สายใยความรักความอบอุ่นในครอบครัวเขมะโยธิน

สายใยความรักความอบอุ่นในครอบครัว "เขมะโยธิน" (ภาพยนตร์บันเทิง)

เรื่อง : เสาวรส

          กว่า 12 ปีที่นักแสดงสาวมากฝีมือ อย่าง "กวาง" กมลชนก โกมลฐิติ กับอดีตพระเอกหนุ่ม "น็อต" นุติ เขมะโยธิน ใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันมาบนพื้นฐานของความเรียบง่าย และดำเนินชีวิตไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ แม้หลายคนอาจจะมองว่าเป็นคู่ชีวิตที่ดูจืดชืด แต่สำหรับกวางกับน็อตในความเรียบง่ายมันคือ ความสุขและความอบอุ่นของครอบครัว "เขมะโยธิน" ทั้ง 4 คือ พ่อน็อตกับแม่กวาง พร้อมด้วยลูกชาย-หญิงทั้ง 2 คือ น้องเน็ต ด.ช.เนตต์ และน้องเนย ด.ญ. เนตรทราย

          วันนี้เราจะมาพูดคุยถึงความอบอุ่นและน่ารักของครอบครัวเขมะโยธิน พร้อมด้วยช่วงเวลาแห่งความสุขที่พ่อน็อตกับแม่กวางบอกว่าช่างผ่านไปรวดเร็วจริง ๆ

          กวาง : กวาง รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วมาก นี่เรามีลูกแล้วหรือ คนโตคือน้องเน็ต อายุ 9 ขวบแล้วเหรอ ส่วนคนเล็ก น้องเนย ก็จะ 7 ขวบแล้ว รู้สึกมันเร็วจังเลยเพราะช่วงเวลาที่เราง่วนอยู่กับลูก วุ่นวายอยู่กับการเลี้ยงลูก ทำให้เรารู้สึกผ่านไปเร็วมาก กวางรู้สึกว่าเหมือนกวางเพิ่งแต่งงานไปไม่นาน (หัวเราะ)

 แสดงว่าสามีให้ความใส่ใจในความเป็นชีวิตคู่ได้ดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง  

          กวาง : ก็คล้าย ๆ เดิม จะว่าเหมือนซะทีเดียวก็ไม่เหมือน เพราะมีลูกมาเชื่อม และมีวิถีของการเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไปคือจาก 2 เป็น 4 มีความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น อาจจะเป็นเพราะเรามาคบกันเริ่มจากการเป็นเพื่อนที่ร่วมงานกัน ทำให้วันนี้รู้สึกเหมือนเราเป็นเพื่อนเป็นคู่ชีวิต

          น็อต : ก็คงเหมือน ๆ เดิม ก็ดูแลเขาเหมือนเดิม และที่เรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วเพราะเวลาที่เรามีความสุขเวลามันจะผ่านไปเร็วใช่มั้ย เวลาที่เราไม่มีความสุขทำไมช้าจังเลย คือช่วงที่เรายุ่งกันมาก คือช่วงที่ลูกเกิดใหม่ ๆ ช่วงที่ลูกยังเล็ก ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากเรื่องลูกอย่างเดียว เพิ่งมาเมื่อไม่นานที่เรารู้สึก ลูกเราโตแล้วนะ แล้วเราเพิ่งมาใช้เวลาด้วยกันมากขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ต้องยอมรับว่า ช่วงที่ลูกยังเล็กเราทุ่มเวลาไปที่ลูกหมด

          กวาง : พอลูกคนโตอายุ 2 ขวบกว่าก็ท้องลูกคนที่ 2 มันเป็นช่วงซ้อนกัน พอลูกคนที่ 2 ออกมาแล้วคนโตก็ยังเล็กเป็นช่วงที่เหมือนเวลามันผ่านไปเร็วจริง ๆ พี่น็อต ก็ทำงานหนัก ทำงานนอกบ้านด้วยและต้องกลับมาช่วยดูลูกด้วย กวางก็วุ่นอยู่กับลูก 2 คน จนเวลาหมดไปเร็วมาก

