สรุปไลฟ์ แน็ก ชาลี-กามิน จากคู่จิ้นสู่คู่กรณี แตกคอเพราะเงิน กามินค่าตัว 4 แสน เอาตรงไหนมาลำบาก

          กำลังดราม่าคุกรุ่นสุด ๆ เมื่อ กามิน เน็ตไอดอลชาวเกาหลี ได้ลากลับเกาหลี และออกมาไลฟ์เคลียร์ในประเด็นต่าง ๆ ล่าสุด 7 กันยายน ก็เป็นฝั่งแน็กที่ไลฟ์เคลียร์บ้าง ซัดกันแซ่บไม่แพ้กัน

อ่านเพิ่มเติม : กามิน แจงแล้ว ! เคลียร์ปมเลิก แน็ก ชาลี โต้คืนทุกดราม่า หอบเงินหนี-ท้อง-ทำบ้านไฟไหม้ ?
 

          แน็ก ระบุว่า กามินจะบ่นเสมอว่า เวลารับงานต้องมีการเก็บ 25% ให้พี่ปู ผู้จัดการ กามินรู้สึกว่าเงินนี้หักเยอะเกินไป แต่แน็กก็โดนหัก 25% เหมือนกัน ดาราคนอื่นโดนเยอะกว่านี้อีก (30%-35%) มิหนำซ้ำ ในขณะที่ค่าการจัดการ เช่น ค่าช่างแต่งหน้า ค่าล่าม ค่ารถ ค่าเครื่องบิน และอื่น ๆ บริษัทของแน็กจ่ายส่วนนี้ให้ทั้งหมด กามินไม่ได้เสียเงินเองเลย

          เรื่องเครื่องบิน แน็กเป็นคนจ่ายให้ตอนที่กามินกลับเกาหลีรอบแรก และกามินขอว่าเวลานั่งต้องนั่งเฟิสต์คลาส แน็กก็ยอม ที่เป็นที่อื่นไม่ยอมออกให้ เมื่อกลับไปกามินไม่คุยกับแน็ก หลังจากนั้นนึกว่าจะได้แยกย้าย แต่สุดท้ายกามินกลับมาเอง และจองตั๋วเอง และกามินมาเล่าว่า กามินออกค่าตั๋วเอง 

          เรื่องโบนัส 500,000 บาท ที่กามินได้รับเป็นเงินสด แต่กามินปฏิเสธและแกล้งทิ้งไว้ที่บ้าน แน็กบอกว่า จริง ๆ เงินจำนวนนี้เยอะกว่านั้น เงินนี้คือ เงินค่าคอมมิชชั่น คือรายได้จากช่องของแน็ก กามินไม่ต้องได้ เพราะกามินก็ได้ค่าตัวชั่วโมงละ 200,000-400,000 บาทแล้ว ค่าคอมมิชชั่นคือ ควรเป็นค่าบำรุงบริษัท แน็กไม่เคยบอกว่า วันไหนแน็กไลฟ์คนเดียว ตรงไหนกามินไม่ได้ แต่เมื่อได้เงินค่าคอมมิชชั่นมา แน็กเอามาแบ่งให้กามิน 50% 

          ก่อนหน้านี้ ที่แน็กเคยไลฟ์ขายของ และมีช่วงหนึ่งที่ชะงัก เกิดจากที่กามินจะเข้ามาไลฟ์ช่องแน็กและถามว่า ถ้ากามินเข้ามาไลฟ์ มีคนส่งสติ๊กเกอร์ให้ กามินจะได้เงินไหม แน็กก็บอกว่า ไม่ได้ เพราะบางวันแน็กไลฟ์คนเดียว ซึ่งตอนนั้นกามินเข้าใจ ถ้าเวลาที่กามินไลฟ์ในช่องของกามินเอง แล้วดึงแน็กเข้าไป แล้วบางทีแน็กออกจากไลฟ์ไม่ได้เพราะมีคนส่งสติ๊กเกอร์ Universe แน็กก็ไม่เคยขอกามินคืนสักบาท

          แน็ก บอกว่า กามินจะบ่นเสมอว่าเมื่อไรจะมีงาน แต่กลับไม่คิดถึงการทำตารางงาน และแน็กจะทำช่องต่าง ๆ ให้กามิน แน็กมีปัญหาบางอย่าง เลยต้องยกเลิกงานพรีเซ็นเตอร์อันหนึ่ง เพราะแน็กและต้องมีการเสียค่าปรับเพราะไปยกเลิกงาน แน็กไม่อยากเสียค่าปรับคนเดียว และมองว่าเรื่องแบบนี้ต้องเสียค่าปรับร่วมกัน แต่ทำไมแน็กต้องมาทำงานกับคนที่ต้องกลัวการเสียค่าปรับ

          นอกจากนี้ เจ้าของแบรนด์หนึ่งยังมาคุยกับแม่ของแน็กว่า แน็กทำแบรนด์เสียหาย 40 ล้าน ซึ่งอย่าพูดแบบนั้น เพราะสินค้ายังไม่มี และแน็กเพิ่งได้เงินเท่าไรเอง สินค้าบางตัวสิ้นสุดสัญญา เงินจำนวนมากที่จ่ายไปคือค่าทำงานของกามินที่แน็กดูแลให้ด้วยเงินส่วนตัวของแน็กเอง

          งานแรก ๆ มีงานคอลลาเจนเข้ามา แน็กบอกว่า ให้กามินรับเจ้าเดียวทั้งที่เจ้าอื่นให้เงินเยอะกว่า แต่ต่อมากามินจะไปรับคอลลาเจนอีกแบรนด์ที่เป็นของเกาหลี กามินติดต่อไปที่เกาหลี เมื่อถามว่า คอลลาเจนนั้นขายที่ไหน กามินกลับบอกว่าขายที่ไทย ซึ่งมันไม่ได้ กามินบอกว่าคอลลาเจนมันคนละแบบกัน ของเกาหลีคือแบบแคปซูล แต่แน็กก็ห้าม คุยกัน 3-4 ครั้ง และต้องให้ล่ามมาแปลให้ฟัง

