น้องทะเล ลูกก้อย-ตูน ชักเกร็งจนต้องผายปอด ติดเชื้อในกระแสเลือด เผยสาเหตุเกิดจากอะไร

          อาการป่วยที่เกิดขึ้นในเด็กนั้น หากพ่อแม่สังเกตเห็น ต้องรีบทำการรักษาให้ทันท่วงที มิเช่นนั้นอาจจะส่งผลใหญ่ตามมา เช่นเดียวกับที่ล่าสุด ก้อย รัชวิน ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ที่ตอนแรกเธอไม่อยากเล่า แต่ก็ต้องเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้พ่อแม่ทุกคน เมื่อน้องทะเล ลูกชายคนโตของก้อย เกิดอาการชักเกร็งจนปากม่วง และก้อยต้องทำการผายปอด นำตัวส่งโรงพยาบาล

          ทั้งนี้ ก้อยเผยว่า เรื่องนี้ตนเอามาบอกเล่า เพราะต้องการให้เป็นบันทึกเหตุการณ์ที่บีบหัวใจแม่ที่สุดและไม่คาดคิดว่าจะเจอได้ และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับพ่อแม่ที่ลูกเล็ก

          โดยที่ตอนบ่าย ก้อยไปรับน้องทะเลที่โรงเรียน ครูบอกว่าน้องตัวรุม ๆ แต่ยังร่าเริงเป็นปกติ ช่วงเย็นก้อยก็พาน้องทะเลมาเดินเล่นและให้อาหารปลาที่สวน Eden Valley ซึ่งน้องก็ยังร่าเริงเหมือนเดิม จากนั้นก้อยต้องเข้าไปในงานอีเวนต์ จึงฝากลูกไว้กับพี่เลี้ยง และให้พี่เลี้ยงพาน้องทะเลไปอาบน้ำกินข้าวก่อนที่บ้านพี่ของก้อย ซึ่งเป็นเจ้าของสวน Eden เสร็จงานแล้วเดี๋ยวไปรับน้องกลับ แต่ไม่ถึง 2 นาที พี่เลี้ยงก็มาหาก้อยด้วยหน้าตาตื่นและบอกว่า น้องทะเลเป็นอะไรไม่รู้

          ภาพที่เห็นคือ น้องทะเลชักเกร็ง ตาเหลือก เหมือนคนหมดสติ ก้อยจึงต้องรีบปฐมพยาบาลลูกด่วนตามที่เคยเรียนมา ตอนแรกก้อยได้พยายามเรียกน้อง แต่น้องไม่ตอบกลับ จึงเตรียมทำ CPR แต่เนื่องจากน้องตัวเล็ก กลัวว่าน้องจะเจ็บ ก้อยจึงต้องผายปอดให้ลูกก่อน แต่ลูกไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ จากนั้น ปากของน้องก็เริ่มเปลี่ยนสี อาการไม่ดี จึงต้องรีบพาน้องไปที่ รพ.ถลาง ซึ่งเป็น รพ. ที่ใกล้ที่สุด พอไปถึง ก้อยวิ่งเท้าเปล่าอุ้มลูกเข้าห้องฉุกเฉินทันที เจ้าหน้าที่จึงรีบพากันเช็ดตัวน้อง จนน้องได้สติและร้องไห้ออกมา

          วินาทีนั้น ก้อยบอกว่า ตนเองสติแทบหลุด กลัวว่าลูกจะเป็นอะไร ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ในชีวิตมาก่อน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ความรู้สึกคือลูกหมดสติเหมือนหยุดหายใจ พอได้ยินลูกร้อง จึงเหมือนยกภูเขาออกจากอก

          จากนั้น รถพยาบาลก็มารับน้องไปที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ต ซึ่งหมอวินิจฉัยว่า น้องติดเชื้อในกระแสเลือด ไข้สูงเฉียบพลันจนชักเกร็ง ซึ่งปกติมักเกิดในเด็กแรกเกิด - 2 ขวบ แต่ทะเลจะ 3 ขวบแล้ว ก็ถือว่าแปลก ซึ่งก่อนที่น้องจะชัก น้องไม่ได้มีอาการตัวร้อนหรือมีอาการใด ๆ ที่ดูผิดปกติเลย และหมอได้ตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง เพื่อหาสาเหตุของอาการชัก จะได้มั่นใจว่าลูกจะไม่เป็นลมชักในอนาคต ซึ่งคลื่นสมองบอกว่าน้องปกติดี 

          ก้อยบอกว่า ถ้าตนมาถึงบ้านเพื่อนช้ากว่านี้ ถ้าไม่มีคนขับรถที่ขับรถแบบหนังฟาสต์ ถ้าลูกไม่ฟื้น ตนจะทำอย่างไร เหตุการณ์นี้เหมือนเป็นบททดสอบความเป็นแม่ครั้งใหญ่ การผ่านด่านนั้นไม่ง่าย และต้องมีสติ จึงอยากบอกพ่อแม่ทุกคนว่า หากลูกมีอาการชักจากไข้สูง ห้ามเอาช้อนหรือเอาอะไรงัดปากเด็ดขาด แต่ให้ตะแคงตัวลูกและเอาผ้าชุบน้ำเช็ดให้ลูกตัวเย็นเร็วที่สุด หากลูกไม่ฟื้นให้รีบพาลูกไป รพ. ทันที

          "โดยที่ก้อยต้องเผชิญกับเรื่องนี้โดยที่ไม่มีพี่ตูนอยู่ข้าง ๆ เพราะพี่ตูนเล่นคอนเสิร์ตอยู่ที่สวีเดน วันเกิดเหตุ ก้อยไม่สามารถเล่าดีเทลทั้งหมดให้พี่ตูนฟังได้ เพราะกลัวว่าเขาจะไม่มีกะจิตกะใจทำงาน แต่พอเสร็จคอนเสิร์ตปุ๊บ พี่ตูนก็รีบเปลี่ยนไฟลต์จากที่ต้องกลับวันอังคารดึก ๆ ให้กลับมาถึงวันจันทร์ตอนเช้า เพื่อจะได้กลับมาหาลูกให้เร็วที่สุด… สุดท้าย จึงอยากขอบคุณโชคชะตาและใครบางคน ที่ทำให้ครอบครัวเรายังได้อยู่กันพร้อมหน้า และได้กลับมากอดกันอีกครั้ง…ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ"