- ก๋วยเตี๋ยวเรือร้อยล้านมายังไง ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : ร้อยล้านไม่ได้หมายความว่าผมขายได้ร้อยล้าน แต่มันเป็นเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ เหมือนเป็นเป้าหมายของธุรกิจเรา ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนเราจะได้รู้ว่าทำยังไงให้มันไปถึง
- การที่ไปขายก๋วยเตี๋ยวเป็นเพราะวางแผนที่จะเกษียณหรือถอยหลังออกจากวงการบันเทิง ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : ไม่จริงเลย ยังไม่คิดออกจากวงการบันเทิงเลย เรายังแฮปปี้มีความสุขในวงการอยู่ อยู่มาตั้งนานแล้วก็อยากจะอยู่ต่อและต่อ ๆ ไป
- ทำไมต้องเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือ ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : เพราะว่ามันเป็นจังหวะมากกว่า คือที่บ้านทำอาหารทานเองแล้วช่วงโควิดเป็นช่วงที่ไม่ได้ออกไปไหน บางทีก็ทำอาหารเผื่อเพื่อน เผื่อเพื่อนบ้าน แล้วก็ทำขายในหมู่บ้าน เราก็ลองทำขายดู จากหมู่บ้านเราก็ไปหมู่บ้านอื่น ก๋วยเตี๋ยวเรือเราได้รับฟีดแบ็กดี
- มีคนให้สมญานามคุณว่า พระเอกสู้ชีวิต ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : ขนาดนั้นเลยหรอครับ มันเหมือนเป็นโอกาสอีกช่องทางหนึ่งของผมดีกว่า ผมก็เลยลองทำดู เผื่อมันจะเป็นรายได้อีกทางหนึ่งหรือมันจะเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้เราจะมีชีวิตดีขึ้น
- คนก็เมาท์เป็นเพราะเราขาลงหรือเปล่า เราเลยต้องหาอาชีพซัพพอร์ต ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : เดี๋ยวนี้มันมีอาชีพหลากหลาย เขาจะชอบพูดว่าอาชีพเดียวไม่พอนะ มันก็จริงถ้าในยุคสมัยนี้ แล้วถ้าเรามีอาชีพสำรองที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ไป ยิ่งเรามีช่องทางหลายช่องทาง ความเสี่ยงก็จะลดลง ผมว่าเป็นเรื่องอะไรที่ดี ใครมีอะไรทำก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
- อยู่ในวงการมากี่ปีแล้ว ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : 15 ปี
- พอผ่านไป 15 ปี เคยมีท้อไม่อยากอยู่แล้ววงการบันเทิง ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : ตอนนี้ไม่มี แต่สมัยก่อนมี
- กี่ปีแรกที่แวบว่าเราไม่เหมาะหรือเปล่า ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : น่าจะซักประมาณ 3-4 ปีแรก
- อะไรทำให้ท้อแล้วรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ที่ของเรา ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : เหมือนเราทำอะไรก็ไม่ถูก แล้วอีกอย่างผมก็ตัวคนเดียวไม่ค่อยได้ปรึกษาใคร คิดวนของมันไปเอง คิดจนขนาดที่ว่าอาชีพนี้มันไม่โอเคหรือเปล่า โทษโน่นโทษนี่ อาชีพนี้มันไม่ค่อยมั่นคงหรอก เต้นกินรำกิน ไปทำอาชีพอื่นดีกว่ามั้ย บางทีไปกองแล้วช่วงนั้นเป็นเด็กใหม่บางทีก็โดนว่าบ้าง โดนกดดันบ้าง ก็ท้อ บางทีเล่นไม่ได้