          ภาษี กามินไม่เข้าใจระบบภาษีของไทย แน็กบอกว่า กามินสงสัยว่าทำไมมาทำงานที่ไทยแล้วต้องเสียภาษีเยอะมากเกือบสองเท่าของเกาหลี แต่จริง ๆ แน็กเสียภาษีตั้งแต่อายุ 9 ขวบแล้ว ตั้งแต่ที่เล่นหนังแฟนฉัน แน็กอธิบายว่า ภาษีไทยคือระบบก้าวหน้า ยิ่งรายได้สูง ฐานยิ่งสูง หากรายได้เกิน 5 ล้าน เสียภาษีสูงถึง 35% แต่เวลาแน็กกับกามินไปออกอีเวนต์รวมกัน รวม ๆ แล้วได้เงินกว่า 50 ล้าน ซึ่งถ้ารายได้ขนาดนี้ ต้องจดแจ้งเป็นนิติบุคคล เอารายได้เข้าบริษัท เสียภาษีในรูปแบบนิติบุคคลจะคุ้มกว่า ทว่า กามินไม่เข้าใจ ต้องให้ล่ามมาช่วยแปลให้อีก
 

          ตนอยู่กับความกดดันมาตลอด เพราะกามินเคยไปพิมพ์ว่า กามินอยู่กับความลำบาก เหมือนนกไม่ได้โบยบิน บอกว่ากามินไม่ได้ออกจากคู้บอน ไม่ได้ไปไหน แต่แน็กมีบ้านให้เขา 4 หลัง และบ้านที่โชคชัย 4 แต่พอดีไฟไหม้ไปแล้ว และมีโรงแรมด้วย แต่กามินขอยกเลิกโรงแรมอีก เพราะกามินอยากมาให้อยู่ใกล้กัน เลยมาอยู่ด้วยกัน และจะได้พูดได้ด้วยว่า กามินประหยัดค่าโรงแรม

          บ้านของแน็กอาจจะไม่ได้หรู ตนกดดันมากกับคำว่า ผู้หญิงบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่กับผู้ชาย ที่นี่ไม่ใช่สนามรบ แต่มีคนที่รักกามินรอต้อนรับเป็นพันเป็นหมื่น มีครอบครัวของแน็ก ที่นี่ไม่มีกรงขัง และกามินก็บอกเองว่าไม่ชอบเที่ยว

          แน็กทำให้กามินมาทำงานที่ไทย ได้ ชม. ละ 400,000-1,000,000 บาท หากเป็นคุณ คุณจะมาหรือเปล่า แบบนี้ลำบากหรือ แต่ก่อนอยู่เกาหลี กามินทำงานต้องเอาไปจ่ายค่ากิน ค่าห้อง กินแต่ซีเรียล แทบไม่ได้กินข้าว แต่มาที่ไทย กามินได้เงินเยอะมาก มีรถรับ-ส่ง มีข้าว มีค่าจ้าง มีคนซัพพอร์ต ไปถ่ายงานวันเดียว มีบ้านให้อยู่ 4 หลัง และกำลังทำให้เพิ่มอีก 1 หลัง มีโรงแรม 1 ที่ ส่วนขาดคนถือกระเป๋า ก็มีแน็ก แม้แต่แม่แน็กช่วยถือให้ ขอโทษที่ทวงบุญคุณ
 

          แน็กไม่เคยห้ามกามินดื่มแอลกอฮอล์ มีแต่สนับสนุนเพราะมันคือความสุขของเขา บ้านของแน็กอยู่มา 30 ปี ไม่เคยมีเหล้าเบียร์ แต่แน็กต้องไปซื้อเหล้า-เบียร์ มาให้กามิน ตนโตพอ และเขาก็อายุ 31 ปี และอย่าไปว่าเขา มันไม่ใช่เรื่องไม่ดี คนไทย-คนเกาหลีกินเหล้าหมด ห้ามกันไม่ได้ ขออย่าให้ถึงขั้นว่าดื่มหนัก ขอแค่อย่ามาว่าว่าตนไปห้าม

          เรื่องบ้านไฟไหม้ และมีคนไปบอกว่า กามินทำบ้านไฟไหม้เพื่อขโมยของ แน็กยืนยันว่าไม่จริง ส่วนเรื่องที่ว่า เรื่องขโมยของ แน็กไม่เคยพูด บริษัทไม่เคยพูด ของหายไม่เคยโทษใคร กามินบอกว่าต้องขออนุญาตของใช้เสมอ แต่จริง ๆ แน็กไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยเลย 

          แน็กไล่กามินออกจากบ้าน กามินต้องแบกกระเป๋า 10 ใบใส่แท็กซี่เอง แน็กบอกว่า อาเธอร์เป็นคนเข็นกระเป๋าให้ แม่ก็ร่ำลา แต่แน็กไม่ได้ลา เพราะแน็กรักกามินมาก ได้แต่นั่งมองดูกามินจากหน้าต่าง

          ตอนที่กามินมาไทย กามินขอผู้จัดการส่วนตัว 1 คน ที่จะต้องถือของตามกามินตลอด มาอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง แบบที่ดาราเกาหลีชอบมี แต่แน็กให้ไม่ได้เพราะมันมากเกินไป แต่แน็กมีคนอื่น ๆ ที่คอยช่วยอยู่แล้ว