ภาพจาก เฟซบุ๊ก May Jeeranan
สืบเนื่องจากกรณีที่อดีตนักร้องสาว เม จีระนันท์ กิจประสาน ได้มีการออกมาเผยเรื่องราวเฉียดตายของตัวเอง หลังบินไปทำศัลยกรรมหน้าอกที่เกาหลี แต่เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : เม จีระนันท์ เปิดภาคต่อ ทำหน้าอกที่เกาหลี กว่าจะบอกความจริงต้องรอให้ใกล้ตาย)
ล่าสุด (15 กรกฎาคม 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ เม จีระนันท์ กิจประสาน ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ตนตัดสินใจทำศัลยกรรมตาและหน้าอกที่โรงพยาบาลดังกล่าวในประเทศเกาหลีใต้ เพราะที่นั่นมีชื่อเสียง และมีคนมีชื่อเสียงของไทยทำกันหลายคน จึงเชื่อมั่น ซึ่งสาเหตุที่ทำศัลยกรรมหน้าอกเพราะตนทำธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์ โดยเป็นแบบเอง จึงต้องการรูปร่างที่ได้สัดส่วน ส่วนการทำตา เพราะอยากแก้ปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
เม เผยต่อว่า ตนไม่ได้ใบเสร็จหรือหนังสือสัญญาใด ๆ หลังจ่ายค่าใช้จ่ายในราคา 800,000 บาท และหลังผ่าตัด ตนต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาน 3 คืน โดยมีแม่คอยจดปริมาณเลือดที่ไหลออกมาตามท่อระบาย โดยที่ทางโรงพยาบาลไม่ได้สนใจใด ๆ จนกลับมาที่ประเทศไทย วันนัดถอดท่อระบายเลือดที่คลินิกที่เป็นสาขาย่อยของโรงพยาบาลที่เกาหลี วันที่ 3 มกราคม เลือดก็ยังคงไหลออกมาอยู่ในปริมาณมาก แต่หมอก็ยังยืนยันถอดออก พร้อมเย็บแผลในวันนั้น ซึ่งหลังเย็บแผล ตนก็ยังคงเจ็บ และมีอาการปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอก หมอก็บอกเพียงว่าให้ไปฉีดยาระงับอาการ จนไม่นานก็มีหนองทะลักออกมาจากแผล ตอนนั้นชีพจรตนเต้นเร็วมากและความดันต่ำ จึงต้องทำการผ่าตัดเอาซิลิโคนออกทันที
ภาพจาก เฟซบุ๊ก May Jeeranan
โดยอาการก็ยังไม่ดีขึ้น ต้องพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู แม่ตนได้ปรึกษากับหมอที่รู้จักว่าให้เปลี่ยนโรงพยาบาล เพราะมีอาการฝ้าขึ้นปอด กลัวจะลุกลามหนักไปอวัยวะอื่น เมื่อรักษาตัวจนอาการตนดีขึ้น ตนได้มีการติดต่อไปยังเอเจนซี่ที่ติดต่อกับโรงพยาบาลศัลยกรรม กลับถูกปฏิเสธ บอกเพียงว่าให้ติดต่อกับทางโรงพยาบาลโดยตรงเอาเอง เมื่อติดต่อไป ทางโรงพยาบาลก็บอกว่าจะจ่ายเงินชดเชยให้ เป็นค่าทำหน้าอกครึ่งหนึ่ง จำนวน 400,000 บาท และค่าเยียวยาอีกจำนวนหนึ่ง แต่จะต้องเซ็นสัญญาว่าจะไม่มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับโรงพยาบาล ซึ่งตนได้ปฏิเสธรับเงินนั้น เพราะไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใครอีก และตอนนี้ได้มีการติดต่อกับทนายวันชัย สอนศิริ แล้ว เพื่อต้องการดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ตนเข็ดกับการทำศัลยกรรม ไม่คิดจะทำอีกแล้ว แต่ถ้าจะทำก็คงเป็นการรักษาแผลที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องรอการฟื้นฟูก่อนอีกประมาณ 2 ปี
ขณะที่ นางวจี ธัญญะเจริญ ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า ตนเหมือนได้ลูกคนใหม่กลับมา เมื่อคิดย้อนกลับไปตนก็ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจให้ตัดสินใจยอมให้ลูกไปทำ ทั้งที่ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน หรืออาจเป็นเพราะเห็นว่าลูกอายุเยอะแล้ว ก็อยากให้เขาดูดี ตนรู้สึกผิด ไม่ควรปล่อยให้ลูกไปเจ็บตัว เรามีกันอยู่แค่ 2 คน ถ้าเขาเป็นอะไรไป ตนก็คงอยู่ไม่ได้
ภาพจาก Instagram may_aprilandmay
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
