เอ็ม นันทวัฒน์ แถลงตั้งใจให้บทเรียน ม้า อรนภา ย้ำไม่มีชู้สาว-โต้กินงู ใครจะกล้า !

          เอ็ม นันทวัฒน์ แถลงข่าวปมโดน ม้า อรนภา ตบที่เกาหลี ยันฟ้องเอาเรื่อง อยากให้บทเรียนเขา ตอนนั้นถึงกับร้องไห้ ยันไม่มีเรื่องชู้สาว กินปูจริง ๆ ไม่ได้กินงู

          ออกมาแถลงข่าวเปิดใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 1 ธันวาคม 2565 สำหรับนักแสดงหนุ่ม เอ็ม นันทวัฒน์ ผ่องบุรุษ ดารารุ่นน้องคู่กรณี ม้า อรนภา ในดราม่าดารารุ่นใหญ่ตบดาราหน้าใหม่ที่เกาหลีใต้ เหตุเพราะไม่ไปกินปูด้วยกัน ซึ่งเป็นประเด็นร้อน ๆ ก่อนหน้านี้ โดยหลังจากทางพี่ม้าได้แถลงยืนยันว่าไม่ได้ตบ แค่แตะ พร้อมเล่าเรื่องจากฝั่งของตัวเอง ทางเอ็มก็ได้ออกมาชี้แจงบ้าง หลังเพิ่งเปิดใจเคลียร์ในรายการดัง
 

อ่านข่าว : ม้า อรนภา ยันไม่ได้ตบหน้า ดาราหนุ่ม แค่แตะหน้าแบบ อีนี่จะบ้าเหรอ ไม่รู้ทำไมน้องไม่จบ
 

           - ตอนที่ได้ทนายคือปรึกษาหลายคน ว่าถ้าโดนทำร้ายร่างกาย โดนตบที่เกาหลีใต้จะต้องทำยังไง แล้วมีทนายที่ให้ข้อมูลอธิบายยาว ๆ เลยตัดสินใจว่าได้ทนายแล้ว
 

           - ตอนตัดสินใจว่าจะเอาเรื่อง ไม่ได้บอกอีกฝ่าย พอได้ทนายก็เก็บของเลย หนีไปอีกโรงแรมหนึ่ง แล้วอีกวันค่อยกลับโรงแรมตัวเอง หนีไปนอนชั้น 13
 

           - ตอนอยู่เกาหลีตั้งใจว่าจะฟ้อง การถูกตบ มันผิดกฎหมาย ส่วนวันนี้รู้สึกโล่ง ปลดล็อกที่สุด บางทีคุยกับเพื่อน เพื่อนก็แคปออกไปว่าตนบอกว่าแม่ม้าเป็นคนดี ทัวร์ก็มาลงว่าแล้วจะเอายังไง อยากจะดังหรือเปล่า
 

           - ตนอยู่ตรงนี้มาไม่มีใครรู้จักเลย พอมีข่าวนี้มา คนรู้จักจนตนงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนสนใจขนาดนี้ ทำไมทุกคนอยากฟังเราขนาดนี้ ถามว่าอยากดังไหม คือตนไปทำจมูกมา ไม่ได้ตั้งใจจะให้ใครรู้เลย แต่ก็เป็นครั้งสุดท้ายที่จะทำแล้ว ถ้าไฟดวงนี้มันไม่เปิด ก็จะไปหาอย่างอื่นทำแล้วนะ สุดท้ายก็อย่างที่ทุกคนเข้าใจ ว่าทุกคนรู้หมดเลยว่าตนไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีมา
 

           - สาบานเลยว่าตอนคิดจะฟ้อง คิดว่าในวงการบันเทิงเราจบแล้ว การฟ้องผู้ใหญ่ เราจะมีโอกาสได้แถลงอย่างนี้เหรอ คนธรรมดา ไปอีเวนต์คนยังไม่สนใจเลย คอมเมนต์ยังมีคนบอกว่าคนนี้ชื่ออะไร ดาราเหรอ จนวันหนึ่งแสงมันมาหาตนเอง ซึ่งตนไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้มานั่งตรงนี้ ในเมื่อได้มาแล้ว ก็ต้องมาพูดในสิ่งที่เจอ ให้ผู้ใหญ่รับฟังว่าตนไม่ใช่เด็กก้าวร้าวเลย

