ดู๋ สัญญา ควงลูกชาย เอม สรรเพชญ์ เปิดใจครั้งแรก เซ็นสัญญาแล้ว พร้อมเผยสเปกสาว

พี่ดู๋รู้สึกยังไง ลูกชายฉายแสงชั่วข้ามคืน เป็นดาวดวงใหม่ของวงการบันเทิง ?

          ดู๋ สัญญา : คนเป็นพ่อก็ดีใจ อยากลงรูปลูก แต่เขาเล็ก ๆ ผมพยายามเลือกรูปที่เขาหน้าตาดีมาลง ถ้าคนอื่นเห็นเขาหน้าตาดีโดยผมไม่ต้องเลือกรูปได้ ผมก็รู้สึกว่าเป็นบุญของเด็ก แต่มันเป็นแค่บันไดขั้นที่หนึ่ง เวลาเริ่มต้นมันอาจทำให้คนหันมามอง แต่มองแล้วคุณทำงานได้ดีไหม

เห็นบอกว่าเวลาน้องเอมไปดูคอมเมนต์ เขินกับคอมเมนต์มาก ร่างเทพบ้างแหละ ร่างทองบ้างแหละ รู้สึกยังไงบ้าง ?

          เอม สรรเพชญ์ : บางทีผมอาจจะไม่อ่าน มันตอบไม่ถูก ทุกอย่างมันมาเร็วมาก

          ดู๋ สัญญา : เขาไม่อ่าน

          เอม สรรเพชญ์ : คุณพ่อรู้ดีกว่าผม

          ดู๋ สัญญา : เอาจริง ๆ ผมเห็นคำชมเยอะ แต่เวลาผมไถหา ผมหาคำตำหนิเพื่อมาบอกเขา ถ้าสิ่งตำหนินั้นเราควรแก้ไข เราจะได้แก้ แต่ไม่ค่อยเจอ

เขาชมว่าอะไรบ้าง ?

          ดู๋ สัญญา : ส่วนมากชมว่าหน้าตาดี เหมือนอาบน้ำทุกชั่วโมง

เวลาเราเห็นคนคอมเมนต์ลูกเรา เรายิ้มประมาณไหน ?

          ดู๋ สัญญา : ไม่เห็นหน้าตัวเอง
 

น้องเอมไปไหนมาไหน คนเริ่มเข้ามาขอถ่ายรูปหรือยัง ?

          เอม สรรเพชญ์ : เริ่มมีแล้วครับ แต่ยังไม่ชิน มันรู้สึกแฮปปี้มากตอนมีคนมาบอกว่าเราทำให้วันของเขาดีขึ้น โดยที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย

สมัยเด็ก ๆ รู้ตัวไหมว่าเป็นคนขี้อายมาก ตอนนั้นสาว ๆ ไปขออุ้ม เขาจะวิ่งหนี ?

          เอม สรรเพชญ์ : อันนี้จำได้ ยังเป็นอยู่

          ดู๋ สัญญา : เราไปวิ่งตามเขาแทนหรือเปล่า

เขินหรือครับ ?

          เอม สรรเพชญ์ : เขินครับ

1-10 เขินระดับไหน ?

          เอม สรรเพชญ์ : 10 ครับ

แล้วเวลาคนเข้ามาขอถ่ายรูปรีแอ็คเราเป็นยังไง ?

          เอม สรรเพชญ์ : อันนี้ได้ครับ ขอถ่ายรูป

          ดู๋ สัญญา : มันเป็น 2 อันแยกกัน การขอถ่ายรูป กับชมแบบหล่อขั้นเทพ เขาไม่อ่าน ไม่ดูเลย
 

ความเขินนี่ได้มาจากคุณพ่อ ?

          ดู๋ สัญญา : ตอนแรกผมคิดว่าเขาเป็นคนเดียว แต่พอมานึกย้อนสมัยผมเรียนมัธยม สมมติโรงเรียนมีการแสดงอะไร เขาเลือกคนไปแสดง แน่นอนผมมีตำแหน่งประจำ คือ มึงเป็นคนดูไม่ต้องมาเล่น เพราะดูทรงไม่น่าเล่นอะไรได้ ในห้องหนึ่งคนกล้าแสดงออก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่มันมีน้อย

เวลาโรงเรียนมีกิจกรรมที่ต้องออนสเตจ ไม่เอาเลย ?

