ภาคเฉลย เจ้าชายอาละดินเปย์เจ้าหญิงอินฟลู ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่คนที่เดากัน

           กลายเป็นเรื่องที่หลายคนมุงเพราะสงสัยจริง ๆ ว่า เจ้าชายอาละดิน เปย์เจ้าหญิงอินฟลู แต่ติดหนี้กิ๊กเก่าเป็นล้าน ตอนแรกก็เดาไปต่าง ๆ นานาว่ามีแนวโน้มเป็นคนนั้น คนนี้

           วันที่ 10 มีนาคม 2568 เฟซบุ๊ก เฉลิมศรีofficial มีการโพสต์ข้อความว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ตนทราบ ตั้งแต่ก่อนเขาจะมาขอตนเป็นแฟน แล้ว ตอนคุยกันแรก ๆ เคยพูดไปแล้วว่ามีอะไร เขาก็มาเล่าให้เรากับเพื่อนฟังหมด เขาเล่าว่า มีพี่คนหนึ่ง เป็นเพื่อนกับป้า เขาใช้คำว่าเอ็นดู อยากซัพพอร์ตฟีลลูกหลาน โอนเงินช่วยจ่ายหลายอย่าง แต่บางอันพอถึงรอบจ่าย เขาจ่ายเอง

           ในเวลานั้นยอมรับว่า ตอนนั้นยังไม่ได้คบกันก็ตอบส่ง ๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้คบกัน ว่า.. ก็ดีแล้ว มีคนรักดีกว่ามีคนเกลียด จนไม่กี่วันก่อนคบกัน เขาบอกว่า จะไปเคลียร์ตัวเอง แล้วจะมาขอเป็นแฟนนะ ตนก็รับปากว่า โอเค

           แต่พอหลังจากลงคลิป ขอเป็นแฟน เขามาบอกว่า คนที่เปย์ไม่ยอม ทำไงดี แถมยังอยากเป็นผู้จัดการส่วนตัวด้วย จนปัญหาเริ่มตามมา คนที่เปย์ชวนไปนั่นไปนี่ รถที่เคยให้ลองขับก็อยากคืน แต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับ

           เรื่องนี้ตนตัดสินใจว่าจะไม่ยุ่งอะไร เพราะเขาสัญญาว่าจะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง มันเป็นปัญหาของเขา กระทั่งวันหนึ่งมีโอกาสได้คุยกับคนที่เปย์ ที่เป็นฝ่ายติดต่อมาเอง เรื่องที่ฟังก็ตรงกับที่เขาเคยเล่าทุกอย่าง ยกเว้นเรื่อง อีกฝ่ายอ้างว่าคบกับแฟนตนแบบรักกันมาก ก่อนปิดท้ายว่า เขายังไม่ได้จ่ายค่าบัตรเครดิตที่รูดไป ซึ่งมีค่าใช้จ่ายตนด้วย ดังนั้นตนต้องจ่าย ส่วนเรื่องรถไม่ขอเอาคืน เพราะบาดตาบาดใจ เคยใช้จุ๊บกัน

           เมื่อคุยกับแฟน เขาบอกว่า ถ้าได้เงินมาจะคืนให้ รวมถึงรถด้วย จากนั้นไม่นาน แฟนก็มาขอเบิกเงินตนแสนห้า เพราะอยากได้รถ แล้วก็เป็นไปตามเรื่องราว มาเห็นพร้อมกันทุกคน

           ต่อมา อินสตาแกรม dyw_just_ ของ ดุลยวัต แก้วศรียงค์ นักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติ โพสต์ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ตนกับคู่กรณีไม่ได้มีสถานะเป็นแฟนกันมากกว่านั้น เขามาทักเชิงจีบ อยากลองพัฒนาความสัมพันธ์ ตนไม่ได้ปิดกั้น แต่เมื่อตนมีแฟนจริง ๆ ตนก็ขอยุติความสัมพันธ์ ให้สถานะได้เพียงผู้จัดการ เพื่อเป็นการรักษาน้ำใจ และตนรับปากกับแฟนว่า จะแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเอง

           เรื่องบัตรเครดิตเสริม เขาทำให้ตนโดยไม่มีการร้องขอ ค่าบัตรแต่ละครั้งก็ไม่มีการเรียกร้องให้จ่ายสักครั้ง แต่ตนก็มีการขอจ่ายคืนบ้างเพราะความเกรงใจ ส่วนยอดสุดท้าย ตนไม่ได้จ่ายคืน เพราะคู่กรณีเต็มใจ แต่ครั้งนี้คู่กรณีไม่พอใจที่ต้องยุติความสัมพันธ์ เริ่มล้ำเส้นแล้ว

           ส่วนเรื่องรถที่ต้องการซื้อต่อนั้น ตนแจ้งแล้วว่าจะไม่มีการซื้อขายต่อจากคู่กรณี เพื่อไม่ให้มีอะไรติดค้างหรือเป็นพันธะต่อกัน สุดท้าย ตนก็ไม่เข้าใจว่า คู่กรณีต้องการสิ่งใดจากตนกันแน่