โบว์ แวนด้า เป็นโรคไข้เลือดออกมือสอง หลังสามี ปอ ทฤษฎี จากไปด้วยโรคนี้ รับทรมานทางใจ

          แม้จะผ่านมานานเกือบ 10 ปีแล้ว แต่การจากไปอย่างกระทันหันของ ปอ ทฤษฎี พระเอกผู้ล่วงลับที่เสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออก เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2559 ก็ยังคงเป็นบาดแผลในใจให้กับครอบครัว โดยเฉพาะ โบว์ แวนด้า ผู้เป็นภรรยามาโดยตลอด

          ล่าสุด (25 มิถุนายน 2568) โบว์ แวนด้า ได้ออกมาโพสต์คลิปเล่าเรื่องเล่าของการเป็น โรคไข้เลือดออกมือสอง ซึ่งเป็นคำเรียกกลุ่มคนที่ใกล้ชิดผู้ป่วยไข้เลือดออก ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง หรือคนรัก พร้อมแนะแนวทางป้องกันโรคดังกล่าวให้กับทุกคน และยอมรับว่า เป็นความทรมานทางใจที่ไม่เคยหายไปจากชีวิตเรา

          โดยระบุว่า "วันแรกที่โบได้รู้จักไข้เลือดออกมือสอง คือวันที่ คนที่โบรักป่วยเป็นไข้เลือดออก

          ไข้เลือดออกมือสอง เป็นโรคที่เราไม่ได้เจ็บทางกาย แต่มันทรมานทางใจ และเป็นโรคที่มันไม่เคยหายไปจากชีวิตเรา ในทุก ๆ วัน เรามีความหวังว่าทุกสิ่งมันจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่หลาย ๆ ครั้ง มันก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคาดหวังไว้ และผลลัพธ์ของเรื่องนี้ก็ออกมาอย่างที่ทุกคนได้รู้กัน

          วันนี้ในฐานะที่โบเป็นไข้เลือดออกมือสอง อยากจะบอกทุกคนว่า โรคไข้เลือดออกจริง ๆ แล้วมันระบาดหนักแทบทุกปีและอย่างยาวนาน และมันรุนแรง ผลกระทบจากโรคไข้เลือดออก มันไม่ได้มีแค่คนที่เป็นโรคคนเดียวเท่านั้น คนใกล้ชิดที่ไม่ได้ป่วยก็ต้องทรมานไม่แพ้กันจากการเห็นคนที่เรารักต้องป่วยเป็นไข้เลือดออก

          แต่วันนี้ทุกคนยังมีโอกาสที่จะป้องกันตัวเอง และคนที่รักจากโรคไข้เลือดออกนะคะ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีใครมาเป็น "ไข้เลือดออกมือสอง" เหมือนกับโบ

          - ป้องกันยุงกัด กำจัดแหล่งยุงเกิด เช่น ทายากันยุง เก็บบ้าน กำจัดแหล่งน้ำขัง

          - ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีการป้องกันไข้เลือดออก และการฉีดวัคซีนที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ทั้ง 4 สายพันธุ์ ซึ่งช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ 80-90% รีบป้องกันกันทั้งครอบครัว

          หากใครอยากรู้จัก "ไข้เลือดออกมือสอง" มากขึ้น สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

          #ไข้เลือดออกมือสอง #ปรึกษาแพทย์ได้แล้ววันนี้ #DengueZeroMOU

          * คำแนะนำการให้วัคซีนป้องกันโรคสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ โดยสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2568

          ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นสำหรับประชาชนเป็นการทั่วไปโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลเท่านั้น ข้อมูลนี้ไม่ควรถูกนำไปใช้เพื่อวินิจฉัยหรือรักษาปัญหาสุขภาพหรือโรคใด ๆ การให้ข้อมูลดังกล่าวนี้ไม่มีวัตถุประสงค์เป็นการทดแทนการปรึกษากับผู้ให้บริการทางการแพทย์ โปรดปรึกษาผู้ให้บริการทางการแพทย์ของท่านสำหรับคำแนะนำเพิ่มเติม ประสบการณ์ของแต่ละบุคคลเกี่ยวกับไข้เลือดออกอาจแตกต่างกันออกไป"