          เอม สรรเพชญ์ : ไม่เอาเลยครับ เขิน แล้วเรากลัว ไม่คิดว่าเราจะทำได้ ตัดตัวเองไว้ก่อน ไม่ทำดีกว่า

แต่ตอนนี้มันเลี่ยงไม่ได้แล้ว ?

          ดู๋ สัญญา : อันนี้เขาเลือกเอง

วันนี้เหมือนเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น แต่สิ่งที่เหมือนคุณพ่อมากที่สุดคืออะไร ?

          เอม สรรเพชญ์ : บุคลิกภายใน ผมว่าเราคล้ายกัน

          ดู๋ สัญญา : บุคลิก และวิธีคิดหลายเรื่อง

เห็นว่าพ่อกับลูกเวลาอยู่ด้วยกันมีรหัสลับด้วย ?

          ดู๋ สัญญา : มันเป็นคำที่ผมพูดบ่อย ๆ ซึ่งมันมาจากโทรทัศน์ตอนเขาเป็นเด็ก แต่ผมพูดบ่อยจนเขาจำได้ มันเหมือนเราคุยกันเล่น ๆ ถ้าพ่อโดนจับไปแล้วมีส่งข้อมูลมาจงไปจ่ายนี่คือพ่อจริง ๆ นะ แต่ถ้าไม่พูดรหัสนั้นอย่าไปเชื่อนะ

แล้วไอตึ๋งคืออะไร ?

          ดู๋ สัญญา : ผมเรียกเขาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาเป็นตึ๋งน้อย แล้วหมาผมเป็นตึ๋งจิ๋ว
 

การเลี้ยงลูกของพี่ดู๋คือทุกข์ทรมานมากกับการที่ลูกไม่กินข้าว ?

          ดู๋ สัญญา : มาก

พี่ต้องไปหาหมอโภชนาการ เพราะกลัวลูกตัวเล็ก กลัวไม่สูง ?

          ดู๋ สัญญา : ไม่ใช่แค่ภรรยา คนรอบ ๆ ตัวเดินป้อน ผมก็หัวเดียวกระเทียมลีบ แต่สุดท้ายผมเป็นคนหาวิธี ฝากผู้ปกครองทุกท่าน เด็กที่เขาไม่กินไม่ใช่เขาเป็นเด็กไม่ดี หรือสิ่งที่ทำไม่อร่อย ที่เขาไม่กินเพราะเขาไม่หิว เพราะเขาไม่เผาผลาญพลังงาน ขาออกเขาไม่มี คุณลองนอนเฉย ๆ ทั้งวัน คุณจะไม่ค่อยหิว

แก้ไขยังไง ?

          ดู๋ สัญญา : ผมสอนเขาว่ายน้ำ ฝึกระดับหนึ่ง โรงเรียนปีหนึ่งเขาจะมีการคัดนักกีฬาของโรงเรียน เค้าชอบว่ายน้ำ ก็บอกเขาว่า ถ้าเอมได้เป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียน พ่อจะภูมิใจมาก แม่จะดีใจมาก ปั่นเขาทุกวัน สิ่งที่เราต้องการคือ แกต้องซ้อมทุกวัน เพราะโรงเรียนมันบังคับ

เอมรู้ไหมว่าคุณพ่อใช้วิธีนี้ในการให้เรารับประทานอาหาร ?

          เอม สรรเพชญ์ : ไม่รู้เลยครับ ผมแค่อยากให้พ่อภูมิใจ

เห็นว่าตอนเด็กน้องเอมถูกบูลลี่ เพราะว่าตัวเล็ก ?

          เอม สรรเพชญ์ : ตอนนั้นผมเพิ่งเข้าโรงเรียนอินเตอร์ ภาษาอังกฤษยังไม่แข็ง

          ดู๋ สัญญา : ตัวเล็ก ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง เด็กไทยมีโอกาสเจอ

แล้วโดนอะไรบ้าง ?

          เอม สรรเพชญ์ : โดนทุกอย่างเลยครับ ทั้งคำพูดและทำร้ายร่างกาย ก็ต่อยกันแบบเด็ก ซึ่งผมไม่ได้บอกคุณพ่อ เพราะถ้าบอกผมรู้ว่าคุณพ่อจะจริงจังมาก

ได้ข่าวมาว่าตอนนี้เซ็นสัญญากับช่องวันเรียบร้อยแล้ว ?