          น็อต : เชื่อมั้ยเราลืมแม้กระทั่งวันครบรอบวันแต่งงาน ลืม 2 ปีติดเลยนะ และลืมทั้งคู่เลย ดีว่าลืมทั้งคู่นะไม่งั้นเป็นเรื่อง คือมันยุ่งจนเราไม่ได้คิดถึงตัวเราทั้งคู่มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง

 ถึงจะทุ่มเทให้ลูกแต่ก็ไม่ละเลยที่จะดูกันและกัน

          กวาง : เมื่อไม่นานมานี้พอลูกเข้าโรงเรียนเข้าที่เข้าทาง เรา 2 คนเริ่มมีเวลาเป็นส่วนตัว ตอนนี้เริ่มมีนัดกินข้าวกลางวันกันแถวที่ทำงานพี่น็อต (หัวเราะ) เพราะลูกไปโรงเรียนเรามีเวลากลางวันไม่กี่ชั่วโมง ส่วนพี่น็อตก็ทำงานประจำและเบรกช่วงเที่ยง เพราะฉะนั้น สิ่งที่กวางทำได้คือไปหาเขาที่ทำงานและทานข้าวด้วยกัน 2 คนมีเวลาคุยกะหนุงกะหนิงกัน 2 คนท่ามกลางสายตาประชาชน (หัวเราะแบบเขิน ๆ )

          แต่ก็เป็นแค่บางวันเท่านั้น ซึ่งเราไม่ได้กินข้าวด้วยกันแบบนี้มานานแล้วนะ พูดแล้วเขิน บางทีเราก็เดินจูงมือกันมีซีนนั้นด้วยนะ คนอื่นอาจจะมองว่ามีลูกแล้วยังมาสวีตกันอีก แต่เราไม่สนใจ หรือเวลาไปเที่ยวทะเลก็จะเอาลูกไปด้วย เราเดินเล่นชายหาดก็เดินจูงมือกอดกันเองบ้าง เหมือนสมัยที่เราอยู่กัน 2 คนแต่เวลาเย็นจะกลับมาทานข้าวด้วยกัน และต้องรีบๆ ทานเพราะต้องพาลูกไปนอน ก่อนหน้านั้นก็สอนการบ้านลูกด้วย

          น็อต : มันจะยุ่งมาก พอลูกเลิกเรียนเสร็จ กวางรับลูกกลับมาก็สอนการบ้านพวกเขา พอทำเสร็จก็กินข้าวแล้วก็เอาลูกเข้านอน

 แต่ก็มีบางครอบครัวที่พอมีลูกแล้วก็ให้ความใส่ใจในชีวิตคู่น้อยลง

          น็อต : ก็เคยได้ยินมาเหมือนกัน แต่สำหรับเราไม่ได้ทำให้ห่างเหินกัน

          กวาง : เพราะเราใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานมากขึ้นเลยรู้ว่า เวลามันพิสูจน์คน ที่พี่น็อตเป็นแบบนี้ซึ่งเขาก็เหนื่อยมากนะ เขามีความอดทนมากนะ เป็นคุณพ่อที่ต้องทำงานนอกบ้านแล้วยังมาช่วยกวางดูแลลูกด้วย กวางคิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดีมาก ไม่ได้ปล่อยหน้าที่ให้ผู้หญิงดูลูกอย่างเดียว ส่วนตัวเขาทำงานนอกบ้าน กลับเข้ามาบ้านแล้วไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น แต่พี่น็อตถ้ากวางสอนการบ้านลูก 2 คน พี่น็อตจะมาเช็กให้ลูกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ก่อนนอนพี่น็อตจะอ่านหนังสือกับลูกชายทั้งที่บางทีพี่น็อตยังไม่ได้อาบน้ำเลย ส่วนกวางจะอ่านหนังสือกับลูกสาว

          น็อต : มันคือความผูกพันของลูก ถ้าเราทำอย่างนั้น คือ ไม่สนใจไม่ดูลูก พอลูกโตไป ความผูกพันกับพ่อจะไม่มี จะน้อยลง แล้วเวลาโตไปเด็กจะนึกย้อนกลับไป พ่อเคยสอนการบ้านหรือเปล่า อย่างเน็ตหลายครั้งเขาจะถามว่า อันนี้แปลว่าอะไร อันนี้ถูกไหม มันคือความผูกพัน บางทีสิ่งเล็ก ๆ น้อยๆ แบบนี้มันค่อย ๆ สร้างความผูกพันจนกระทั่งเขาโต พอเขาโตเขามีอะไรจะพูดกับเรา แต่ถ้าเราไม่ได้ผูกพันกับเขาแต่เด็ก ตอนโตเขาจะไม่ผูกพันกับเรา

