ณเดชน์ - ญาญ่า น่ารักซะ เม้าท์เบื้องหลังละคร เกมร้ายเกมรัก

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย thinkJaden2

              นางฟ้าของสายชล... อ๊ายยย พอได้ยินประโยคนี้ทีไรก็จะนึกถึงบทกุ๊กกิ๊กของคู่พระนางสุดฮอตอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ กับ ญาญ่า อุรัสยา สเปอร์บันด์ กับละครสุดฮิตอย่าง "เกมร้ายเกมรัก"  ที่ทำให้คอละครยิ้มได้ถึงแม้จะอยู่ในสภาวะตึงเครียดจากเหตุการณ์น้ำท่วม... ก็แหม บทบาทของ นางฟ้า หรือ ฟ้าลดา นั้นน่ารักใช่เล่น อีกทั้งบท สายชล หรือชาร์ลส์ ก็เท่ไม่หยอก ยิ่งพอเข้าฉากกุ๊กกิ๊กด้วยกันนะ เชื่อเลยว่าคอละครต้องอินจนเขินออกมานอกจอแน่ ๆ เลย

             วันนี้กระปุกดอทคอมก็ไม่พลาดขอนำเรื่องราว ๆ น่ารัก ๆ ของคู่พระนาง ณเดชน์ - ญาญ่า ที่มาให้สัมภาษณ์ ในรายการ ราตรีสโมสร เมื่อคืนวานนี้ (23  พฤศจิกายน) ถึงกระแสตอบรับ และเบื้องลึกเลื้องหลังการถ่ายทำ อีกทั้งยังมีเรื่องราวฮา ๆ ที่ทั้งคู่มาผลัดกันเรื่องโก๊ะ ๆ มาฝากกันค่ะ ...
 
             เริ่มต้นด้วยการถามถึงกระแสตอบรับของละครเรื่องนี้ หนุ่มณเดชน์ กล่าวว่า ถือว่าละครเรื่องเกมร้ายเกมรักประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ ไปไหนมาไหน ก็มีแต่คนเรียกว่า "สายชล" และก็ถามตนว่า ทำไมไม่พานางฟ้ามาด้วยเหรอ ส่วนสาวญาญ่า ก็เล่าเรื่องราวประทับใจให้ฟังว่า ตอนนี้ก็มีแต่คนเรียกตนว่า "นางฟ้า" มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตนขึ้นลิฟท์จะไปชั้นสาม แล้วในลิฟท์ก็มีแฟนละครอยู่ด้วย พอถึงชั้นสามปุ๊บ แฟนละครคนนั้นก็บอกว่า "นึกว่าจะขึ้นสูงกว่านี้ นึกว่าจะไปสวรรค์ซะอีก" ตนก็เลยยิ้มเขิน ๆ ออกมา

            สำหรับใครที่ติดตามดูละครเรื่องนี้ก็จะทราบดีว่า โลเกชั่นในการถ่ายทำนั้นสวยมาก ๆ เพราะว่าโลเกชั่นส่วนใหญ่จะไปถ่ายกันที่ทะเลไม่ว่าจะเป็น เกาะสีชัง กระบี่ เกาะห้อง หาดนมสาว ซึ่งแต่ละที่นั้นทำให้เราได้เห็น หาดสวย น้ำใส ท้องฟ้าสีครามที่ดูแล้ว น่าไปเที่ยวเป็นที่สุด แต่นอกจากวิวทะเลสวย ๆ แล้ว แฟน ๆ ละครยังจะได้เห็นหุ่นล่ำ ๆ น่ากอดของณเดชน์กันด้วย เพราะว่าเรื่องนี้ณเดชน์เล่นเป็นชาวเกาะ ที่ต้องแต่งตัวแบบชาวเล ชาวประมง สบาย ๆ โดยณเดชน์กล่าวว่า ตนเป็นคนไม่กลัวแดด ถ้าให้ตนถอดเสื้อ ตนก็โอเค แต่ขอเวลาตนซิทอัพสักนิดนึงเพื่อให้มั่นใจว่า หุ่นของตนนั้นฟิตแอนด์เฟิร์มจริง ๆ เสียก่อน

           ณเดชน์สุดหล่อ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับโลเกชั่นของเรื่องนี้ เป็นโลเกชั่นที่ถูกใจตนมาก ๆ เพราะตนชอบทะเลสุด ๆ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะตนเป็นเด็กบ้านนอก เป็นเด็กอีสาน ตอนเด็ก ๆ ไม่ค่อยได้เล่นน้ำทะเลสักเท่าไร พอโตขึ้นมาได้ถ่ายละครที่ทะเล ตนอดไม่ได้ที่จะถอดเสื้อ ถอดรองเท้าแล้ววิ่งลงทะเล



          "ผมเป็นเด็กอีสานไม่เคยเจอทะเล สมัยก่อนตอนเด็ก ๆ ผมมาพัทยากับครอบครัวแล้วถูกใจมาก พอขึ้น ม.ปลาย ก็เริ่มเรียนหนักเลยไม่ค่อยมีโอกาสได้ไป แต่พอมาทำงานได้ถ่ายละครที่ทะเล ก็ชอบมากกกกก... ยิ่งที่สมุยนะ ชอบสุด ๆ พอเจอทะเลปุ๊บ ผมก็จะถอดเสื้อถอดรองเท้าทันที เพื่อให้แม่เหล็กที่ใต้แกนโลกส่งพลังมายังตัวเรา (หัวเราะ)"  พอณเดชน์กล่าวจบ พิธีกร เสนาลิงก็แซวว่า "ไม่ต้องอ้างทฤษฎีอะไรหรอก จริง ๆ แล้ว แค่เด็กบ้านนอกอยากเหยียบทรายใช่ไหมล่ะ" งานนี้ณเดชน์ก็หัวเราะร่วนและก็ยิ้มรับอย่างเขิน ๆ  (น่ารักอ้ะ)

         ทางฝากฝั่งนางเอกสาวญาญ่า ก็กล่าวว่า ตนชอบทะเลอยู่แล้วเพราะเป็นเด็กน้ำเกลือ (จริง ๆ แล้วน้องญาญ่าจะพูดว่าลูกน้ำเค็ม อิอิ)  พอมาถ่ายละครที่ทะเลอย่างนี้ตนกับพี่ณเดชน์เลยถือโอกาสเรียนดำน้ำซะเลย ซึ่งสนุกมาก ๆ แถมละครเรื่องนี้ยังทำให้ตนได้ทำอะไรอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น โดดเรือลงทะเล โดดหน้าผา อะไรอย่างนี้ ตอนแรกพี่ ๆ เขาถามตนว่า จะใช้สแตนด์อินหรือไม่ แต่พี่ณเดชน์ชวนให้โดด ตนก็โดด ไม่คิดว่ามันจะสนุกขนาดนี้ ส่วนตัวบทบาทของนางฟ้านั้น ตอนแรกของละครเรื่องนี้ ตนต้องเล่นเป็นเด็ก 8 ขวบ แต่กลายเป็นว่าตนเล่นเป็นเหมือนเด็กปัญญาอ่อนเสียอย่างนั้น ทั้งนี้ตนก็มีครูดีอย่างพี่แอน ทองประสม ที่ในช่วงนั้น พี่แอนเขามาศึกษาดูงานในกองพอดี ตนก็เลยขอคำปรึกษา ขอคำแนะนำ ในการเล่นละครซะเลย



        นอกจากนี้ ญาญ่า ยังกล่าวถึงกิจกรรมยามว่างในกองละคร "เกมร้ายเกมรัก" ว่า พี่ณเดชน์เป็นคนชอบเล่นดนตรี มักจะพาเจ้าเครื่องดนตรีแปลก ๆ มาที่กองตลอด เล่นได้บ้างเล่นไม่ได้บ้าง ถ้าเป็นเจ้าอูคูเลเล่นี่ละก็ พี่ณเดชน์เล่นเก่งมาก ๆ แต่เครื่องดนตรีอื่น ๆ อย่างเช่น แบนโจ และ คอร์เนท ที่หน้าตาคล้าย ๆ ทรัมเป็ตนั้น พี่ณเดชน์เล่นไม่เก่ง แล้วก็เล่นไม่เป็นเพลงด้วย (หัวเราะ) ซึ่งเวลาพี่ณเดชน์ลงรถตู้มา ทุกคนก็จะลุ้นว่า พี่ณเดชน์เอาเครื่องดนตรีอะไรมาบ้าง ถ้าเป็นเจ้าคอร์เนทนี่ละก็... โอ๊ยยย ปวดหูแน่ ๆ

        ส่วนณเดชน์ก็ไม่น้อยหน้า เล่าเรื่องเปิ่น ๆ ของสาวญาญ่า เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยให้ฟังว่า ตนกับพวกพี่ ๆ ชอบแกล้งญาญ่ามาก ๆ โดยเฉพาะมุขไทย ๆ สุภาษิตไทย ๆ ที่ญาญ่ามักไม่เข้าใจเท่าไร แต่พอปล่อยมุขทีไรเขาก็หัวเราะทุกที แล้วก็จะจำไปถามคุณแม่ทีหลัง ทางด้าน ญาญ่า ก็กล่าวเสริมว่า ตอนนั้นเขาเล่นมุขกัน เป็นคำหยาบ แล้วตนไม่เข้าใจความหมาย เลยไปถามพี่ณเดชน์ ... พี่ณเดชน์บอกับตนว่า พูดได้เลยนะ คำนี้เป็นคำดี พูดได้บ่อย ๆ ตนเลยลองไปพูดกับคุณแม่ดู สรุปว่า คำนั้นเป็นคำหยาบเฉยเลย



        มาต่อกันที่คำถามที่เชื่อว่าแฟนละครทุกคนคงคิดเหมือนกันนั้นก็คือว่า เข้าฉากเป็นพระนางด้วยกันมาหลายเรื่องแล้ว อีกทั้งยังเล่นบทกุ๊กกิ๊กสุดหวาน เดี๋ยวกอด เดี๋ยวหอม เดี๋ยวจุ๊บ เดี๋ยวจูบ อย่างนี้ ไม่หวั่นไหวกันนอกจอกันบ้างหรือยังไงกัน!!  แถมยังมีภาพที่พิธีกรเอามาแฉอีก ไม่ว่าจะเป็นภาพหวานในกองที่ณเดชน์ถือของให้ญาญ่าตอนลองชุด หรือว่าภาพถ่ายกุ๊กกิ๊กนอกจอ และยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่ญาญ่าได้เป็นแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตพี่เบิร์ด หนุ่มณเดชน์ก็ไปเกาะติดขอบเวที ทั้ง ๆ ที่คิวงานออกจะแน่นเอียด!! อ้าวว คราวนี้ล่ะหลักฐานมัดตัว ทั้งคู่จะตอบคำถามนี้ว่าอย่างไรกันนะ

      เกี่ยวกับเรื่องนี้ ณเดชน์ก็ปฏิเสธ (แต่แอบเขิน) ว่า คงลุ้นไม่ขึ้น เพราะตนเห็นญาญ่ามาตั้งแต่เด็ก ๆ เล่นละครกันมาก็หลายเรื่อง คงสนิทกันเหมือนพี่น้องมากกว่า ทางสาวญาญ่า ก็ปฏิเสธ (แต่แอบเขิน) เหมือนกันเด๊ะ ๆ ว่า พี่ณเดชน์เป็นพี่ชายที่น่ารัก เราสนิทกันเป็นพี่เป็นน้อง ถ้าถามว่ามีลุ้นไหม คงไม่มีแน่นอน

      ว่าแต่ว่าเรื่องของอนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอนนะจ๊ะ ณเดชน์ - ญาญ่า ถ้ากุ๊กกิ๊กกันเมื่อไร ขยับจากพี่สนิท เป็นคนรู้ใจ ก็อย่าลืมบอกกล่าวกันนะ เอ้า.. ใครที่ชื่นชอบละคร "เกมร้ายเกมรัก" ก็อย่าลืมติดตามชมความน่ารักของทั้งคู่ได้ ทุกวัน ศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3 นะคะ