วิธีดูกระเป๋าแบรนด์เนม เช็กให้ชัวร์แท้ไม่แท้ มั่นใจไม่โดนของก๊อปเกรดมิเรอร์

          วิธีดูกระเป๋าแบรนด์เนม มาเช็กกันว่ากระเป๋าแบรนด์แท้ดูยังไง ใบไหนเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมแท้ ใบไหนเป็นกระเป๋าปลอม เพื่อไม่ให้โดนหลอกได้ง่าย ๆ ต้องรู้ !


1. สัมผัสวัสดุที่ใช้

          กระเป๋าของแต่ละแบรนด์ทำมาจากวัสดุที่แตกต่างกันไป บางรุ่นใช้หนังแท้ บางรุ่นก็เป็นหนังเทียม หรือบางแบรนด์ก็นิยมใช้ผ้าแคนวาส หากเป็นกระเป๋าหนังแท้จะมีสัมผัสที่นุ่ม แห้ง ไม่ลื่นมัน มีกลิ่นหอมเฉพาะของหนังแท้ แต่ถ้าเป็นหนังเทียมหรือผ้าก็ต้องตรวจดูอีกทีว่ารุ่นที่เราอยากได้ใช้วัสดุนั้นในการทำจริงไหม

2. ดูจากฝีเข็มในการเย็บ

          แน่นอนว่ากระเป๋าแบรนด์แท้จะมีฝีเข็มที่ประณีต บางแบรนด์จะมีวิธีการลงฝีเข็มแบบเฉพาะ เช่น Hermes จะมีวิธีการลงฝีเข็มแบบ "Piqures Sellier" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ หรือกระเป๋า Chanel จะมีฝีเข็มทั้งหมด 10 ฝีเข็ม ต่อการเย็บ 1 นิ้ว ซึ่งถ้าเป็นกระเป๋าปลอมจะมีการทำที่รีบเร่ง อาจจะเย็บแค่ 8-9 ฝีเข็ม และอาจจะเย็บไม่เรียบร้อย มีความเบี้ยว ฝีเข็มไม่สม่ำเสมอ ถ้าสังเกตเห็นความไม่เนี้ยบเมื่อไหร่ ตั้งธงไว้ก่อนได้เลยว่าของปลอม

3. ดูโลโก้ให้เป๊ะ

          โลโก้เป็นตัวบ่งบอกแบรนด์ การดูโลโก้นั้นต้องดูว่าสะกดถูกต้องไหม ขนาดตรงกับความเป็นจริงหรือเปล่า ใหญ่หรือเล็กไปไหม ลองตรวจดูตามวัสดุตกแต่งกระเป๋า เช่น หัวซิป, หมุดยึด, ห่วง, ตะขอเกี่ยว เป็นต้น ว่าแต่ละจุดมีการปั๊มหรือพิมพ์ชื่อบนนั้นไหม บางรุ่นอาจจะปั๊มแค่ตรงหัวซิป บางรุ่นก็ปั๊มชื่อของแบรนด์ลงไปทุกจุด แล้วโลโก้แต่ละจุดมีความคมชัดหรือไม่ เพราะจะมีการพิมพ์โลโก้และชื่อแบรนด์ด้านในกระเป๋าด้วย ถ้าตัวอักษรเลือนราง ไม่คมชัด หรือช่องไฟไม่เท่ากัน ก็ฟันธงได้เลยว่าของก๊อป

4. เช็ก Serial Number หรือ Date Code ให้ดี ๆ

          ส่วนมากแล้วกระเป๋าแบรนด์เนมจะมีเลขเหล่านี้ปั๊มไว้ด้านใน โดยมีตัวอักษรระบุประเทศที่ทำกระเป๋า และปีที่ผลิต โดยแต่ละแบรนด์จะมีวิธีการอ่านที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าใส่ตัวเลขมั่ว ๆ มาจะไม่สามารถนำเลขไปเช็กได้ ที่สำคัญเราต้องรู้ที่มาของแบรนด์ด้วยนะว่าผลิตที่ประเทศอะไร เพราะถ้าผลิตในประเทศที่ไม่ใช่ประเทศในการผลิตหลักของแบรนด์นั้น ๆ ก็ไม่ใช่ของแท้แล้วล่ะ

5. ตรวจด้านในกระเป๋าให้ถี่ถ้วน

          กระเป๋าบางใบภายนอกอาจจะทำออกมาเนี้ยบ เป๊ะ ดูแทบไม่ออก แต่ด้านในอาจจะไม่ใส่ใจรายละเอียดขนาดนั้น ดังนั้นต้องดูวัสดุที่บุด้านในกระเป๋า ป้ายด้านในกระเป๋า ว่าพิมพ์ชัดเจนหรือไม่ หรือหากเป็นการปั๊มนูน ตัวอักษรมีน้ำหนักเท่ากันหมดหรือเปล่า การวางเรียงตัวอักษรมีความเป็นเส้นตรงสม่ำเสมอกันไหม รวมถึงการเย็บด้านในกระเป๋าว่าฝีเย็บเรียบร้อยหรือไม่