          กวาง : กวางคิดว่าความใกล้ชิดที่พยายามจะให้เวลากับลูกทำให้กวางยอมทิ้งงานดี ๆ ที่ตัวเองรัก และอยากจะทำไป เยอะนะทั้งงานและเงิน ทั้งที่เรารู้ว่าทำอันนี้เราจะได้เพิ่มเติมต่อเนื่อง แต่ในที่สุดแล้วเราเลือกลูก เพราะกวางรู้สึกว่า ความผูกพันที่กวางเคยมีกับคุณแม่มาแต่เด็ก มันทำให้เวลามีอะไรกวางจะเล่าให้คุณแม่ฟังเป็นคนแรก จนกระทั่งวันนี้มีลูกเราก็อยากทำอย่างนั้น แล้วเราจะมีความไว้ใจพ่อแม่เพราะเป็นคนใกล้ตัวเราที่สุด กวางอยากให้ลกมีอะไรก็ปรึกษาเราก่อนไปคุยกับคนอื่น

 เห็นว่าชีวิตคู่ของน็อตกับกวางไม่เคยทะเลาะกับเลยหรือ เป็นไปได้อย่างไร
 

          น็อต : ไม่มีนะ ไม่ได้มีอะไรที่แบบรุนแรงมาก ชีวิตคู่ของเราค่อนข้างเป็นชีวิตที่เรียบง่ายไม่หวือหวา ไม่ได้มีอะไรขัดแย้งรุนแรง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเราคบกันมาก่อนแต่งงาน เราเรียนรู้กันมาระยะหนึ่ง แล้วเรามารู้จักกันตอนโต อายุประมาณ 30 แล้วนะ ตอนแต่งงานก็ 30 กว่าแล้วไม่ใช่วัยรุ่นที่มีงอนกัน อย่างกวางไม่มีงอนเพราะรุ่นนี้ไม่มีงอนแล้ว กวางดูเหมือนง้องแง้งแต่ไม่นะ เขาแมนมาก เขาไม่งอนแต่มีอะไรกวางจะพูดเลย หรือเป็นเพราะเราใจเย็นด้วยมั้ง ส่วนกวางค่อนข้างใจร้อนแต่เราใจเย็นยิ่งเดี๋ยวนี้ยิ่งใจเย็นไม่รู้เพราะอะไร

          เหมือนเป็นธรรมชาติมากกว่า ตอนเราคบกันเราก็ไม่สร้างภาพให้อีกฝ่ายเห็น แต่เป็นตัวตนของเราจริงๆ คือชีวิตของคนเราเหมือนธรรมชาตินะ มีบวกก็ต้องมีลบ มีไม่ดีแต่เดี๋ยว มันก็ดีเองมันเป็นความจริงของชีวิต เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องไปทะเลาะเบาะแว้ง อย่าไปฝืนธรรมชาติต้องการให้เป็นแบบนี้นะ แล้วกวางเป็นคนพูดอะไรตรง ๆ แต่คนที่งอนคือไม่พูด เวลาไม่พอใจอะไรจะงอนแต่กวางพูดเลยเขาเป็นคนตรง

          กวาง : กวางดูเหมือนเรียบร้อยเป็นผู้หญิง ภายนอกดูอ่อนหวาน แต่เรานิสัยเหมือนผู้ชายนักเลงหน่อย ถ้าสนิทกันกวางจะแบบผิดอะไรพูดมาเลยกวางรับได้ เราก็เลยไม่มีปัญหาให้โกรธกันรุนแรงมาก ไม่มีอ่ะ แต่ถามว่ามันเรียบจนไม่มีปากเสียงก็ไม่ใช่นะ ก็มีเหมือนกัน บางครั้งที่ไม่เข้าใจอันนี้ก็เสียงดังบ้างก็มี

