หลายคนมีปัญหาว่าตื่นนอนมาแล้วผมฟูตอนเช้า ทำให้ต้องเสียเวลาจัดแต่งทรงผม แล้วผมฟูแก้ยังไง จะมีวิธีดูแลผมแบบไหนได้บ้าง มาหาคำตอบกัน
เบื่อไหมที่สระผมตอนกลางคืน ตื่นเช้ามาผมชี้ฟูไม่เป็นทรง ต้องเสียเวลามาจัดแต่งทรงผมอีก แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะกระปุกดอทคอมจะพาไปหาสาเหตุผมฟูตอนเช้า พร้อมวิธีดูแลผมให้นุ่มสลวย ลดปัญหาผมฟู มาดูกันเลย
สาเหตุที่ทำให้ผมฟูตอนตื่นนอน
ผมฟูในตอนเช้ามีสาเหตุมาจากหลากหลายปัจจัย ดังนี้
1. แรงเสียดสีขณะนอน
ขณะเราขยับตัวตอนนอน เส้นผมจะถูกเสียดสีกับปลอกหมอนและผ้าห่ม ทำให้เกล็ดผมยกขึ้น เกิดพันกันและชี้ฟู นอกจากนี้การเสียดสีมาก ๆ ยังทำให้ผมขาดหรือแตกปลายได้ด้วย
2. ความชื้นสูงหรือแห้งเกินไป
ผมเป็นวัสดุดูดความชื้น ในวันที่ชื้นเส้นผมจะดูดน้ำจากอากาศแล้วขยายตัว เกล็ดผมเปิด ทำให้ผมฟูมากขึ้น ในขณะที่หากสภาพอากาศแห้งมาก ผมก็จะขาดน้ำมันธรรมชาติ เกล็ดผมก็เปิด เกิดไฟฟ้าสถิต ทำให้ผมฟูเหมือนกัน จึงเห็นว่าทั้งความชื้นสูงและความแห้งขาดสมดุลล้วนทำให้ผมฟูได้
3. ผมแห้งหรือผมเสีย
การยืด ดัด ทำสี และใช้ความร้อนหนัก ๆ ทำให้โครงสร้างเกล็ดผมเสีย เกล็ดผมเปิด ไม่เรียบ ทำให้ผมไม่เรียงตัวเมื่อโดนแรงเสียดสีหรือความชื้น ส่งผลให้ตื่นมาผมฟูง่ายกว่าคนที่ผมสุขภาพดีกว่า
4. วัสดุที่ใช้บนเตียง (ปลอกหมอน / ผ้าปู / ผ้าห่ม)
ปลอกหมอนผ้าฝ้ายทั่วไปมีพื้นผิวหยาบกว่า จึงเสียดสีมากกว่า ผ้าซาตินหรือผ้าไหมจะลื่น ลดแรงเสียดสีและยังช่วยรักษาไขมันธรรมชาติบนเส้นผมได้ดีกว่า
5. วิธีสระผม / เช็ดผมที่ผิด
การขยี้ หรือเช็ดผมแรง ๆ ด้วยผ้าขนหนูปกติ หรือการสระน้ำร้อนบ่อย ๆ ทำให้ผมเสียสมดุลความชุ่มชื้นและทำให้เกล็ดผมเปิดมากขึ้น ส่งผลให้ฟูตอนเช้าได้ง่าย
ทำยังไงให้ตื่นมาแล้วผมไม่ฟู
สำหรับคนที่เจอปัญหานี้อยู่ ลองปรับพฤติกรรมสักเล็กน้อย เพื่อดูแลเส้นผมให้เรียบลื่น
1. เปลี่ยนปลอกหมอนเป็นซาตินหรือผ้าไหม
ใช้ปลอกหมอนผ้าไหมซาตินคุณภาพป็นประจำ เนื่องจากผิวผ้านุ่มลื่นจะช่วยลดแรงเสียดสี ทำให้เกล็ดผมเรียบขึ้น รากน้ำมันธรรมชาติไม่ถูกดูดไปที่หมอนมากเท่าฝ้าย ทำให้ผมดูชุ่มชื้นและไม่ฟู
2. พันผมก่อนนอนให้เหมาะกับสไตล์ผม
- สำหรับผมหยิกหรือผมดัดลอน ให้สะบัดลอนขึ้นด้านบน รวบเป็นหางม้าสูงหลวม ๆ แล้วพันด้วยผ้านุ่ม ๆ จะช่วยรักษาลอนผมและลดแรงเสียดสี
- สำหรับผมตรงหรือผมยาว ให้แบ่งผมเป็น 2-3 ช่อ ถักเปียหลวม ๆ เพื่อป้องกันผมพันกันและลดการชี้ฟู
3. ทา Leave-in หรือเซรั่มผมก่อนนอน
เลือก Leave-in หรือเซรั่มผมที่เป็นสูตรบางเบา ทาเฉพาะช่วงกลางถึงปลายผมก่อนนอนประมาณ 1–2 หยดสำหรับผมสั้น และ 2–4 หยดสำหรับผมยาวหนาปานกลาง จะช่วยเคลือบปิดเกล็ดผม ลดการดูดความชื้นจากอากาศและลดแรงเสียดสีขณะนอน ทำให้ตื่นมาผมนุ่มเรียบขึ้น
4. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือเสื้อยืดเก่าในการซับผมหลังสระ
แนะนำให้บีบหรือซับ น้ำออกเบา ๆ ด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์หรือเสื้อคอตตอนเก่าแทนการขยี้ วิธีนี้ช่วยลดการเสียดสีจากผ้าขนหนูธรรมดาที่หยาบกว่าและช่วยให้เกล็ดผมไม่เปิดมาก ลดภาวะฟูตอนเช้า
5. ทำ Deep-Conditioning หรือ Hair Mask สัปดาห์ละครั้ง
ใช้มาสก์แบบทิ้งเวลา 10–30 นาที ทุกสัปดาห์หรือ 2 สัปดาห์ครั้งสำหรับผมเสียหนัก อาจใช้หมวกอาบน้ำหรือความร้อนเล็กน้อยช่วยให้มาสก์ซึมดียิ่งขึ้น ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม ปิดเกล็ดผม ลด Porosity ของผมที่ทำให้ดูดความชื้นผิดวิธี จึงช่วยลดฟูและเพิ่มความเงางามได้
6. ลดการใช้ความร้อน หรือใช้ Heat-Protectant เมื่อจำเป็น
ถ้าต้องไดร์หรือหนีบผม ให้ตั้งอุณหภูมิต่ำถึงปานกลาง (โดยเฉพาะผมทำสีหรือผมบาง) และฉีดหรือทา Heat-Protectant ก่อนทำผมเสมอ เนื่องจากความร้อนสูงจะทำให้ผมแห้งและเปิดเกล็ดผม ทำให้ฟูง่ายขึ้นในวันต่อมา ซึ่งตัวกันความร้อนช่วยเป็นเกราะปกป้องและลดการสูญเสียน้ำมันและความชื้น จากนั้นให้จบด้วยไดร์ลมเย็นเพื่อช่วยล็อกเกล็ดผม
7. ตัดแต่งปลายผมเป็นประจำ
ตัดเล็มปลายผมทุก 8–12 สัปดาห์ (หรือเมื่อต้องการ) เพื่อลดผมแตกปลาย เมื่อผมไม่แตกปลายก็จะดูไม่ฟูหรือแห้งหยาบ
8. ถ้าปัญหามาจากความชื้น ควรปรับสภาพห้องนอน
ถ้าห้องชื้นมาก ให้ใช้เครื่องลดความชื้นหรือปรับเครื่องปรับอากาศให้ควบคุมความชื้น หากห้องแห้งมาก อาจใช้ Humidifier แบบตั้งเวลาเพื่อให้สมดุล วิธีนี้จะช่วยลดการเปลี่ยนแปลงของความชื้นที่ทำให้ผมดูดหรือคายความชื้นจนฟูชั่วข้ามคืน
9. ไอเดีย Quick-Fix ตอนเช้า เมื่อเจอผมฟูกะทันหัน
- ใช้ Water Mist ฉีดที่ผมเล็กน้อย แล้วใช้เซรั่มบางเบาลูบไล้เส้นผมจากกลางจรดปลายผม โดยการใช้มือหรือหวีซี่ห่างช่วยสางผม
- ใช้เครื่องหนีบหรือไดร์เป่าผมช่วยให้บริเวณที่ผมฟูเล็ก ๆ
- ถ้าปัญหามาจากน้ำมัน บางครั้ง Dry Shampoo ก็ช่วยคืนวอลลุ่มและลดความลีบมันที่ทำให้ผมบางส่วนดูฟูได้
- หวีด้วยแปรงขนหมูป่า เพื่อกระจายน้ำมันธรรมชาติจากรากสู่ปลาย ทำให้ผมเรียบขึ้น
ผมฟูตอนเช้าแก้ได้ไม่ยาก ไม่ต้องเป็นกังวลไป แค่ดูแลผมให้ถูกวิธีก็จะช่วยลดความชี้ฟูของผมและทำให้ผมกลับมาสวยได้แล้วค่ะ
