เจนี่ เปิดใจ ข้าวโพด รับเคยไม่ชอบกันเพราะคำพูดบางคน เล่าพีคจุดที่ทำให้เอ๊ะหนักมาก

           เจนี่ เผยว่า ก่อนหน้านี้ที่รู้จักข้าวโพด ผ่านเพื่อนสนิทของฉันคนหนึ่ง ฉันก็ไม่เคยคิดเลยว่า ข้าวโพด จะเป็นแบบนี้ เขาทำให้ฉันมองภาพข้าวโพดเป็นอีกคนหนึ่ง 

           ข้าวโพด เผยว่า กูเชื่อ เพราะข้าวโพดเองก็มองเจนนี่ เป็นอีกแบบจริง ๆ เหมือนกัน ซึ่ง เจนี่ ระบุว่า เอาเป็นว่า คนคนหนึ่งในชีวิตของเราสองคน ทำให้เรามองกันและกันแบบผิดเพี้ยนไปหมด 

           พูดตรง ๆ เลย คือ เจนนี่เป็นคนตรง ไม่เฟก โพดก็เป็นคนตรง ไม่เฟกเหมือนกัน แล้วคนอย่างพวกเรา เวลาเรารักใคร เรารักจริง เราเป็นคนพูดแรง เป็นคนที่ดูเรียล มันเลยทำให้ดูดุ ดู aggressive ถ้าคนไม่เก็ต ไม่เข้าใจเรา คนจะมองว่าเราน่ากลัวและจะไม่กล้าเข้าใกล้ แล้วใครจะกล้าล่ะ? ถ้าเพื่อนเรามาบอกว่า เจนี่ เป็นคนแบบนั้น แบบนี้ มันไม่ชอบมึง เพราะมันคิดว่ามึงเป็นแบบนี้ แล้วคิดว่าพอได้ยินแบบนั้น ข้าวโพด จะกล้าไปถาม เจนี่ ไหม

           เจนี่ เผยว่า ไม่น่าล่ะ เวลาเมื่อก่อนเจอข้าวโพด ก็จะชอบทำหน้าเหมือนกระอักกะอ่วน ก็คิดว่าเก๊กสวย แต่เปล่าเลย

           เจนี่ ถามข้าวโพดว่า แวบแรกที่เริ่มสงสัยในตัวเพื่อนรายนี้เกิดจากเรื่องอะไร ข้าวโพดบอกว่า พูดแล้วอาจจะตกใจ เธอให้ลูกไปเล่นบ้านเขาบ่อย ตอนนั้นลูกอายุ 6 ขวบ ตัวเล็ก ๆ ลูกไปเล่นบาสเกตบอล แล้วโดนโต๊ะหินอ่อนยี่ห้อ Fendi แตก อยู่ที่บ้านเขา ตอนนั้นฉันก็เป็นคนตรง ๆ ฉันก็บอกเขาไปว่า ลูกฉันเป็นคนไปเล่นเอง ไปทำโต๊ะเขาแตก ฉันช็อกมาก แล้วเพื่อนคนนั้นก็ส่งบิลมาให้ดูเฉย ๆ ว่าราคาเท่าไหร่  148,000 บาท

           แต่ทีหลังถึงรู้ว่าโต๊ะตัวนั้นเขาซื้อมาครึ่งราคา แต่ส่งราคาเต็มมาให้ข้าวโพดดู เพราะตอนที่ข้าวโพดเอา ซากโต๊ะไปซ่อมที่ร้านหินอ่อน คนซ่อมบอกว่า "คุณข้าวโพดครับ โต๊ะนี้เคยแตกแล้ว และเคยซ่อมมาแล้วนะครับ" แปลว่าโต๊ะนั้นเคยแตกมาก่อน ซื้อมาแบบลดครึ่งราคา แต่ข้าวโพดจ่ายคืนให้เขา ราคาเต็ม เพราะรู้สึกผิดว่าลูกเราไปทำบ้านเขาเสียหาย แต่เขาก็ยังรับเงินเต็ม ทั้งที่รู้ว่าโต๊ะเคยแตกมาแล้ว นี่เป็น สัญญาณแรก ที่ทำให้รู้สึกว่า… เอ๊ะ มันแปลก ๆ

          อีกเรื่องต่อมา ข้าวโพดเริ่มรู้ว่า เขาเอาเรื่องของข้าวโพดไปพูดไม่ดีให้หลายคนฟัง ทั้งที่ต่อหน้าเขาบอกว่า รักข้าวโพดมากได้ยินจากปากคนอื่นประมาณสิบกว่าคน ไปทุกกลุ่ม ทุกวง เขาพูดถึงข้าวโพดทุกวัน

           ด้าน เจนี่ เผยว่า มึงรู้ไหม กูได้ยินเรื่องมึง (ข้าวโพด) ทุกวันเลย กูได้ยินจนแบบ... จนข้าวโพดเสริมว่า มึงเกลียดกูแหละ กูพูดเลย 

          เจนี่ ยอมรับว่า ได้ยินเรื่องข้าวโพดจนมันฝังในหัวว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นคนแบบนี้ไปแล้ว กลายเป็นว่าตัวเองไม่กล้าพูดกับโพด แม้แต่คำว่า ฮัลโหล  คือมันฝังมาก ถ้าเกิดไม่ได้มาคุยกัน เจนี่ จะไม่รู้เลยว่า ข้าวโพดเป็นคนนิสัยเหมือนกับเรามาก ตรง ๆ รักคือรัก จนรู้สึกว่า เขาไม่อยากให้เราสองคนมารู้จักกัน เพราะถ้าเจอกันมันจะต้องรักกันแน่ ๆ 

           ข้าวโพด เผยว่า แม้เพื่อนสนิทคนนั้นจะเอาเรื่องเธอไปพูดกับทุกคน แต่เธอก็ยังมองว่าเขาอาจจะเป็นคนแบบนั้น แต่ตราบใดที่เขายังรักข้าวโพดอยู่ แต่บางทีก็อดคิดไม่ได้ เพราะเพื่อนคนนี้เอาเรื่องเธอไปพูดให้แม่ของเพื่อนฟังให้เขาไม่ชอบเรา ประมาณว่า "แม่.. ขอโทษด้วยนะ ข้าวโพดมันเป็นคนแบบนี้" ทั้งที่แม่ของเพื่อนไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลย แต่ก็ยังไปเล่าให้คนไม่ชอบเรา

           นอกจากนี้ ข้าวโพด ขอเล่าจุดหนึ่งที่เพิ่งสังเกต คือมิวสิกวิดีโอแต่งงานของสองคนนั้น เป็นคอนเซปต์คู่ผัวเมียไปปล้นแบงก์ แล้วให้ เจนี่ เป็นตำรวจ แล้วทุกคนที่อยู่ใน MV นั้น โดนหมดเลย ไม่อยากจะคิดว่า มันคือเดจาวู จึงอยากรู้ว่าตอนนั้น เจนี่ คิดยังไงกับที่ต้องไปอยู่ในเอ็มวีนั้น

           ด้าน เจนี่ เผยว่า "Everything happens for a reason" เจน เชื่อว่าทุกคนเกิดมาบนโลกใบนี้มันต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าง วิดีโอนั้นก็เหมือนกัน มันต้องมีความหมายอะไรสักอย่าง มันเป็นลางมาก ตอนนั้นไม่คิดอะไรเลย คิดแต่ความสนุก ความตลก แค่นั้นเองไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย เอาจริง ๆ ตอนนี้ ที่เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นก็ยังคิดอยู่เลยว่า มันเป็นความฝัน