“ไคลแม็กซ์” ต้นเหตุปัญหาหย่าร้าง

“ไคลแม็กซ์” ต้นเหตุปัญหาหย่าร้างของผู้หญิงยุคใหม่ ที่ผู้ชายต้องใส่ใจ (Lisa)


          เรื่องบนเตียงระหว่างหญิงชายก่อให้เกิดความสุขได้มากพอๆ กับความทุกข์ แต่ปัญหาไม่ถึงจุดสุดยอดหรือไคลแม็กซ์ ก็เป็นต้นเหตุของปัญหาหย่าร้างในชีวิตคู่ ที่เกิดขึ้นแล้วกับผู้หญิงยุคนี้

          คนทั่วไปมักจะคิดว่าสาเหตุของปัญหาหย่าร้างในชีวิตคู่อันดับต้นๆ ส่วนใหญ่นั้นเกิดจากการทะเลาะเบาะแว้ง ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความไม่ซื่อสัตย์ของทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่จริงๆ แล้วใครจะคิดว่าภาวะอารมณ์ไม่ถึงจุดสุดยอดของผู้หญิงหรือไคลแม็กซ์ ก็เป็นสาเหตุของการหย่าร้างจำนวนไม่น้อยระหว่างสามีและภรรยาได้


ฝันค้างกับปัญหาหย่าร้าง

          ผศ.นพ.พันธ์กดิ์ ศุกระฤกษ์ สูตินรีแพทย์และผู้ดำเนินรายการชูรัก ชูรส ทางช่อง 3 ได้เผยรายละเอียดว่า ปัจจุบันชายไทยร้อยละ 79 มักถึงจุดสุดยอดเกือบทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แต่สำหรับหญิงไทยแล้วมีเพียงร้อยละ 30 เท่านั้นที่ถึงจุดสุดยอด ส่วนอีกร้อยละ 70 ไม่ถึงจุดสุดยอด

          “ผู้หญิงไทยจะถึงจุดสุดยอดจากการช่วยเหลือตัวเอง มากกว่าการมีเพศสัมพันธ์ เมื่อผู้หญิงไม่ถึงจุดสุดยอด ในบางคนอาจจะแกล้งว่าถึงจุดสุดยอดแล้วทำให้ผู้ชายไม่รู้ ซึ่งผู้หญิงที่ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางจะมีอาการเครียด ถ้าผู้ชายจับได้อาจทำให้มีปัญหาตามมา เกิดความระหองระแหง และนำไปสู่ปัญหาการหย่าร้างในชีวิตคู่ บางคนอาจหันไปคบกับผู้หญิงด้วยกัน เนื่องจากผู้หญิงด้วยกันจะรู้ซึ้งถึงความต้องการของผู้หญิงว่ามีความต้องการตรงไหน ในขณะที่ขณะที่ผู้ชายด้วยกันเองไปมีเพศสัมพันธ์ผู้ชายกันเองได้เช่นกัน”

          จากข้อมูลล่าสุดของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีครอบครัวราว 20 ล้านครอบครัว แต่ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา สถิติการหย่าร้างของประชากรไทยมีจำนวนเพิ่มจาก 13% ในปี 2539 เป็น 26% ในปี 2550 โดยเฉพาะในปี 2550 มีสถิติการหย่าร้างถึง 91,155 คู่ หรือคิดเป็นร้อยละ 26 หรือกล่าวได้ว่ามีคนไทยหย่าร้างหนึ่งคู่ต่อทุกๆ ครั้งการจดทะเบียน 5 คู่ หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 10 คน

          ด้าน นพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์ สูตินรีแพทย์โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้วิเคราะห์ถึงปัญหาหย่าร้างของผู้หญิงไทย ซึ่งมาจากภาวะอารมณ์ไม่ถึงจุดสุดยอดว่า “ผู้หญิงไทยไม่ค่อยกล้าพูดกล้าบอกเรื่องนี้ เพราะพวกเธอมีกรอบของจารีตกำหนดไว้ว่า เรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องไม่ดี เป็นเรื่องไม่สะอาด ถ้าเราพูดเรื่องนี้มากๆ ก็จะเป็นพวกมักมากในกามอารมณ์ เมื่อไม่ถึงจุดสุดยอด ก็ต้องเงียบไว้ กล้ำกลืนต่อไป กลัวว่าถ้าพูดออกมาให้ผู้ชายได้ยินจะเป็นสิ่งไม่ดี ผิดกับชาวตะวันตก เขาจะมองว่าเรื่องเซ็กซ์เป็นกิจกรรมที่ต้องมีความสุขด้วยกัน เอาเปรียบกันไม่ได้”


ชีวิตคู่ล่มสลายจากไคลแม็กซ์

          ความไม่สุขสมในเรื่องเพศเหล่านี้ เป็นเหตุให้คู่สมรสจำนวนไม่น้อยไม่มีความสุขในชีวิตคู่ รู้สึกว่าชีวิตคู่เป็นความชมชื่นมากกว่าความหวานชื่น รู้สึกผิดหวัง และตามมาด้วยการใช้ชีวิตอย่างอิสระและแยกทางกันไปในที่สุด

          ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ ได้วิเคราะห์ถึงปัญหาดังกล่าวให้สาวๆ ทุกคนฟังว่า “Making Love หรือการมีเพศสัมพันธ์ คือการแสดงความรักด้วยภาษากาย เรียกง่ายๆ ว่าการร่วมรัก ซึ่งกว่าจะถึงจุดสุดยอดได้ ผู้หญิงต้องใช้เวลามากกว่าผู้ชายในการเริ่มการกระตุ้น

          ปกติแล้วค่าเฉลี่ยการมีเพศสัมพันธ์ กว่าจะถึงจุดสุดยอดของผู้ชายใช้เวลาเฉลี่ย 3-5 นาทีเท่านั้น ส่วนผู้หญิงต้องใช้เวลา 13 นาที ถ้าผู้ชายคนไหนเล้าโลมไม่ดีกระตุ้นไม่ดี ถึงมีท่วงท่า ผู้หญิงก็ไม่ถึงจุดไคลแม็กซ์ เมื่อไม่สำเร็จ ผู้ชายไปถึงดวงดาวแล้ว ผู้หญิงก็อารมณ์ค้าง เธอก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อ สุดท้ายก็ไม่มีความสุข หรือถ้าเกิดผู้หญิงที่เคยถึงจุดสุดยอดด้วยตัวเองมาก่อน เช่น ช่วยตัวเองในรูปแบบหนึ่ง แล้วผู้ชายทำไม่ได้ดั่งใจแบบนั้น เรายึดติดกับรูปแบบนั้น ก็เลยทำให้ไม่มีความสุขอีกเหมือนกัน”

          นอกจากนี้ ในยุคปัจจุบันใครๆ ก็รู้ว่าผู้ชายทำงานหนัก พักผ่อนน้อย เครียด กินอาหารไม่ถูกสัดส่วน ไม่ค่อยออกกำลังกาย ทำให้มีปัญหาที่ตามมาคือ ผู้ชายมีระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง ซึ่งมีผลกระทบต่อเพศสัมพันธ์

          ด้าน นพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์ สูตินรีแพทย์โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ผู้หญิงที่ไปถึงจุดไคลแม็กซ์ทุกครั้ง กับคนบางคนที่ไม่ถึงจุดไคลแม็กซ์ มีทุกอย่างทางกายภาพเหมือนกันหมด ภาวะอารมณ์ไม่ถึงจุดสุดยอดจึงไม่เกี่ยวข้อกับร่างกายเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์และปัญหาจิตใจมากกว่า เช่น ผู้หญิงและผู้ชายไม่รักกันจริง หรือบางคนแต่งงานกับคนอายุเยอะ หรือแต่งด้วยจุดมุ่งหมายอื่นที่ไม่ได้เกิดจากความรัก เวลาสามีมากอดอาจเกิดความกลัว เกิดการต่อต้านเวลามีเพศสัมพันธ์ก็ทำให้ไม่ถึงจุดสุดยอด เพราะร่างกายไปกับเขา แต่จิตใจไม่ได้ไปกับเขา

          ปัญหาไม่ถึงจุดสุดยอดมีปัญหาต่อการหย่าร้างของผู้หญิง จะมากน้อยแค่ไหนก็ต้องมองด้วยว่า ผู้หญิงแต่ละคนให้ความสำคัญในส่วนผสมของชีวิตแต่ละอย่างขนาดไหน แต่ละคนมองไม่เท่ากัน บางคนอาจคิดว่าแค่อยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกันก็มีความสุขแล้ว เรื่องเพศก็เฉยๆ ไปถึงสวรรค์ก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง แต่บางคนก็มองว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องใหญ่ ฉันต้องมีความสุขด้วย ถ้าไม่มีความสุข อยู่ๆ ไปก็ต้องจบด้วยการหย่าร้างอยู่ดี”


คิดผิด ทำผิด ชีวิตคู่ไม่ยืนยาว

          ชีวิตทางเพศที่สุขสมเป็นเรื่องสำคัญทั้งชายและหญิง แต่จริงๆ แล้วความสุขทางเพศที่ผู้หญิงได้รับน้อยกว่าฝ่ายชาย ซึ่งเป็นต้นเหตุที่บั่นทอนความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ และเกิดปัญหาหย่าร้างตามมาในที่สุด

          คุณแอน พนักงานบริษัทสาววัย 33 ปี เผยว่า ปัญหาของเธอเริ่มขึ้นเมื่อสามีต้องเข้ารับการผ่าตัดต่อมลูกหมากและทำให้สมรรถภาพทางเพศไม่ดีเหมือนเดิม “แรกๆ เรื่องบนเตียงเขาก็ทำได้ดีอยู่นะคะ มีเพศสัมพันธ์กันค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่ดิฉันก็ไปถึงจุดสุดยอดนับครั้งได้ บางครั้งเราใช้เวลาบนเตียงเป็นชั่วโมง เราก็ยังไปไม่ถึงจุดสุดยอด ยิ่งพอเขาไปผ่าตัดต่อมลูกหมากได้ 4-5 เดือน ก็มีปัญหาต่างๆ นานาเข้ามาในบ้าน มีปัญหาจุกจิกให้รำคาญใจ เขาก็เอาแต่ทำงาน ไม่ค่อยมีเซ็กซ์กับเรา ในที่สุดก็แยกกันอยู่ แม้รักมากแค่ไหนก็ต้องจบอยู่ดี คนเราทนได้แค่ร่างกาย แต่จิตใจบังคับกันมากๆ มันก็แย่เหมือนกัน”

          คุณแก้ว พนักงานบริษัทด้านการตลาดวัย 39 ปี คุณแม่ลูกสอง หลังจากต้องทนทรมานกับการคลอดลูกคนที่สองเมื่อสี่ปีก่อนนานกว่า 20 ชั่วโมง ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดทางร่างกายและไม่อยากให้สามีเข้าใกล้อีกเลย

          “ตอนนั้น วันๆ เราแทบไม่คุยกันเลยนะ เวลามีอะไรกันในช่วงแรกๆ ดิฉันรู้สึกถูกกดดันให้ยอมทำตาม ให้เขาปฏิบัติของเขาให้เสร็จๆ ไป หลังๆ เลยคุยตรงๆ ว่าฉันไม่มีอารมณ์นะ อย่ามีอะไรกันเลย เราก็ค่อยๆ เล่าถึงปัญหาต่างๆ ให้เขาฟังอย่างละเอียด และให้เขาไปเที่ยวผู้หญิงแบบว่าได้ แต่เขาก็ปฏิเสธท่าเดียว คิดว่าเราไม่รักเขาแล้ว ทีนี้เขาก็ทำแต่งานๆ บ้านนี้เงียบกริบ จากที่เคยอบอุ่นก็กลายเป็นเย็นชากัน พอเขาจะมาขอมีอะไรกับฉัน อวัยวะเพศเขาก็ไม่ตื่นตัว เขาก็บอกว่าผมรู้สึกกลัวว่าจะทำให้คุณทรมาน ปัญหาก็ค่อยๆ สะสมขึ้นตอนนี้เราแยกกันอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างในบ้านมันแย่ไปหมด เรากลัวปัญหาของพ่อแม่จะมีผลกระทบกับลูก ก็เลยให้เขาย้ายกลับไปอยู่พ่อแม่เขา เพื่อเขาจะได้รู้สึกดีขึ้น”

          คุณแคท หญิงสาววัย 28 ปี เจ้าของธุรกิจส่วนตัว เล่าถึงปัญหาที่เธอต้องหย่าร้างกับสามีหลังจากแต่งงานกันมาเพียงสองปีกว่าๆ ว่า “สามีเป็นคนหลั่งเร็วมากเรียกง่ายๆ ว่านกกระจอกไม่ทันกินน้ำนั่นแหละ ทั้งๆ ที่อวัยวะเพศของเขาก็ตื่นตัวดี ร่างกายแข็งแรง ดูภายนอกเหมือนคนปกติทุกอย่าง แต่พอเวลาเพศสัมพันธ์ทุกอย่างก็จบลงง่ายๆ เสมอ ดิฉันยอมรับว่าเป็นคนหัวสมัยใหม่ ก็เปิดอกคุยกับแฟนตรงๆ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เขาก็ขอโทษขอโพยว่าจะทำให้ดีกว่านี้ แต่พอจะมีเซ็กซ์เขาก็เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆ ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด อารมณ์ค้าง พอปรึกษาหมอเขาให้ฝึกอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สามีบอกเราว่า เขาก็ทำแล้ว แต่มันควบคุมไม่ได้ เราก็ไม่อยากพูดอะไรอีก พอมีปัญหาอะไรเข้ามา เราจะรู้สึกหงุดหงิดง่ายมาก พาลไปทุกเรื่อง สุดท้ายเราก็ขอแยกทางกับสามีดีกว่า คิดว่าไลฟ์สไตล์คงไปด้วยกันไม่ได้”


เข้าใจเพศสัมพันธ์ถูก ชีวิตคู่ยืนยาว

          เรื่องบนเตียงสามารถเป็นตัวฉุดให้รักร้างได้พอๆ กับเป็นพลังสนับสนุนให้รักยั่งยืน ขึ้นอยู่กับว่าเราให้ศูนย์กลางความสัมพันธ์ในชีวิตคู่อยู่ที่ใดๆ ความรักหรือความต้องการ

          นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้คำแนะนำว่า “ในความเป็นจริงชีวิตคู่นั้นลึกซึ้งกว่าเรื่องเพศ เพราะการใช้ชีวิตร่วมกันเป็นเรื่องของความรักความผูกพัน และการตกลงปลงใจว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันตลอดไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อีกทั้งความรักความปรารถนาดีที่มอบให้แก่กัน ไม่ได้เกิดขึ้นจากความสามารถทางเพศ หรือสิ่งปรุงแต่งภายนอก เช่น รูปร่าง หน้าตา ทรัพย์สมบัติเงินทอง ฯลฯ ดังนั้น เรื่องเพศจึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตสมรสเท่านั้น

          ดังนั้น สามีภรรยาควรให้น้ำหนักในเรื่องนี้อย่างเหมาะสม และมีความคิดที่ถูกต้อง ทางออกที่ดีที่สุดก็ต้องใช้วิธีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ผู้ชายมีนิสัยชอบสอดใส่เร็วและเสร็จเร็ว ผู้หญิงต้องบอกให้ผู้ชายรับรู้ ต้องมีการออดอ้อนในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เพศสัมพันธ์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคู่ คุณจะให้ความสำคัญมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ในชีวิตคู่ด้วยว่าดีแค่ไหน ถ้าองค์ประกอบอื่นแย่ เรื่องบนเตียงอาจจะช่วยได้ แต่ถ้าส่วนประกอบอื่นๆ ดีหมดแล้ว เรื่องเซ็กซ์เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง”

          ด้าน ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ กล่าวว่า “ผลวิจัยรายงานว่าผู้ชายจะมีสมรรถภาพทางเพศดี ก็ต้องมีเวลาออกกำลังกายสม่ำเสมอวันละ 45 นาที เข้านอนแต่หัวค่ำ นอนให้สนิทก่อนเที่ยงคืน เพราะตอนเที่ยงคืนฮอร์โมนต่างๆ จะสร้างออกมา และต้องตรวจเช็กได้ว่าอวัยวะเพศคุณทำงานไหม โดยตรวจดูการตื่นตัวของอวัยวะเพศตอนเช้า กินสารอาหารครบถ้วนทุกหมวดหมู่ลดอาหารพวกไขมัน ลดเกลือ น้ำตาล