 ใครเป็นฝ่ายเสียงดัง

          กวาง : กวางเองแหละ (หัวเราะเสียงดังเหมือนเราถามถูกใจ) แต่พี่น็อตก็ดังตอบบ้าง ก็มีเหมือนกันแต่ไม่ได้ดังมาก ถ้าเทียบกับคู่อื่น อาจจะเบากว่าเขาเยอะ กวางว่าต่อให้พี่น็อตเป็นคนใจเย็นแค่ไหน แต่ถ้ากวางไม่มีเหตุผลหาเรื่องตลอดเวลา และขี้งอนทีนี้ไปกันใหญ่เลย อีกคนใจเย็นไม่พูดอะไรเลย อีกคนก็เอาแต่งอนโดยไม่พูดอะไร ก็ไม่ต้องมาพูดอะไรกัน ทีนี้คนเราพอมีอะไรกันแล้วไม่หันหน้ามาหากันสิ่งแทรกจะเยอะขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สามอาจจะเข้ามาแทรกหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ อาจจะเข้ามา หรือระหว่างนั้นอาจจะเกิดอะไรทำให้เกิดรอยร้าวมากขึ้น แต่คู่ของเราไม่เป็นอย่างนั้น มีปัญหาคุยกัน เคลียร์กันให้รู้เรื่อง

          น็อต : ถ้ามองภาพคู่เราเป็นชีวิตที่เรียบง่ายนะถ้าเทียบกับคนอื่น

          กวาง : เชื่อมั้ยเคยมีคนไม่เชื่อนะ และคนชอบถามว่า เราไม่มีปัญหาอะไรกันเลยเหรอ ขนาดแม่กวางยังถามเลยมีทะเลาะกันบ้างมั้ยลูก

          น็อต : ดูเหมือนชีวิตเราเซ็ง ๆ ไม่มีอะไรเลย เขาหาว่าชีวิตเราเหมือนไม่มีอะไรเลยมันเรียบไปไหม 

          กวาง : แต่กวางรู้สึกมันดีนะและอยากจะบอกกับคนที่ไม่เชื่อด้วยว่า วันนี้ 10 กว่าปีที่เราคบกัน ถ้าไปถามคนใกล้ตัวจะตอบได้ดีสุด ว่าคู่ของเราเป็นธรรมชาติมาก เคยเป็นยังไงตั้งแต่แรกวันนี้ก็เป็นอย่างนั้น เพราะเราเปิดเผยตัวจริงตั้งแต่คบกัน แล้วกวางคิดว่าความเรียบง่ายไม่ได้ แปลว่าจืดชืดนะ แต่รู้สึกสนุกดี มันมีความสุข มันอบอุ่นสดชื่น เรามีบ้านของเรา มีครอบครัวที่เรารัก เรามีกัน 4 คน เรามองลูกเราทุกวัน กวางก็จะบอกพี่น็อตว่าลูกเราน่ารักเนอะ คนอื่นฟังอาจจะรู้สึกหมั่นไส้หรือเปล่า แต่พี่น็อตก็บอกลูกน่ารัก

 ถึงชีวิตคู่จะเรียบง่าย แต่ต่างก็คอยเติมความหวานให้แก่กัน

          น็อต : ไม่ได้แบบว่า เลิกงานเสร็จกลับบ้านต่างคนต่างอยู่ แต่จะมีการคุยกัน พอถึงเวลาไปกินข้าวนอกบ้าน มีกิจกรรมของครอบครัว มีอะไรตลอด

          กวาง : บางทีกินข้าว กวางก็แกะปลา แกะกุ้งให้พี่น็อต หรือพี่น็อตก็แกะให้กวางบ้าง เป็นความรู้สึกปกติของเรานะ หรือวันไหนกวางเห็นเขาหน้าบึ้ง ๆ ไม่ค่อยคุย ก็จะถามเขาว่าเป็นอะไร หรือไม่สบายก็จะถามไถ่เป็นห่วงเป็นใยกัน คือเพราะเรามีครอบครัวที่อบอุ่นมาก่อน พ่อแม่รักกันมาก พี่น้องรักกันมาก ก็เลยเป็นความใฝ่ฝันของกวางว่า ถ้าได้แต่งงานกับใครสักคนก็อยากมีครอบครัวที่อบอุ่นแบบที่กวางมีมา แต่ไม่รู้ฝันจะเป็นจริงมั้ย แต่วันนี้กวางรู้สึกว่าฝันของกวางเป็นจริงแล้ว กวางก็อยากจะรักษาสภาพความรักความอบอุ่นแบบนี้ คนเราต้องอยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อนไปจนแก่ตาย ความรักความเข้าใจเป็นสิ่งที่เรา 2 คนจะรู้ดีที่สุดว่า เรา 2 คนเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า

          ทุกวันนี้กวางรู้สึกดีที่ตอนเช้าก่อนพี่น็อตไปทำงานก็หันมาหอมแก้ม หรือก่อนนอนเรามากู๊ดไนต์กันโดยที่เราไม่เคยมาบังคับกันว่า ทุกวันพี่น็อตต้องทำอย่างนี้นะ กวางต้องทำอย่างนี้นะ เราไม่เคยพูดกันเลยนะคะ แต่มันเป็นไปเองโดยอัตโนมัติว่าอยากทำ หรือบางทีกวางนึกอะไรขึ้นมา ไม่รู้ก็ไปกอดเขาหอมแก้มเขา คือกวางเป็นคนขี้เล่น บางทีเดิน ๆ อยู่กวางก็ชอบแหย่พี่น็อตว่าไม่เดินจูงมือกันเลยนะ เขาก็ดึงเรามาเล่นด้วย เราแหย่เล่นกันเหมือนสมัยเรารักกันใหม่ ๆ ลูกก็มองใหญ่เลย แต่ลูกไม่ให้เราเดินจูงมือกันหรือพอเราหอมกันบนที่นอน เอาแล้ว จะวิ่งมาหอมพ่อหอมแม่ เขาจะเห็นว่าเราหอมกันบ่อย ๆ

          น็อต : พอเขาเห็นเขาก็ขอมีส่วนร่วมด้วย คือทุกอย่างต้องทำ 4 คนไม่ใช่ทำ 2 คน

          กวาง : แม้แต่นอนก็นอนเรียงกัน 4 คนนะ เขาขอมีส่วนร่วมด้วย และลูกจะเห็นพ่อแม่รักกันมาแต่แรก แล้วลูกไม่เคยเห็นเราทะเลาะกัน เราเคยเถียงกันแต่ไม่ได้อยู่ต่อหน้าลูก ทั้งที่เราไม่เคยตกลงกันเลย แต่กวางคิดแบบนั้นพี่น็อตก็คิดแบบนั้น มันเป็นความลงตัวที่เราคิดเหมือนกันมากกว่า 

 การที่น้องเน็ตกับน้องเนยเห็นพ่อ-แม่แสดงความรักกันบ่อย ๆ ทำให้เขาทำตาม

          กวาง : ทุกวันนี้เน็ตชอบกอดน้อง หอมน้องตลอด จนเป็นที่ร่ำลือในโรงเรียนว่าพี่น้องคู่นี้รักกันมาก เพราะพ่อแม่ทำอะไรกับเขา เขาก็เอาไปทำกับน้องหมด เพราะเราหอมเขาตลอด เหมือนเป็นการแสดงความรัก เขาเลยรู้สึกเหมือนน้องเป็นตุ๊กตา อย่างตอนี้ก็ชอบไปหอมน้องแรง ๆ ถ้าน้องอารมณ์ไม่ดีก็จะผลักหน้าหรือถีบออกมาบ้างเหมือนเขารำคาญหรือบางทีเนยไปหอมเน็ตก็มี ลูก 2 คนคนละแบบกันเลย ผู้หญิงออกแนวลุย ๆ ส่วนผู้ชายออกแนวซอฟต์ ๆ 

          น็อต : คู่นี้ตีกันตลอด พอน้องถีบออกมาแต่เน็ตก็แอบทำกลับ เล่นไปเล่นมากลายเป็นทะเลาะกันก็มี

          กวาง : เน็ตจะอ้อนแม่มาก จะมาหอมแม่หรือบอกให้แม่มานอนสิ มานอนอยู่ข้าง ๆ ถึงจะหลับได้ เนยก็เป็นเหมือนกันแต่ไม่เท่าเน็ต เนื่องจากเขาเป็นลูกคนโตเลยได้จากเราไปเต็ม ๆ คนเดียว แต่เนยเหมือนถูกแชร์และเรามีประสบการณ์มาแล้วจากเน็ต เราควรฝึกให้เนยช่วยเหลือตัวเองได้เก่งกว่าเน็ต อันไหนบกพร่องเราก็มาแก้ลูกคนที่ 2 ทำให้เนยช่วยเหลือตัวเองได้เร็วขึ้น มีความเป็นตัวเองสูง