- กี่เทค เคยจดสถิติมั้ย ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : ไม่เคยจด แต่เป็นสิบ จริงๆคนรอบข้างเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่เรานี่แหละแค่ไปมองหน้าเขา เขาต้องไม่ชอบเราแน่เลยเราสร้างปัญหาโน่นนี่นั่นหลายสิ่ง ขับรถกลับบ้าน ทำไมวันนี้เป็นแบบนี้
- เคยโดนว่าอะไรที่ทำให้เราจุกที่สุด ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : จุกที่สุดหรอ จำไม่ได้ เยอะจนจำไม่ได้ บางเรื่องเฟลเลยนะ คิดแค่ ณ ทำงานตอนนั้นมันเซ็ง มันเฟล ที่บ้านก็สอนอดทนลูก อดทน สมัยก่อนชอบสอน อดทนลูก อดทน เราก็ฝ่าฟันทน ทนจนมันอยู่ถึงทุกวันนี้
- เราผ่านตรงนั้นมาได้ยังไง ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : ผมว่าส่วนหนึ่งต้องอาศัยความอดทน แล้วอาจจะต้องเป็นพวกคำปรึกษาจากคนรอบข้าง แล้วสุดท้ายมันต้องเป็นตัวเราต้องเอามาคิดเอง แล้วก็เอามาตกผลึกเองจริง ๆ แล้วสิ่งที่เราทำอยู่มันโอเคมั้ย มันดีมั้ย เราควรจะทำมันต่อไปมั้ย ตอนนั้นผมก็คิดว่าอาชีพนี้มันก็เลี้ยงผมมาได้จนถึงทุกวันนี้นะ มันคืออาชีพหลักของผม 15 ปีผมว่ามันเป็นอาชีพที่เราได้เจอผู้คนเยอะ แล้วเราก็ได้โอกาส คือผมได้โอกาสจากอาชีพนี้เยอะมาก
- ล่าสุดมีคู่จิ้น ไปเล่นกับระบบสายวายได้ยังไง ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : ผมชอบท้าทายระบบครับ (หัวเราะ) อันนี้ก็งงมาก เพราะว่าจากละครเรื่องหนึ่งเล่นด้วยกันน้อยมาก ไม่กี่ฉากเองที่เช้าด้วยกัน แต่มีอยู่ฉากหนึ่งมันเป็นฉากที่เหมือนกับเราได้มองกันแล้วถามว่า เป็นยังไงบ้าง จำพี่ได้มั้ย ไม่ได้เจอกันมานาน แล้ววันนั้นก็ดูละครอยู่นะก็เริ่มมีเพื่อนส่งมาให้ดู ซักพักเกี๊ยกก็มาเลย พี่ ๆ ฉากเราอยู่ในออนไลน์เต็มเลย ก็เลยเข้าไปดูก็แปลกใจ มันเยอะมาก แล้วคนเอาไปตัดโน่นนี่นั่น เราก็ไปนั่งดู เราก็เพิ่งเริ่มเข้าใจ
- กระแสคู่จิ้นดีเว่อร์ ภรรยาตัวจริงว่ายังไงบ้าง ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : ก็คือตอนแรกอยากรู้เหมือนกันเขาคิดยังไง เมื่อเช้าเพิ่งถาม หมู ๆ เขามีคู่จิ้นรู้สึกยังไงอะ หันมาถามว่าคู่จิ้นคืออะไร สบายใจแล้ว ไม่รู้แล้ว
- แต่งงานกันมา 6 ปีแล้ว มีพยานรัก 1 คน มีทะเลาะอะไรกันบ้างมั้ย ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : มี จริง ๆ ผมสองคนไม่ค่อยเหมือนกันเลย เหมือนคนละขั้วกันเลย เมื่อก่อนคือทำงานด้วยกันไม่ได้ทะเลาะกัน คนหนึ่งพูดจะไม่ค่อยพูดเข้าหูอีกคนนึง แต่หลัง ๆ ก็ดีขึ้น เหมือนเราพยายามปรับ พยายามฟังเขามากขึ้นเขาก็พยายามฟังเรามากขึ้น แล้วก็ค่อย ๆ คุยกัน พยายามใจเย็น ๆ
- ทำไมถึงไม่ค่อยพาภรรยาออกสื่อ ?
เฟิสท์ เอกพงศ์ : จริง ๆ ไม่ได้ปิดอะไรเลย ไปไหนก็ไปด้วยกันไปกับลูก แต่เขาไม่ได้มายุ่งเรื่องงาน เขาก็งานเยอะ ต่างคนต่างทำงานมากกว่า ไม่ได้ปิดบังอะไรเลย
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama