยากมาก็มา
 

          น้ำเพชร เผยอีกว่า เราอายุ 27 เรามองอนาคตแล้วว่าต้องมีครอบครัวอายุเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้กดดันตัวเอง แต่คิดว่า "ถ้าอะไรที่มันยังไม่ใช่มันไม่ควรไปเสียเวลาไหม"

          และที่ทำให้ทะเลาะกันก็คือ เราจะไปทำงาน แล้วเขาขี้หึงมาก วันนั้นคือเขาว่าง เลยจะขอไปด้วยได้ไหม เราก็บอกว่า "ไม่ต้องไปก็ได้ นอนอยู่บ้านพักผ่อนไป" แต่เขาบอกว่า "ถ้าไม่ให้ไป ก็ไม่ต้องมีหรอกแฟน" แล้วเราก็งงว่าทำไมเรื่องมันใหญ่จัง ทุกครั้งที่ทะเลาะ ก็จะขนของกลับบ้านตลอด เป็นมาหลายรอบแล้ว ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณ 1 อาทิตย์ก่อน

          และเวลาทะเลาะมันมักจะเป็นซีนใหญ่ตลอด ที่มีการขนของ มีการนั่งแกร็บกลับคนเดียว มันเลยรู้สึกเหนื่อย คิดว่ามันคุยกันได้ ทำไมไม่คุยกันก่อน คือมองว่ามันก็เป็นเรื่องของวัยรุ่น เราก็เคยเป็น ตอนนี้เลยขอห่างกันไปทบทวนกัน จริง ๆ เราบอกเลิกกันไปแล้ว เมื่อวันนั้นเลย

          ผู้หญิงไม่ได้อยากบอกเลิกหรอก มันก็อยากคบใครสักคนไปนาน ๆ แต่ถ้ามันไม่ใช่ ก็ไม่รู้จะฝืนไปทำไม ยอมรับว่าก็ยังลังเลอยู่ สงสารก็สงสาร เพราะระยะเวลามันสั้นมาก ๆ เพิ่งครบรอบ 1 ปีที่รู้จักกัน แต่ที่คบกันคือตุลาที่ผ่านมา มันเร็วไปมาก ๆ เราก็แอบคิดว่าถ้าเลิกกันไปจะเป็นยังไง เขาเป็นเด็กขายปืนของประชาชน เราจะไปทำให้เขาเสียใจเหรอ

          ด้าน ช่า ก็เผยว่า พี่ว่ามันเป็นเรื่องของคน 2 คน รักกัน แต่เข้ากันไม่ได้ พอต้องแยกกันเราไม่ต้องไปพะวงว่าแฟนคลับเขาจะดราม่าใส่เรา คือพี่คิดว่าเราต้องดูแลใจตัวเองเป็นหลักดีกว่าว่ามีความสุขหรือเปล่า มันเป็นเรื่องของคน 2 คนมากกว่า สมมติว่าตอนนี้หนูยังไม่เลิกเพราะกลัวทัวร์ลง มันจะเป็นเหตุผลที่ไม่เก๋ แต่ถ้าเราบอกเขาไปตรง ๆ เลยดีกว่าเพราะเราเข้ากันไม่ได้ ที่เหลือก็ให้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้เหมือนหนูไปมองความสุขของเขามากกว่า

          น้ำเพชร ก็เผยอีกว่า ยังรักและเป็นห่วงเขา แต่เราไม่อยากกลับไปซีนใหญ่แบบนั้นแล้ว เราสองคนผ่านการปรับความเข้าใจมาหลาย ๆ รอบ แรก ๆ คือเราไปอยู่บ้านเขา เป็นเราที่นั่งแกร๊ปกลับ เราก็มานึกว่ามันก็อันตรายที่มานั่งกลับดึก ๆ คือเราสองคนไม่ได้อยู่บ้านด้วยกัน พอทะเลาะกัน มีซีนใหญ่กัน ไม่เราก็เขาที่ต้องนั่งแกร็บกลับ ไม่อยากให้ใครต้องนั่งแกร็บกลับกันแล้ว อยากให้ปรับให้เคลียร์กันตรงนั้นให้จบ คิดว่ามันเคลียร์กันได้

          ไม่ได้โทษว่าเขาไม่ดี และไม่ได้บอกว่าตัวเองดี มันเป็นเรื่องที่คนสองคนมันคลิกกันไม่ได้สักที ข้อดีของอาไทคือเขาเป็นคนที่รักเรามาก ๆ และดูแลเราดีมาก แต่หลังจากนี้ก็ไม่รู้อนาคต อาจจะปรับกันได้ แต่ถ้าปรับกันไม่ได้ก็คงจะจบลงด้วยดี ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันดีเสมอ

          ช่วงที่เลิกกันแฮปปี้มาก คือจริง ๆ มันควรจะเศร้าใช่ปะ แต่เราได้ไปเที่ยวบรรทัดทองที่ไม่เคยได้ไป ได้กินอะไรอร่อย ๆ จริง ๆ ก็อยากให้เขามาด้วย แต่รู้ว่าเขาไม่ชอบที่แบบนี้เพราะมันร้อน แต่เราได้ใช้ชีวิต แฮปปี้ ได้ไปเรียนเต้น ได้ทำหลาย ๆ อย่างที่ไม่ได้ทำ ซึ่งตัวเขาก็รู้เขาก็พูดว่าที่ผ่านมาเขาเอาเพชรไปทำอะไรอยู่นะ คือตอนที่เราอยู่กับอาไทก็มีความสุขมาก ได้ใช้เวลาด้วยกัน แต่มันก็มีสิ่งที่เราอยากทำแต่ไม่ได้ทำเหมือนกัน ช่วงที่ห่างกันเราเลยทำสิ่งที่เราอยากทำ มันก็รู้สึกจอย

          สำหรับความรักในอนาคตนั้นยังไม่ได้คิดเลย โล่งเลย ไม่ได้อยากมีใครขนาดนั้น (ช่า : พูดเหมือนโสดแล้วนะ) คือถ้าหลังจากคนนี้ไปก็ไม่อยากมีใครขนาดนั้น ถ้ามีก็ได้ แต่เราไม่ได้เรียกร้อง ไม่ได้โหยหา แต่เราอยู่ด้วยตัวเองได้ เราทำให้ตัวเองได้ทุกอย่าง แต่ก็แอบกลัวว่าจะเจอใครที่รักเราได้เท่าเขาไหม คน 2 คน เลิกกันไม่ใช่แค่เรื่องชู้สาว บางทีเรารักกันมากแต่เข้ากันไม่ได้ก็มี อีกอย่างคือเป็นห่วงเขา ส่วนตอนนี้คือมีก็ได้ไม่มีก็ได้ เพราะความที่เรารักตัวเอง อยู่คนเดียวก็ได้