คลาไมเดีย เชื้อแบคทีเรียที่ซ่อนตัวในจุดซ่อนเร้น (Lisa)
เชื้อโรคร้ายที่ทำให้ผู้หญิงหลายต่อหลายคนต้องประสบกับภาวะเป็นหมัน
คลาไนเดียหนึ่งในเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ทั้งนี้เนื่องจากเชื้อดังกล่าวสามารถรุกล้ำเข้าไปทำลายท่อนำไข่ แล้วก่อให้เกิดการอักเสบ ส่งผลให้ผนังของท่อนำไข่มีรอยแผลขรุขระยากต่อการปฏิสนธิระหว่างเซลล์ไข่ของฝ่ายหญิงกับเชื้ออสุจิของฝ่ายชาย นอกจากนี้แพทย์และนักวิชาการหลายคนก็ยังเชื่อมั่นว่าเชื้อโรคดังกล่าวเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งที่ปากมดลูกเชื้อคลาไนเดียคืออะไร
คลาไมเดียคือเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กมากสามารถดำรงชีพและเจริญเติบโตแพร่ขยายจำนวนได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในบริเวณเซลล์สืบพันธุ์ของมนุษย์ เชื้อชนิดนี้สามารถที่จะติดต่อถึงกันได้ด้วยการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อดังกล่าว ถ้าหากยิ่งฝักใฝ่กับกิจกรรมทางเพศและมีการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ความเสี่ยงต่อโรคจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นด้วยเหตุนี้บุคคลที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ตั้งแต่ 15-25 ปี จึงมีอัตราความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อคลาไมเดีย ยิ่งไปกว่านั้นยังพบเชื้อนี้ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 6 เท่า ทั้งนี้เนื่องมาจากโครงสร้างทางอวัยวะเพศของผู้หญิงมีความอ่อนบางและสลับซับซ้อนจึงทำให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรคเชื้อโรคนี้มีความร้ายกาจขนาดไหน
เนื่องจากลักษณะอาการที่แสดงออกภายนอกของผู้ที่ได้รับเชื้อดังกล่าวค่อนข้างจะไม่รุนแรงและไม่ชัดเจน เว้นเสียแต่จะได้รับการตรวจเลือดด้วยเหตุนี้ผู้ที่ได้รับเชื้อคลาไมเดียหลายรายกว่าจะรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคจากเชื้อนี้เชื้อก็แพร่กระจายไปจนเกิดการอักเสบของมดลูกหรือท่อรังไข่แล้ว ผลที่ตามมาจากการอักเสบก็คือทำให้เกิดภาวะเป็นหมันขึ้น ซึ่งเชื้อชนิดนี้ไม่เพียงเป็นอันตรายต่ออวัยวะเพศภายในของเพศหญิงเท่านั้น แต่ยังสามารถแพร่เข้าไปทำลายภายในอวัยวะเพศของเพศชายได้อีกด้วยโดยเฉพาะที่ถุงน้ำอสุจิจึงส่งผลให้เกิดภาวะเป็นหมันในฝ่ายชายได้เช่นกันจะทราบได้อย่างไรว่าเชื้อโรคนี้เล่นงานเราอยู่
ผู้ป่วยหลายรายปล่อยให้เชื้อเจริญเติบโตอยู่ในร่างกายของตนอยู่นานเป็นแรมปีด้วยเหตุเพราะไม่ใส่ใจดูแลตัวเองเท่าที่ควร จึงทำให้ไม่ทันได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากเชื้อดังกล่าว ซึ่งลักษณะอาการที่บ่งบอกว่าเชื้อนี้กำลังเล่นงานคุณอยู่ก็คือจะมีอาการคันภายในช่องคลอด ตกขาวมีสีคล้ายหนอง และมีกลิ่นเหม็น ปวดแสบเวลาถ่ายปัสสาวะและในขณะมีเพศสัมพันธ์ ทั้งยังมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย ส่วนในเพศชายก็จะมีอาการปวดบริเวณลูกอัณฑะจริงหรือที่ว่าเชื้อคลาไมเดียเป็นหนึ่งในสาเหตุซึ่งทำให้เกิดโรคมะเร็ง
จากการศึกษาวิจัยล่าสุดพบว่าเชื้อดังกล่าวสามารถทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งที่ปากมดลูกเพิ่มสูงขึ้นนักวิชาการชาวฟินแลนด์ได้ให้คำยืนยันต่อข้อเท็จจริงนี้จากผลการตรวจเลือดผู้หญิงเป็นจำนวน 530,000 คนที่มีเชื้อคลาไมเดียอยู่ในตัว มีแนวโน้มจะป่วยเป็นมะเร็งที่อวัยวะสืบพันธุ์มากกว่าผู้หญิงที่ปลอดเชื้อถึง 2 เท่าหากได้รับเชื้อนี้ในระหว่างตั้งครรภ์ เชื้อดังกล่าวจะก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกได้หรือไม่
ขึ้นอยู่กับว่าเชื้อนั้นแพร่กระจายไปถึงไหน ซึ่งหากตรวจพบและรีบทำการรักษาให้หายขาดเสียก่อนที่เชื้อจะลุกลามไป โอกาสที่ทารกจะได้รับอันตรายจากเชื้อดังกล่าวก็ลดน้อยลง อย่างมากทารกที่คลอดออกมาก็เป็นแค่แผลพุพองตามผิวหนังซึ่งสามารถจะรักษาให้หายได้ อย่างไรก็ตาม 1 ใน 5 ของทารกที่มารดาติดเชื้อนี้มีโอกาสที่เชื้อจะลุกลามเข้าสู่ปอด ทำให้การรักษายากลำบากยิ่งขึ้นวิธีใดที่จะปกป้องตัวเองจากการติดเชื้อคลาไมเดีย
เนื่องจากเชื้อดังกล่าวจะติดต่อถึงกันได้ก็ต่อเมื่อมีการร่วมเพศ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดที่จะปกป้องตัวเองให้ปลอดภัยจากเชื้อดังกล่าวก็คือ ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้เพื่อความมั่นใจว่าคุณและคู่นอนของคุณปลอดจากเชื้อคลาไมเดีย หรือเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ร้ายแรงชนิดอื่นๆ คุณทั้งคู่ควรจะได้รับการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะและตรวจภายใน
หากผลการตรวจออกมาแล้วบ่งชี้ว่า ตัวคุณมีเชื้อคลาไมเดียซ่อนอยู่ ก็อย่านิ่งนอนใจควรรีบปรึกษาแพทย์และควรจะปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งยิ่งรีบรักษาให้หายขาดจากเชื้อคลาไมเดียได้อย่างรวดเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อชีวิตและสุขภาพมากเท่านั้นเพราะจะช่วยสกัดกั้นไม่ให้เชื้อโรคดังกล่าวลุกลามและเรื้อรังจนยากที่จะให้การเยียวยารักษาในภายหลัง
เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
No.32 วันที่ พฤษภาคม 2544
