ปู มัณฑนา จัดอีกชุดถึง ลิลลี่ เหงียน ชี้คนรักกันจริง จะไม่อัดคลิปไว้ประจานกัน !

          จัดหนักจัดเต็มอีกชุด สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ ปู มัณฑนา ที่ได้ออกมาโพสต์ฟาดอดีตน้องสาวคนสนิท ลิลลี่ เหงียน ที่ตอนนี้กลายเป็นคู่กรณี จากมหากาพย์ทวงหนี้ ที่ดูท่าจะมีดราม่าภาคต่อไม่จบ ฉะที่ดังตอนนี้ไม่ได้มาเพราะความสามารถและหน้าตา แต่เพราะเหยียบหัวใจ เหยียบหัวพี่ขึ้นไป แถมยังเรียกจิกหัวพี่อีก

          อ่านข่าว : ปู มัณฑนา จัดชุดใหญ่ฟาด ลิลลี่ เหงียน ความดังน้อง ได้มาเพราะเหยียบหัวพี่ !

          จากนั้นปูก็ได้โพสต์ฝากถึงลิลลี่อกว่า หยุดขู่ หยุดทำลายพี่ได้แล้ว เรื่องที่ลิลลี่บอกว่าจะปล่อยคลิปเสียง จะไม่ให้ตนพูดเลยเหรอ จะเหยียบหัวฝ่ายเดียวเลยเหรอ ก่อนฟาดทิ้งท้าย คนหวังดีและจริงใจจะไม่แอบอัดคลิปกันเวลาเจอกันแน่นอน มันไม่ใช่นิสัยของคนปกติ โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้

          "หยุดขู่หยุดทำลายพี่ได้แล้ว ให้พี่ได้มีโอกาสพูดบ้าง มีคนส่งมาว่าเมื่อสักครู่ น้องลงเฟสขู่พี่ จะปล่อยคลิปเสียงพี่ น้องไม่เกรงกลัวกฎหมาย ของประเทศไทยเลยใช่ไหมคะ การแอบอัดคลิปวิดีโอหรือคลิปเสียง โดยที่เจ้าตัวเค้าไม่ได้อนุญาต แถมขู่จะปล่อย ลงโซเชียลและเปิดประจานพี่ขนาดนี้ น้องจะสร้างความเสียหายให้พี่ไปถึงไหนคะ หยุดทำลายพี่และหยุดทำลายครอบครัวพี่ได้แล้วค่ะ

          ที่ผ่านมาพี่ให้น้องทำลายพี่ลากพี่ออกมาประจาน พอวันนี้พี่ขอออกมาพูดความจริงปกป้องตัวเอง และคนรอบตัว น้องก็ขู่พี่ จะไม่ให้พี่ได้พูดเลยหรอคะ จะเหยียบพี่ฝ่ายเดียวเลยหรอคะ อย่าบอกหวังดี และจริงใจ คนหวังดีและจริงใจจะไม่แอบอัดคลิปคนที่บอกว่ารักกันเวลาเจอกันแน่นอนค่ะ มันไม่ใช่นิสัยของคนปกติ คนรักกันจริงจะไม่อัดคลิปเพื่อเอาไว้ประจานกันค่ะ"

          ต่อมา ปู มัณฑนา ก็ได้โพสต์ภาพประกาศ ขอเคลียร์จบการถกเถียงเรื่องเงิน นับจากนี้ให้ศาลตัดสินตัวเลขที่แท้จริง เพราะยอดของปูกับคู่กรณีไม่ตรงกัน พร้อมขอคู่กรณีทุกคน หยุดเอาชื่อปูไปใช้สร้างกระแสให้ตัวเอง

          "นับจากนี้ให้ศาลตัดสินตัวเลขที่เเท้จริงไปเลยค่ะ ในส่วนของหนี้ที่ผ่านมาคือไกล่เกลี่ยกันแล้วไม่ลงตัว เลยขอไปจบในส่วนของกฎหมาย และรบกวนคู่กรณีทุกคน หยุดเอาชื่อปูไปใช้สร้างกระแสให้ตัวเองและหยุดเอาข่าวนี้ไปพูดออกสื่อได้แล้ว เพราะพูดไปก็เรื่องเดิม ๆ มันอยู่ในขั้นตอนของกฎหมายเเล้ว หยุดพูดเพื่อต้องการจะขายของได้เเล้ว เหมือนใช้สื่อประจานเราแล้วขายของ เอาจุดนี้มากดเราให้สังคมตัดสินเราจนเราไม่มีที่ยืน ทั้ง ๆ ที่เรื่องทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนทางกฎหมายไปหมดแล้ว"