เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Magazinedee.com, FAST ENTERTAINMENT, VOLUME, IN SPECIAL, สุขกายสบายใจ, LIPS และ Instagram aum_patchrapa
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Magazinedee.com, FAST ENTERTAINMENT, VOLUME, IN SPECIAL, สุขกายสบายใจ, LIPS และ Instagram aum_patchrapa
หากจะพูดถึงดาราสาวอันดับ 1 ในยุคนี้แล้ว หลาย ๆ คนคงนึกถึงชื่อของ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ นางเอกสาวสวย ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เธอก็สวยไม่เคยสร่าง แถมยังเพิ่มดีกรีความฮอตมากขึ้นทุกปีด้วย จากอดีตมิสแฮคส์ ปี 1997 มาวันนี้ อั้ม ได้ขึ้นแท่นเป็นดารานักแสดงเบอร์ 1 ของวงการบันเทิงไทย ที่มีงานวิ่งเข้ามาไม่หยุด ทั้งงานละคร ภาพยนตร์ อีเวนท์ โฆษณา ก็ล้วนแล้วแต่อยากจะได้เธอไปร่วมงานด้วยทั้งนั้น ...ในเมื่อฮอตซะขนาดนี้ กระปุกดอทคอม จะขอพาไปล้วงลึกทุกเรื่องราวชีวิตของ "เซ็กซี่ตัวแม่" กัน ณ บัดนาว...
อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ เกิดเมื่อวันอังคารที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2521 ที่โรงพยาบาลเพชรเวช กรุงเทพมหานคร เป็นลูกสาวคนเดียว ไม่มีพี่น้อง เข้าเรียนชั้นอนุบาลที่โรงเรียนอนุบาลธนินทร จากนั้นก็ย้ายมาเรียนประถมที่โรงเรียนสตรีวรนาถ บางเขน แล้วจึงย้ายไปเรียนชั้นมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนดัดดรุณี จ.ฉะเชิงเทรา แล้วย้ายกลับมาเรียนที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง ในระดับอุดมศึกษา ที่คณะนิเทศศาสตร์ เอกการประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยรังสิต
เส้นทางในวงการบันเทิงของ อั้ม พัชราภา เริ่มต้นด้วยการประกวด มิส แฮคส์ เมื่อปี 2540 และสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองได้สำเร็จ และด้วยความสูงกว่า 168 เซนติเมตร น้ำหนักเพียง 48 กิโลกรัม รวมทั้งผิวเนียน ๆ ตาโต ๆ และใบหน้างดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอก็นำพาให้มีผลงานชิ้นแรกเป็นมิวสิควิดีโอของ ต้น อาภากร ที่มีชื่อว่า "ไม่ใช่คนในฝัน" จากนั้นความสามารถทางด้านการแสดงของเธอก็ถูกจับตามองกับผลงานละครเรื่องแรก คือ มณีเนื้อแท้ ซึ่งดัดแปลงมาจากบทประพันธ์ของ โสภี พรรณราย โดยประกบคู่กับ หนุ่ม-คงกระพัน แสงสุริยะ และเรื่องนี้นี่เอง ที่เริ่มฉายแววความดังของ อั้ม พัชราภา
หลังจากนั้น อั้ม ก็มีผลงานละครอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2541 เธอมีละครถึง 3 เรื่องคือ อีสา-รวีช่วงโชติ, ชวนฝันพนันรัก และคู่เขยคู่ขวัญ ก่อนตอกย้ำความแรงของดาวรุ่งดวงใหม่ด้วยละคร 4 เรื่องรวดในปี 2542 ได้แก่ ลูกหว้า, รักสองภพ, พลับพลึงสีชมพู และแม่นาค ต่อมาในปี 2543 เจ้าแม้นเมือง ในละคร รากนครา ซึ่งรับบทโดย อั้ม พัชราภา ก็ส่งให้เธอโด่งดังมากขึ้นไปอีก
แต่ทว่า บทบาทที่ทำให้คนดูจดจำเธอได้มากกว่าบทไหน ๆ ก็เห็นจะเป็นบทร้ายในละคร คมพยาบาท ที่ประชันบทบาทกับ ยุ้ย จีรนันท์ มะโนแจ่ม ต้องบอกว่า กระแสของละครเรื่องนี้แรงสุด ๆ ฉุดให้อั้มโด่งดังขึ้นมาอีกระดับ และเธอก็เริ่มถูกมองว่าเป็นลูกรักแห่งวิกหมอชิต พิสูจน์ได้จากงานละครที่ถูกป้อนให้เล่นชนิดไม่ขาดสาย ประกบคู่กับพระเอกระดับแถวหน้ามาแล้วนับไม่ถ้วน
ทั้งนี้ ในปี 2546 อั้ม พัชราภา ได้ร่วมงานกับค่ายเป่า จิน จง เป็นครั้งแรก เรื่องนี้เธอรับบทเป็น ปราลี สาวเซ็กซี่ ที่เคมีเข้ากันสุด ๆ กับพระเอกของเรื่องอย่าง ออย ธนา สุทธิกมล ซึ่งทั้งคู่ทำเอาแฟน ๆ ละครอินกันสุด ๆ เลยล่ะ ก่อนจะได้ร่วมงานกันอีกครั้งกับค่ายเดิมในเรื่อง เพลิงพายุ
และอีกเรื่องที่ไม่พูดถึงเดี๋ยวแฟนคลับอาจจะเคือง เมื่อสาวอั้ม แปลงร่างเป็นสาวโก๊ะ ในละครเรื่อง นางสาวจริงใจกับนายแสนดี ประกบคู่กับพระเอกสุดหล่อตลอดกาล ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี ของค่ายโพลีพลัส ทำเอาเรตติ้งกระฉูด ๆ จนโพลีพลัสติดใจ จีบสาวอั้มมาลงจอกับบท เเจ๋ว ในละคร เเจ๋วใจร้ายกับคุณชายเทวดา ที่งานนี้ อั้ม รับบทเป็นเจ๊ดัน ส่งให้ เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ แจ้งเกิดในด้านละครด้วย
เรียกได้ว่าลองเล่นมาหลายบทบาท ทั้งน่ารักกุ๊กกิ๊ก สาวห้าว โก๊ะ แก่นเซี้ยว เรียบร้อย ร้ายลึก บู๊แอคชั่น แต่ดูเหมือนว่าแฟน ๆ ละครจะติดภาพ อั้ม พัชราภา ในแบบฉบับนางเอกสู้คน ยิ่งหากเรื่องไหนรับบทร้ายด้วยแล้ว รับรองดังเป็นพลุแตก โดยเฉพาะกับเรื่อง เมียหลวง ที่ต้องเชือดเฉือนอารมณ์กับ ป๊อก ปิยะธิดา วรมุสิก ในบทของ อรอินทร์ เมียน้อยสุดเซ็กซี่ ซึ่งแม้ว่าเรื่องนี้จะถูกติงจากกระทรวงวัฒนธรรม แต่ดูเหมือนว่า ยิ่งเป็นข่าวก็ยิ่งดังไปกันใหญ่
หันมาดูผลงานภาพยนตร์กันบ้าง ตลอดชีวิตการแสดง อั้ม พัชราภา รับเล่นภาพยนตร์เพียง 4 เรื่องเท่านั้น คือเรื่อง เฟค โกหกทั้งเพ, ผีเลี้ยงลูกคน, สาระเเนเห็นผี และล่าสุดเมื่อปลายปี 2554 กับหนังรัก "30 กำลังเเจ๋ว" ที่ส่งให้พระเอก เคน-ภูภูมิ ดังเป็นพลุแตกภายในพริบตา ด้านงานพิธีกรนั้น อั้ม ทำอยู่รายการเดียวแต่เหนียวแน่น คือ "จ้อจี้" ตั้งแต่ ปี 2546
ส่วนงานอื่น ๆ ก็วิ่งเข้าชนกันจนรับทรัพย์ไม่หวาดไม่ไหว โดยเฉพาะงานโฆษณา อั้ม พัชราภา เป็นอีกคนหนึ่ง ที่ถูกเรียกว่า "เจ้าแม่โฆษณา" เพราะเธอมีโฆษณาหลายต่อหลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ครีมอาบน้ำ โรลออน เครื่องปรับอากาศ ยาสระผม ครีมกันแดด ฯลฯ นี่ยังไม่นับรวมงานอีเวนท์ ที่รุมจีบให้สาวอั้มไปร่วมงานอีกมากมาย ไหนจะนิตยสารที่เรียงคิวแชะภาพนางเอกเซ็กซี่คนนี้อีกนับไม่ถ้วน ...นึกเล่น ๆ แค่เอาปกนิตยสารที่อั้มขึ้นปกมาวางกองรวมกัน คงตั้งได้เต็มชั้นหนังสือกันเลยล่ะ