          เอม สรรเพชญ์ : ใช่ครับ
 

เพราะคุณพ่อ ?

          ดู๋ สัญญา : จริง ๆ เป็นเรื่องบังเอิญ ก็รู้กันอยู่ว่าคุณบอย ถกลเกียรติ เราไม่สามารถไปบังคับให้เขาอะไรได้ เพราะเขาเป็นผู้บริหาร คือบังเอิญผมเจอกับบอยที่งาน ตอนนั้นเขาไม่มีอะไรทำ และเขาอยากทำ เราสองคนคุยกันแล้วว่าเขาอยากทำ แล้วผมก็เห็นว่ามีนู่นนี่นั่นมาติดต่อ 3 เจ้า แต่ในนั้นไม่มีช่องวัน

ทำไมต้องเป็นช่องวัน ?

          ดู๋ สัญญา : ผมเล่นละครเยอะ ๆ คนรู้จักก็ช่องวัน ตอนนั้นเป็นเอ็กแซ็กท์ ซึ่งวันนั้นพอละครเลิกก็บังเอิญเดินไปเจอ เอาว่ะไม่ได้เจอกันหลายปี บอยเคยเห็นรูปลูกผมหรือยังสนใจไหมให้มาเป็นนักแสดง ลำบากมากเลย บอยบอกเอาสิพี่ นัดเจอเลย มีเวลาแค่นั้นแล้วต่างคนต่างแยก แล้วเลขาบอยก็โทร. มา

น้องเอมได้ยินแบบนี้รู้สึกยังไง ?

          เอม สรรเพชญ์ : เขินแทนเหมือนกันครับ ถ้ามันไม่ใช่บุคลิกของพ่อด้วย ขอบคุณครับ

กดดันไหม ถ้าคนเอาไปเทียบกับคุณพ่อเพราะคุณพ่อเก่งมาก ?

          เอม สรรเพชญ์ : ไม่กดดันอยู่แล้วครับ แต่ผมเชื่อว่าผมได้บุคลิกและหลายอย่างจากคุณพ่อ ผมไม่ได้กลัวการเทียบ เพราะผมเชื่อว่าเขารู้ว่าเราคนละคนกัน ผมกลัวว่าถูกมองว่าเป็นลูกสัญญาอย่างเดียว แล้วไม่ใช้ทักษะอะไรเอง อย่างที่พ่อพูด เราโอเคมาถึงจุดนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากคุณพ่อแหละต้องยอมรับ แต่ผมเชื่อว่าผมมีฝีมือจริง ๆ

พี่ดู๋แนะนำน้องยังไง ?

          ดู๋ สัญญา : ส่วนตัวก่อน ไม่นับว่าลูกทำงานมีบางงานที่เราเคยทำ ผมว่าใครเปรียบเทียบใครกับใครก็ได้ ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องปกติ ผมอยากบอกว่าความเก่ง ไม่เก่ง เราลองดู และที่ชัดเจนกับเรื่องนี้คือกีฬา คุณจะไม่มีทางเป็นแชมป์ตลอดไป เพราะฉะนั้น ผมก็ไม่ได้เก่ง เชื่อว่ามีพิธีกรเก่งกว่าผมตั้งเยอะ มันอยู่ที่โอกาสของเขา ความพยายามของเขา ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีใครเป็นแชมป์คนเดียว ถ้าทุกคนตั้งใจ พยายาม ยังไงก็ชนะได้
 

พอเรามาถึงจุดนี้ คุณพ่อแนะนำอะไรบ้าง ?

          เอม สรรเพชญ์ : ผมรู้สึกว่าพ่อเตรียมมาตามบุคลิก ไม่ใช่เตรียมสำหรับวงการโดยรวม ให้เป็นคนดี

          ดู๋ สัญญา : มีคนถามว่า เข้าวงการต้องเตรียมอะไร ผมบอกว่าสิ่งที่ผมเตรียมเขามาสำหรับทุกอาชีพ เช่น เป็นคนดี มีความพยายาม ตรงเวลา ไม่โกหก

การเล่นละครเตรียมตัวยังไง ?

          เอม สรรเพชญ์ : กำลังเวิร์กช้อปอยู่ครับ

สเปกสาวเป็นแบบไหน ?

          เอม สรรเพชญ์ : เป็นตัวของตัวเอง แนวเท่ แนวเก่ง