เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ริ้วรอย และร่องรอยด่างคล้ำก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในวัยขึ้นเลข 4 จุดดำคล้ำจะค่อย ๆ ก่อตัวจนเห็นได้ชัด จุดดำคล้ำเหล่านี้เกิดจากรังสียูวีที่มาโดนผิวของเรา ทำให้เมลานินในผิวหนังถูกกระตุ้นให้สร้างเม็ดสีออกมาเพื่อปกป้องผิวชั้นในจากรังสียูวี เม็ดสีเหล่านี้นี่เองทำให้เราเห็นเป็นจุดคล้ำสีน้ำตาลบนผิวหนัง ซึ่งมีหลากหลายขนาด และมักปรากฏบนผิวบริเวณที่สัมผัสกับแสงแดดบ่อย ๆ เช่น ผิวหน้า หลังมือ แขน ไหล่ บริเวณหลังช่วงบน และจุดเหล่านี้ยิ่งเห็นได้ชัดเจนหากเป็นคนผิวขาว แม้จุดด่างคล้ำเหล่านี้จะไม่พัฒนากลายเป็นมะเร็ง แต่ก็เป็นสิ่งรบกวนจิตใจอย่างมากสำหรับคนรักสวยรักงาม
ฉะนั้นเพื่อป้องกันผิวของเราไม่ให้เกิดรอยคล้ำเช่นนี้ ก็ต้องหันมาเอาใจใส่ปกป้องผิวกันเสียแต่เนิ่น ๆ ค่ะ
วิธีง่าย ๆ แต่สำคัญที่จะช่วยปกป้องผิวของเราจากแสงแดดในทุก ๆ วัน ก็คือ การทาครีมกันแดดนั่นเอง นอกจากครีมกันแดดแล้วการสวมเสื้อคลุม หรือกางร่มยามออกแดดก็ช่วยได้เช่นกัน หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน นอกจากจะร้อนจนทำให้แสบผิวแล้ว ยังทำให้เกิดรอยด่างคล้ำได้ง่ายด้วยค่ะ
ส่วนสาว ๆ คนไหนที่ขับรถ อย่าลืมเช็คฟิล์มกรองแสงที่กระจกรถด้วยนะคะ ว่าเป็นฟิล์มที่สามารถกรองรังสีได้ทั้งยูวีเอและยูวีบีหรือไม่ ปกติแล้วฟิล์มกรองแสงโดยทั่วไป มักป้องกันเพียงรังสียูวีบี ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้เกิดความร้อนและอาการผิวไหม้ ส่วนรังสียูวีเอซึ่งเป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้เมลานินผลิตเม็ดสีผิดปกตินั้น ยังสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมเช็คดูนะคะ ว่ารถที่คุณขับอยู่ติดฟิล์มกรองแสงที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอและยูวีบีหรือไม่ค่ะ
นอกจากนี้หากเกิดจุดดำคล้ำปรากฏขึ้นบนผิวแล้ว วิธีที่เราสามารถกำจัดจุดเหล่านั้นออกไปได้อย่างรวดเร็วมีมากมาย เช่น การใช้กรดเพื่อเร่งการผลัดเซลล์ผิว การฝังเข็ม การใช้ความเย็น การทำเลเซอร์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามแม้จะเห็นผลเร็ว วิธีเหล่านี้ก็ยังมีผลข้างเคียงอยู่เช่นกัน เช่นทำให้ผิวบาง หรือไวต่อแสงมากขึ้น ฯลฯ เพราะฉะนั้นเราลองมาดูวิธีแบบธรรมชาติกันดูดีกว่าค่ะ พืชพรรณธรรมชาติหลายอย่างก็ช่วยดูแลผิวของเราจากปัญหาร่องรอยเหล่านี้ได้เช่นกัน ทั้งยังไม่เป็นอันตรายกับผิวของเราด้วย
1. มะละกอ ใช้เปลือกมะละกอสุกฝานบาง ๆ วางด้านที่ติดเนื้อแนบกับผิวหน้าบริเวณที่มีรอยด่างคล้ำ ทิ้งไว้ 15-20 นาที ทำทุกวัน วันละครั้ง
2. ว่านหางจระเข้ ใช้น้ำคั้นจากต้นว่านหางจระเข้ทาบาง ๆ บริเวณที่เป็นวันละสองครั้ง
3. ถั่วลูกไก่ ใช้ถั่วลูกไก่บด 1/3 ถ้วย ผสมน้ำเล็กน้อยพอข้น พอกทิ้งไว้บริเวณที่มีจุดด่างดำ เมื้อแห้งแล้วจึงล้างออก
4. หอมหัวใหญ่และกระเทียม ใช้น้ำที่คั้นจากหอมใหญ่และกระเทียมแต้มบริเวณที่เป้น หรืออาจฝานเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วแปะทิ้งไว้ก็ได้ กรดจากหอมใหญ่และกระเทียมจะช่วยลดรอยด่างคล้ำได้ภายในเวลา 2 เดือน หากทำอย่างสม่ำเสมอ
5. แตงกวา ใช้น้ำที่คั้นจากแตงกวาทาบริเวณที่เป็น จะช่วยให้จุดด่างนั้นดูจางลง ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังการทำ
6. น้ำส้มสดและน้ำส้มสายชูจากแอปเปิ้ล ผสมน้ำส้ม 1 ช้อนชาเข้ากับน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล 2 ช้อนชา นวดวนเบา ๆ บริเวณที่มีจุดด่างดำ
7. หญ้าแห้วหมู จากการค้นคว้าทางวิทยาศาตร์พบว่า สารที่มีในรากของหญ้าแห้วหมูมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการผลิตเม็ดสีของเมลานินได้มากถึง 40% จึงช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้ โดยใช้รากของหญ้าแห้วหมูตำบดคั้นแต่น้ำทาบริเวณที่เป็น หรือจะใช้พอกทิ้งไว้ก็ได้
เห็นไหมคะว่ายังมีพืชพรรณธรรมชาติมากมายที่ช่วยลดเลือนรอยด่างคล้ำแห่งวัยอันเกิดจากแสงแดดพวกนี้ได้ แถมยังไม่มีผลข้างเคียงให้ต้องวิตกอีกด้วย ใครที่กำลังตัดสินใจเลือกวิธีลดเลือนรอยด่างคล้ำที่เห็นผลรวดเร็ว ลองหันมาใช้วิธีธรรมชาติเหล่านี้ดูก่อนก็ไม่เลวนะคะ แต่อย่าลืมว่าต้องใจเย็นและทำอย่างสม่ำเสมอ อาจจะเห็นผลช้า แต่ว่าทำได้ง่ายแล้วก็ปลอดภัยแน่นอนค่ะ
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
