เรียกได้ว่าเป็นนักร้องสาวที่ประสบความสำเร็จอีกคนหนึ่งของวงการ สำหรับ หลิว อาจารียา ที่ไม่ว่าจะออกอัลบั้มไหน แฟน ๆ ก็สามารถร้องตามและเต้นไปกับเธอได้ตลอด ล่าสุด (26 เมษายน 2562) หลิว อาจารียา ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มีหนิง ปณิตา และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร พร้อมเล่าถึงชีวิตของเธอ ที่กว่าจะมาถึงจุดนี้ก็เคยลำบากสุด ๆ มาก่อน
เห็นว่าคบแฟนมา 8 ปีแล้ว ?
หลิว อาจารียา : ค่ะ เข้าสู่ปีที่ 8 แต่เราไม่ได้ลงโซเชียล จริง ๆ ที่ผ่านมานักข่าวก็จะถามว่าคบกับใคร เราก็จะตอบ แต่คู่เราไม่มีโมเมนต์สวีตเลย เพราะผู้ชายเขาจะเขิน เขาไม่อยากออกสื่อ
เห็นว่าช่วง 5 ปีแรกเป็นการแอบคบ ?
หลิว อาจารียา : ค่ะ แต่ไม่เชิงว่าแอบคบ เราไม่เปิดเผยว่าเรามีแฟน พ่อแม่ต่างฝ่ายต่างรับรู้ แล้วช่วง 5 ปีที่แล้ว นักร้องลูกทุ่งเขายังไม่เปิดเผย กลัวว่าแฟนคลับจะนู่นนี่นั่นหรือเปล่า
แล้ววันนี้เราเปิดเผยแล้ว แฟนคลับว่ายังไงบ้าง ?
หลิว อาจารียา : มันเป็นเรื่องปกติ เขาก็รักในผลงานของเรา
แฟนทำงานอะไร อายุเท่าไร ?
หลิว อาจารียา : เขาทำเครื่องเสียง เวที แสง สี เสียง งานที่ผ่านมาก็คือสงกรานต์ที่บุรีรัมย์
ไปรู้จักกันได้ยังไง ?
หลิว อาจารียา : คือคุณพ่อบุญธรรมเป็นเพื่อนกับพ่อเขา ก็เลยแนะนำ รู้จักกันผ่านงานแต่ง ตั้งแต่วันนั้นมาก็ได้คุยกันมาเรื่อย ๆ
มีแพลนจะแต่งงานหรือยัง ?
หลิว อาจารียา : เคยมีช่วง 4 ปีที่แล้ว แต่เราก็บอกว่าอย่าเพิ่ง เราอยากทำงาน คือสมมุติตอนนั้นเราบอกว่าอีก 3 ปีนะ แล้วพอเวลาผ่านไปเราก็บอกอีก 3 ปีนะ เขาก็บอกว่าถ้าพร้อมเมื่อไรก็บอกแล้วกัน
มาพูดถึงชีวิตน้องหลิวตอนเด็กดีกว่าเห็นว่าลำบากมาก ?
หลิว อาจารียา : ในช่วงนั้นลำบากมาก เพราะว่าอยู่กับตากับยาย มีช่วงนึงไม่มีน้ำปลา ต้องไปยืมข้างบ้าน บางทีมันลืมไม่ได้ไปซื้อ แล้วขอเงินยายไม่ได้เพราะตอนนั้นเด็กมาก แล้วยืมบ่อย ๆ ข้างบ้านก็บอกว่าอะไรวะแค่น้ำปลาไม่มีตังค์ซื้อ มันก็คิดนะ เออใช่ แค่น้ำปลาทำไมซื้อไม่ได้ต้องไปยืมเขา
ขอโทษนะคะ แล้วคุณพ่อ คุณแม่ ?
หลิว อาจารียา : แยกทางกันตั้งแต่เด็ก และช่วงนั้นหารายได้ด้วยการห่อขนมจีบ ได้วันละ 10-20 บาท ส่วนคุณตาเป็นช่างไม้ คุณยายเป็นช่างทำอิฐบล็อก ก็จะได้วันละ 120-150 รวมกันก็ได้สองร้อยกว่าบาท ซึ่งเราก็ต้องเรียนไปด้วย ไหนจะค่าเรียน ค่ากิน ค่าอยู่
ชีวิตลำบากขนาดนี้ตั้งแต่อายุเท่าไร ?