          น็อต : แต่เน็ตก็ไม่ถึงกับช่วยตัวเองไม่ได้นะ แต่เน็ตจะเป็นลูกแหง่เวลาอยู่กับพ่อแม่ทำอะไรไม่ได้ ไม่กล้าไปห้องน้ำต้องไปเป็นเพื่อน แต่เวลาอยู่โรงเรียนก็เห็นไปคนเดียวได้ เวลาไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ก็ทำได้ทุกอย่าง และเขายังดูแลน้องได้ดีมากด้วย

 ดูเหมือนลูก 2 คนจะผิดเพศกันไหม เน็ตเป็นผู้ชายแต่เรียบร้อยผิดกับเนยที่ดูทโมนโลดโผนเกินหญิง

          น็อต : ก็ดีแล้ว เป็นเพราะเขามีพี่ชายด้วย แต่เวลาเล่น 2 คนเขาก็ซนกันทั้งคู่

          กวาง : โดยธรรมชาติของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน เนยเกิดมา พอโตมาเห็นแววเลยว่าชอบปีนป่าย ชอบโลดโผน ชอบมีความคิดนอกกรอบหน่อยคือความคิดสร้างสรรค์ เช่น อยู่ดี ๆ ใส่รองเท้าคนละสีเหมือนเด็กแนวติสต์ ๆ นิดนึง เนยชอบโลดโผนจนเราต้องพาไปเรียนยิมนาสติก ส่งเสริมในสิ่งที่ลูกชอบไปเลย ซึ่งเขามีพัฒนาการตรงนั้นได้เร็วมาก ส่วนเปียโนให้เรียนทั้งคู่เพราะมีแววชอบดนตรีทั้งคู่ แต่เน็ตจะเห็นชัดเลยว่าไปได้ดีและชอบมาก เขาคงได้เชื้อพ่อมาเยอะและบุคลิกก็เหมือนพ่อคือนิ่ง ๆ

          น็อต : แต่เนยชอบการแสดง เวลามีการแสดงหรือคอนเสิร์ต มีแสงสี เขาจะชอบดูและเคยแสดงที่โรงเรียนด้วย ก็เหมือนแม่เขาที่ชอบการแสดง

          กวาง : พอมาวันนี้เราเห็นแล้วล่ะว่าลูกได้กวางไปเยอะคงได้ยีนไป เพราะตอนเด็กกวางซน และเราก็เป็นคนที่ลุยนะ ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น งูหรือสัตว์อะไรจับได้หมด เพราะฉะนั้น น้องเนยเอากวางไปเลย เพียงแต่ว่า พ.ศ.นี้เขาควรมีความคิดนอกกรอบได้ สำหรับความคิดของพี่น็อตกับกวาง เด็กผู้หญิงสมัยนี้ต้องเก่งพอตัว ต้องดูแลตัวเองได้ ก็ดีแล้วให้เนยเป็นแบบนี้ แต่กวางจะควบคุมเนยให้อยู่ในกรอบที่ควรจะเป็น ให้เขาเป็นเด็กน่ารัก ไปอยู่กับใครก็เป็นที่รักเป็นที่เมตตาของคนอื่น และให้มีความกตัญญู กวางจะไม่สอนให้ลูกแก่แดด คือ การเป็นผู้ใหญ่เร็วก็ดีอย่างตรงที่ความรับผิดชอบ การเผชิญโลกสามารถทำได้ในอายุที่ยังน้อย แต่ในขณะเดียวกัน วุฒิภาวะความที่อายุน้อยอาจจะทำให้ถ้ามีสิ่งไม่ดีเข้ามาเขาอาจจะไม่รู้ อาจจะรับสิ่งที่ไม่เหมาะสมมาได้เหมือนกัน มันก็เหมือนเป็นดาบสองคม เพราะฉะนั้น ทำไงให้ลูกเรามีภูมิคุ้มกันที่แก่กล้า รับเข้ามาแล้วรู้ แยกได้ว่าอันไหนดีอันไหนไม่ดี ก็เริ่มจากปูพื้นฐานตรงนี้