           - พี่ม้า แม่ม้ารู้ดีว่าตนไม่ใช่เด็กแบบนั้น ตอนที่เราโกรธ มีเรื่องฟ้องกัน ตนยังยกมือไหว้แม่อยู่เลย ได้เจอกันตอนตัดไหมวันที่ 29 แม่ก็เดินมาหา ตนก็ถามว่า อ้าว มาด้วยเหรอครับ แล้วยกมือไหว้ เขาก็บอกต้องมาสิ มาทำหน้าที่ของเขา
 

           - สาเหตุที่ไม่อยากเจอพี่ม้าในวันนี้ เมื่อวานพี่ม้าได้พื้นที่สื่อไปแล้วคนเดียว วันนี้ตนก็อยากได้เหมือนกัน ถ้ามาคุย 2 คน แล้วเหตุการณ์ไม่ตรงกัน ตนก็จะแย้ง สิ่งที่กลัวที่สุด คือ คุมตัวเองไม่ได้ขนาดนั้น
 

           - ตอนดูพี่ม้าแถลงดูไม่จบ รู้สึกว่าทำไมเขานิ่งขนาดนี้ ทำไมเขาเล่าแบบนั้น ทำไมเขาหัวเราะได้ ทำไมเราเล่าแล้วใส่อารมณ์ แต่ที่เราเล่าคือเรื่องจริงแน่นอนส่วนที่พี่เขาแถลงเมื่อวาน เป็นความจริงหมดเลย
 

          - หลังจากที่พี่ม้ากลับมา ตนยังไปที่สถานีตำรวจอยู่เลย ไปเซ็นยินยอมว่าจะมาดำเนินคดีต่อที่ไทย ใช้ที่เกาหลีไม่ได้แล้ว ส่วนที่ไม่เจอกับพี่ม้า ตนกลัวจะใจอ่อน วันนั้นแม่ม้าก็ร้องไห้ วันก่อนไปกินปู เขาขอโทษ ตนก็ให้อภัยเพราะสงสาร
 

          - เขาขอโทษเรา แล้วอธิบายมา เราก็ขอโทษเขา ก็คือจบ แต่ในเรื่องของกฎหมาย ตนอยากให้เป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ว่าใครจะถูกตบก็ได้ เลยตัดสินใจว่าจะฟ้อง ยังไม่ได้คุยเรื่องทนาย แต่เตรียมหลักฐานไว้พร้อมแล้ว เขาบอกว่าแจ้งความได้ ยังไงก็เป็นการทำร้ายร่างกาย ก็เดินหน้าฟ้องแน่นอน
 

          - ยันไม่ใจอ่อน ตอนนั้นยังบอกกับแม่เลย ว่าเจอกันที่ศาลนะ ตอนนั้นเราอาจจะจูงมือกันไปที่ศาล เหมือนที่เราจูงมือเขาข้ามถนนที่เกาหลี แต่เราก็ต้องให้บทเรียนเขา ตอนนั้นไม่ได้กลัวเลยว่าเป็น ม้า อรนภา ถ้าเป็นผู้ชายเราอาจต้องต่อยกัน แต่มองเขาเป็นรุ่นแม่ จะให้ตบคืน ก็คงไม่ทำอย่างนั้น
 

          - ถ้าพี่ม้าดูอยู่ อยากขอบคุณแม่ม้า คำที่บอกว่าเราพูดความจริงกันนะ เมื่อวานแม่พูดความจริง ก่อนหน้านี้กลัวมากว่าแม่ม้าจะออกมาพูดว่ามันเป็นเด็กฉัน ซื้อมันมา คือแม่เป็นคนจริงระดับหนึ่งเลย ทุกอย่างที่ตนพูดก็เรื่องจริง คือ คนอย่าง ม้า อรนภา ถ้าออกมาพูดคำเดียวว่าไอ้เด็กคนนี้โกหก ตนก็จะไม่มีที่ยืนเลย แต่สิ่งที่ตนพูดไปคือเรื่องจริง
 