6. อุปกรณ์ต้องครบ

          แน่นอนว่าหากเราซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมาแล้วคงไม่ได้แค่กระเป๋าอย่างเดียว แต่รวมไปถึงอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น กล่อง, ถุงผ้า, การ์ด, ใบเสร็จ เป็นต้น ซึ่งอุปกรณ์พวกนี้ก็สำคัญ ซึ่งจะช่วยบอกได้ว่ากระเป๋าของคุณนั้นแท้หรือไม่แท้ หากซื้อต่อมาแล้วไม่มีกล่อง ถุงผ้า หรือการ์ดการันตี แสดงว่าผู้ขายอาจจะไม่บริสุทธิ์ใจต่อคุณก็ได้

7. อุปกรณ์ครบแล้วก็ต้องเนี้ยบด้วย

8. เฉดสีไม่ผิดเพี้ยน

          แม้ว่ากระเป๋าของแท้และกระเป๋าของปลอมจะมีสีที่เหมือนกัน แต่เฉดหรือความเข้มอ่อนเป็นสิ่งที่เลียนแบบได้ยากมาก หากเอามาวางไว้ข้าง ๆ กันก็จะยิ่งสังเกตเห็นได้ชัด ดังนั้นแล้วถ้าสาว ๆ อยากได้กระเป๋าแบรนด์เนมแท้มาครอบครอง ควรตรวจเฉดสีให้ดีว่าตรงกับเฉดสีจริง ๆ ที่ทางแบรนด์วางขายไหม

9. ต้องไม่มีรอยขีดข่วน

          หากคิดจะซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมมือหนึ่ง แต่ซื้อจากอินเทอร์เน็ต ไม่ได้เข้าช็อปเอง ต้องใส่ใจรายละเอียดตรงนี้ให้มาก ๆ นะคะ เพราะกระเป๋าที่ออกจากช็อปมา หรือเป็นมือหนึ่งจริง ๆ พนักงานของร้านจะระมัดระวังในการห่อหรือหยิบจับมาก ๆ รวมถึงวัสดุของแท้จะมีความทนทาน เกิดรอยขีดข่วนได้ยาก เพราะเป็นของไฮเอนด์ มีคุณภาพที่เหนือกว่า ดังนั้นถ้ากระเป๋าที่เราเพิ่งได้มาแล้วคนขายเคลมว่าใหม่แกะกล่อง แต่กลับมีรอยบนกระเป๋า ส่งคืนได้เลยค่ะ ของปลอมแน่ ๆ

10. ช่องกระเป๋าแบบมีซิปและไม่มีซิป

          ช่องกระเป๋าเล็ก ๆ สำหรับใส่บัตรหรือแผ่นกระดาษที่อยู่ด้านในของกระเป๋า บางรุ่นก็ทำเป็นช่องโดยไม่มีซิปเพื่อเปิด-ปิด แต่บางรุ่นก็ทำซิปมาให้ด้วย หากสาว ๆ มองข้ามจุดนี้ไปอาจจะได้กระเป๋าของปลอมมาครอบครองแทนได้

11. ตรวจดูสายกระเป๋า

          กระเป๋าของปลอมมักจะมองข้ามและไม่ใส่ใจในรายละเอียดยิบย่อยอย่างสายกระเป๋าสักเท่าไร แต่กระเป๋าแบรนด์เนมแท้จะใส่ใจในส่วนนี้มาก จนเราแทบจะแยกความแตกต่างระหว่างของแท้กับของปลอมจากจุดเล็ก ๆ จุดนี้ได้เลย หากเป็นสายโซ่ก็ต้องดูตรงจุดเชื่อมให้ดีว่าเหมือนรุ่นที่มีขายจริงไหม ถ้าเป็นสายหนังก็ดูด้วยว่าสายนั้นมีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไปหรือเปล่า รวมถึงความยาวที่อาจจะต่างกัน หากเป็นสายหนังหรือสายผ้าก็ควรตรวจดูฝีเย็บด้วยว่าเนี้ยบหรือเปล่า

12. ให้ราคาเป็นตัวกำหนด

          จำไว้เลยค่ะว่ากระเป๋าแบรนด์เนมไม่มีวันลดราคา โดยเฉพาะหากเป็นรุ่นที่เป็นที่นิยมตลอดกาลก็มีแต่จะราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าเป็นกระเป๋ามือสองก็จะมีเรตราคาตามท้องตลาดที่เป็นมาตรฐานอยู่ หากขายถูกกว่ามากเกินไปก็สงสัยไว้ก่อนได้เลยว่าอาจจะไม่ใช่ของแท้

          ทั้ง 12 วิธีที่แนะนำไปเป็นเพียงการดูพื้นฐานเท่านั้นนะคะ หากยังไม่มั่นใจสามารถศึกษาหาข้อมูลวิธีการดูของแต่ละแบรนด์เจาะจงได้เลย หรือถ้าไม่ชัวร์อีกก็เดินเข้าช็อปแล้วให้พนักงานดูให้ก็ได้ แบบนั้นจะสามารถฟันธงได้เลยว่ากระเป๋าที่คุณถือน่ะของแท้หรือของปลอม

ขอบคุณข้อมูลจาก : luxury-shops.com, handbag.yournextshoes.com, handbags.lovetoknow.com