          สำหรับกวางยังไม่ซื้อคอมพิวเตอร์ให้ลูกเล่นเป็นของตัวเอง หรือมีโทรศัพท์มือถือให้ลูกใช้ ยังไม่มีเป็นนโยบายของครอบครัว เพราะของแบบนี้ถึงเวลามีเองรู้เอง เดี๋ยวโรงเรียนก็สอน กวางจะไม่เร่งรัดให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเร็วเกินไป แต่ให้ลูกรับผิดชอบตัวเองได้สมวัยของเขา ให้มีระเบียบวินัย มีมารยาท มีสัมมาคารวะ และต้องมีความเป็นไทย ลูกกวางเรียนโรงเรียนอินเตอร์นะตอนนี้ เพราะอยากให้ได้เรื่องภาษาแต่ว่าลูกต้องมีความเป็นไทย เพราะเราเกิดมาเป็นคนไทย

          น็อต : เรื่องการศึกษา เราจะให้เขาเต็มที่ที่สุดและดีที่สุด แต่ไม่บังคับนะ ให้เขาเลือกเอง ชอบอะไรก็จะส่งเสริมเขา

 ตอนนี้ลูกโตแล้ว กวางอยากจะกลับมารับละครอีกไหม  

          กวาง : ไปไหนก็มีคนถามตลอด ซึ่งเรารู้สึกภูมิใจลึก ๆ ว่า มีคนคิดถึงเราขนาดนี้เลยหรือ และเมื่อไหร่เราลุกมาเล่นละครทุกเรื่องรู้สึกโดนใจคนดู ถูกเสนอให้เข้าชิงรางวัล คือความภูมิใจลึก ๆ แต่ทำไงเราจะจัดเวลาให้ลงตัว เล่นละครและดูแลลูกไปด้วย แต่บางทีทำไม่ได้ อย่างวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ กวางเล่นละครได้เพราะพี่น็อตหยุด สามารถดูแลลูกได้ แต่ขอให้เป็นบทที่ดีหน่อยนะ เพราะนาน ๆ เล่นทีควรมีอะไรให้เล่น ให้รู้สึกคุ้มกับที่เรากลับมาเล่น แต่มันก็ไม่ลงตัว บางทีคิวได้แต่บทไม่ถูกใจ หรือบทถูกใจแต่คิวไม่ได้ หรือถ้าเป็นละครที่ถ่ายไปออกอากาศไปกวางเล่นไม่ได้จริง ๆ

 ล่าสุด เห็นว่ากวางเพิ่งได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมาก คือ สตรีทำงานดีเด่นแห่งชาติ สาขาศิลปิน จากกระทรวงแรงงาน 

          กวาง : เพิ่งได้รับรางวัลนี้เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสตรีสากล โดยเขาคัดจากประวัติการทำงานของเราหลายอย่างจากที่ผ่านมาทั้งหมดจนถึงปัจจุบันว่าเราโดดเด่นด้านการทำงาน ด้านการแสดง การประสบความสำเร็จทางอาชีพ การทำอะไรให้สังคม คือกวางไม่ได้ทำงานการแสดงอย่างเดียวแต่เราช่วยงานสังคมต่าง ๆ ถือว่าเป็นรางวัลที่มีเกียรติและมีค่ามากกับผู้หญิงเหมือนชูให้เราเป็นสตรีทำงานดีเด่นก็ภูมิใจ และช่วงนี้เราไม่ได้มีผลงานออกอากาศก็ยิ่งภูมิใจลึก ๆ ว่าเราไม่ได้รางวัลเพราะกระแสแต่ได้ เพราะผลงานจริง ๆ ที่เราสะสมมาเป็นสิบ ๆ ปี รู้สึกมีคนมองเห็นก็ดีใจและภูมิใจ

          น็อต : รู้สึกภูมิใจกับเขา เพราะอย่างที่บอกว่าเขาไม่ใช่ได้รางวัลนี้มาเพราะกระแส แต่ได้เพราะผลงานจริง ๆ แล้วได้เป็นสตรีดีเด่นก็ภูมิใจกับเขามาก

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 

ปีที่ 38 วันที่ 18 เมษายน-1 พฤษภาคม 2555 Vol.1826