ด้วยผลงานมากมายในวงการมายา ทำให้เธอคนนี้ได้รับรางวัลที่การันตีความสามารถและความโด่งดังมากมาย โดยเฉพาะหากที่ไหนมีงานประกาศรางวัลในเรื่องความเซ็กซี่ ที่นั่นก็ต้องมี อั้ม พัชราภา อย่างไม่ต้องสงสัย เริ่มต้นด้วยรางวัลความเซ็กซี่ "ดูเร็กซ์ โกบอล เซ็กส์" ในฐานะสาวเซ็กซี่แห่งปี ตั้งแต่ปี 2545-2548, รางวัลสาวเซ็กซี่แห่งปี จากนิตยสาร FHM ตั้งแต่ปี 2546-2548 จนกระทั่งปี 2549 ที่ทางนิตยสาร FHM มอบรางวัล ดาราสาวเซ็กซี่ตลอดกาล ให้อั้มเอาไปครอบครอง ฯลฯ ส่วนรางวัลด้านการแสดง อาทิ รางวัล TOP AWARDS ในฐานะนักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม จากละครเรื่อง เพลิงพายุ, รางวัลนักแสดงหญิงยอดนิยม จากละครเรื่อง เมียหลวง และละครเรื่อง แจ๋วใจร้ายกับคุณชายเทวดา ในงานคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 7 และรางวัลดารานำหญิงมณีเมขลามหานิยมแห่งปี จากการประกาศรางวัลเมขลามหานิยมแห่งปี ครั้งที่ 24 จากละครเรื่อง คู่แค้นแสนรัก
ด้านชีวิตส่วนตัวนั้น อั้ม เคยมีข่าวคบหาอยู่กับ ต้าร์ วงบาร์บี้ จากนั้นก็เป็นข่าวกับ ต๊อด - ศิณะ อุ่นทรพันธ์ ไฮโซรุ่นน้องชื่อดัง ที่อั้มยอมรับว่าคบหาดูใจกันจริง ๆ และคบกันนานถึง 6 ปี ก่อนที่เส้นทางความรักครั้งนี้ของเธอจะจบลงแบบไม่สวยเท่าไหร่ หลังจากนั้น อั้ม ก็มีข่าวกับหนุ่ม ๆ รุ่นน้องมากหน้าหลายตา จึงไม่แปลกเลยที่สาวสวยคนนี้จะได้ฉายา "เจ้าแม่เนอสเซอรี่" แต่ทว่าก็ยังไม่มีใครเป็นตัวจริง กระทั่งได้พบกับ โน้ต-วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์ ไฮโซชื่อดัง โดยทั้งคู่ ใช้เวลาคบหาดูใจกันมานานกว่า 3 ปี ก็มีอันต้องเลิกรากันอีกครั้ง ส่วนตอนนี้มีกระแสข่าวเม้าท์กันว่า อั้ม กิ๊กอยู่กับ ดีเจกฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์ ส่วนบางกระแสก็ว่าซุ่มคบกับ กึ้ง เฉลิมชัย แต่สาวเจ้าก็ออกมาปฏิเสธเป็นพัลวัน ว่าเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นจ้า
โน้ต - อั้ม
ท่ามกลางการจับตามอง หนุ่มคนใหม่ของ อั้ม พัชราภา ว่าจะเป็นใคร จู่ ๆ ก็มีภาพในอินสตาแกรม ปรากฎว่า อั้ม นั่งโพสท่าถ่ายรูปกับอดีตคนเคยเลิฟแบบสนิทสุด ๆ งานนี้เลยตกเป็นข่าวรีเทิร์นรักกับ โน้ต วิเศษ เข้าให้ ซึ่งสาวอั้ม ก็ยืนกรานเสียงแข็งว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะเธอน่ะมีคนคุยแล้วน่ะสิ แต่จะเป็นใครนั้น ก็ยังไม่มีใครที่รู้คำตอบแน่ชัด ...ก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไปนะจ๊ะ
อ่านประวัติสาวฮอตนัมเบอร์วันมาถึงบรรทัดนี้แล้ว บอกได้เลยว่า อั้ม-พัชราภา สมควรกับฉายา นางเอกเบอร์ 1 ของวงการ จริง ๆ