          - ที่สัมภาษณ์ในรายการ ถึงขั้นร้องไห้ อยู่ที่นั่น 3 วัน ร้องไห้บ่อยมาก ร้องอย่างหนัก เมื่อกี้ไม่อยากร้องไห้ แต่มันเหนือการควบคุม มันอึดอัด ถามว่าอยากมีวันนี้ไหม อยากมี แต่ไม่ได้อยากมีเพราะข่าวฉาวแบบนี้
 

          - แสงมันส่องมาถึงตัวผมแล้ว ผมก็มาแถลงแล้ว ถามว่าผมจะออกรายการไหนอีกไหม ก็คงไม่แล้ว ไม่อยากให้แม่ต้องเห็นคลิปที่โดนตบหลาย ๆ รอบ ตอนนี้พอแล้ว เรื่องเคลียร์คือพูดอยาก แต่ว่าก็ต้องเคลียร์ แต่ขอรอให้พร้อมก่อน เพราะตนเป็นคนถูกกระทำ
 

          - ไปเจอกัน 2 คน ที่เกาหลี ที่คนมองเรื่องชู้สาว ตอนอ่านก็ขึ้น มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมองเขาเป็นรุ่นแม่ ตอนที่เราทำจมูกเขาเข้าห้องมาก็จะมีเปิดประตูไว้ เขาก็ไม่ค่อยกล้า ตอนน้ำไม่ไหล ตนเข้าห้องเขาก็เปิดประตูค้างไว้เหมือนกัน เรื่องชู้สาวไม่มีแน่นอน
 

          - เรื่องชู้สาว กลัวเขาจะมาพูดว่ามันเป็นแฟนฉันเองแหละ คือคำนี้เป็นสิ่งที่เราคิดไปเอง ตนคิดแทน เพราะกลัว ว่าถ้าเขาพูดแบบนี้ใครจะเชื่อเรา แต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทางไปแบบนั้น

          - มีตอนเขาข้ามถนน เรามีจูงมือเขาบ้าง แต่ตอนอยู่ 2 คน ไม่มีลักษณะนั้น เราก็ระวังตัวตลอด คนไทยทักแม่เยอะมาก ตอนเราเดินกันคนก็ทัก คือกลัวทุกอย่าง กลัวความไม่จริง กลัวเขาแต่งเรื่อง ก็ต้องขอบคุณที่เขาพูดความจริง เรื่องที่คนบอกว่ากินงู คือมันแรงมาก ใครจะกล้า
 

          - ไม่ได้เอาความสะใจ เอาความถูกต้อง เขาผิด เราถูก เราตั้งใจมาแจ้งความที่ไทย ตอนแรกกลัวว่าถ้ามีคดีที่เกาหลี ต้องขึ้นศาลเกาหลี เราต้องบินไป-กลับอีกเหรอ
 

          - ตนใหม่กับเรื่องนี้จริง ๆ ไม่รู้ว่าต้องยืนตรงไหน สงสารตัวเองหรือสงสารใคร อยากให้คนโฟกัสว่าตนโดนตบ ตนเสียหาย ไม่ใช่คนมาบูลลี่หน้าตน มาบูลลี่แม่ม้า คิดว่าเรื่องนี้อีก 2 วันก็จบ แต่พออ่านคอมเมนต์ มันไม่หายไป บางข้อความอ่านแล้วก็จี๊ดเลย
 

          - หลังจากนี้จะมูฟออนไม่ร้องไห้แล้ว หลังจากนี้จะไปกินส้มตำกับเพื่อน ขอบคุณมากเลย ไม่คิดว่าจะได้รับความสนใจแบบนี้ เคยฝันว่าจะมีการสัมภาษณ์ตอนได้รับรางวัลสักอย่าง แต่อยู่ดี ๆ ก็มีไมค์มาออก ผลจากนี้จะเป็นยังไงก็รอติดตามต่อไป