          ส่วนผู้หญิงต้องรู้จักปล่อยวางหรือทิ้งงานไว้นอกบ้านบ้าง และฝึกใจว่ากลับมาเราจะมาอยู่กับสามีว่าเขาจะมีกิจกรรมเรื่องนี้ เราต้องเตรียมว่าเราจะมีความสุขด้วยกัน ใจที่เตรียมไปก่อน ก็ทำให้การตอบสนองดี การพูดคุยกันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด บอกอีกฝ่ายว่าเราต้องการแบบไหน หาเวลาว่างๆ คุยกันให้รู้เรื่องเซ็กซ์ก็เหมือนกับการปรุงอาหารว่าคุณชอบรสเค็ม รสเปรี้ยว รสเผ็ด แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ก็ต้องช่วยกันปรุงรสปรุงรัก”


ไคลแม็กซ์ใครๆ ก็ถึงได้

          นพ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์ ซึ่งได้ฟังสาวๆ หลายคนบ่นพร่ำว่าทำไมพวกเธอไม่ถึงจุดไคลแม็กซ์สักที มาบอกเคล็ดลับเล็กๆ ที่จะทำให้สาวๆ มีความสุขทั้งเรื่องบนเตียงและชีวิตคู่ว่า “เคล็ดลับในการไปถึงดวงดาวคือต้องมีการโหมโรง ผ่อนคลาย ไม่เครียด เริ่มต้นดีมีสัมพันธภาพที่ดี ทั้งสองฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกัน มีการโอบกอดสัมผัสซึ่งกันและกัน คิดถึงกันและกัน และไปถึงจุดสุดยอดด้วยกัน อย่าคิดว่าความสุขของแฟนสำคัญกว่าคุณ คุณสมควรได้รับความสุขเท่าๆ กับที่คุณได้ให้เขาเรียนรู้ที่จะรอความสุขบ้าง อย่ามัวแต่ตะกายเหน็ดเหนื่อยอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งคู่ควรพยายามพูดคุยปรึกษากันให้เข้าใจ และช่วยกันแก้ไขหรือลองทาเทคนิคมาใช้ เช่น ท่าทางแบบไหนจึงจะทำให้ถึงจุดสุดยอดได้”


          ข้อมูลจาก www.seductioninsider.com ได้ให้ความรู้ว่าท่าที่ผู้หญิงจะถึงจุดไคลแม็กซ์คืออวัยวะเพศของชายจะต้องถูไถกับปุ่มคลิตอริสของผู้หญิงซึ่งเป็นได้ค่อนข้างยาก แต่วิธีที่สามารถทำได้คือ ให้ใช้มือของฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงก็ได้ ถูไถเบาๆ ไปที่คลิตอริสขณะร่วมเพศ และยังแนะนำอีกว่า วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดได้ก็คือ วิธีทำออรัลเซ็กซ์และเป็นวิธีที่นุ่มนวลที่สุด การถึงจุดสุดยอดของผู้หญิงครั้งแรกประมาณ 20 นาที แต่สำหรับครั้งที่สองของเธอจะเร็วขึ้น

          บางครั้งการถึงจุดสุดยอดอาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของการมีเพศสัมพันธ์ แต่การถึงจุดสุดยอดเป็นประจำ ก็เป็นสิ่งก็ทำให้ชีวิตคู่มีความสุขสมด้านอารมณ์และชีวิตความเป็นอยู่ โดยเฉพาะคู่รักคู่ไหนปรารถนาชีวิตคู่ให้ยาวนานแล้วล่ะก็ ความรักความเข้าใจที่ดี ต่อกัน ก็เป็นตัวแปรสำคัญไม่น้อยที่จะสานต่อความรักให้ยั่งยืน








ขอขอบคุณข้อมูลจาก

Vol.9 No.24  25 มิถุนายน 2551