หลิว อาจารียา : จริง ๆ มันเป็นช่วงชีวิตพลิกผัน ตั้งแต่ ป.6 คุณพ่อเลิกซัพพอร์ต เราก็เลยลำบากตรงนั้น ทุกวันนี้ก็ยังเจอบ้าง หนูก็ยังส่งให้คุณพ่อ คุณแม่ ทุกเดือน
ณ ตอนนั้นเราน้อยใจไหมว่าทำไมเราไม่มีคุณพ่อ คุณแม่ เหมือนเด็กคนอื่น ๆ ?
หลิว อาจารียา : ตอนแรก ๆ ก็รู้สึกค่ะ แต่พอแบบอยู่ไปเรื่อย ๆ คุณตา คุณยายเขาดูแลเราดีมาก ๆ จนเราไม่รู้สึกขาดตรงนั้น เพราะคุณตา คุณยายก็เปรียบเหมือนพ่อแม่เรา
แล้วเรามีโอกาสเข้ามาร้องเพลงได้ยังไง ?
หลิว อาจารียา : เราก็ไปร้องเพลงอยู่เรื่อย ๆ ก็มีวงเล็ก ๆ วงโนเนม เจ้าของวงมาเจอเราแล้วมาชวนเราไปร้อง เขาก็แต่งเพลงไปด้วย เขาก็เลยให้เราร้องไกด์แล้วส่งไปตามค่ายเพลงต่าง ๆ แล้วมีอยู่ค่ายนึงอยากได้นักร้องใหม่ แล้วเขาชอบเสียง มาดูตัวเราก็ได้เป็นนักร้อง แต่ก็ยังไม่ดัง นานมาก เมื่อก่อนนักร้องลูกทุ่งโชว์สะดือจะไม่ค่อยมี หลิวเป็นคนแรกเลยที่ใส่แบบนั้น โดนว่าเยอะมาก โดนเปรียบเทียบกับรุ่นพี่ที่เขาลูกคอเก้าชั้น
ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดหลิวโดนเปรียบเทียบว่าไม่ใช้ความสามารถแต่กลับเอาเรือนร่างมาใช้ ?
หลิว อาจารียา : ประมาณนั้น ก็รู้สึกแย่มาก ๆ เราไม่ได้ใช้เรือนร่างขนาดนั้น เราแค่ใส่ชุดปอมปอมเชียร์ เพราะหลิวมาจากเชียร์ลีดเดอร์มาก่อน เขาก็เลยใส่คอนเซ็ปต์ให้เราเป็นแบบนั้น เขาก็เลยเปรียบเทียบเสียงไม่ดีเลยอะไรอย่างนี้
เห็นว่าโดนดูถูกเรื่องหน้าตาด้วย ?
หลิว อาจารียา : อาจจะไม่ได้โดนดูถูก แต่ไปเจอคุณพ่อบุญธรรม เขาบอกว่าลองปัดผมมาด้านนี้สิ ลองหันซ้าย หันขวาสิ ทำไมหน้าบาน ดั้งหักอย่างนี้ เราก็เลยรู้สึกว่าทำไม เราเป็นนักร้องไม่ได้เป็นดารา แต่คุณพ่อเขาแค่อยากรู้มุมไหนเราดูดี แล้วโดนดูถูกครั้งยิ่งใหญ่ที่หลิวต้องปรับและเปลี่ยนตัวเอง ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ออกอัลบั้มแรก หลิวไปขอเพลงจากครูเพลงท่านนึง ขอว่าอยากได้เพลงจากอาจารย์ แล้วเขาพูดกลับมาว่าอย่างเธอเหรอจะร้องได้ อย่างเธอก็ร้องได้แค่แนวง่าย ๆ เราก็ร้องไห้เลย เราก็ซ้อมทุกวันเลย
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.00-15.00 น. ทางช่อง One31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
