Glossy Jello Skin เทรนด์ความงามที่สาว ๆ กำลังอิน เป็นการดูแลผิวให้ดูสุขภาพดี นุ่มเด้งเหมือนเยลลี่ เทรนด์นี้มาจากไหน และต้องทำยังไงผิวถึงฉ่ำวาว ตามมาดูกัน
เทรนด์ความงามนอกจากจะมีเรื่องของการแต่งหน้าแล้ว การดูแลผิวก็สำคัญและเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าผิวสุขภาพดียังคงเป็นเทรนด์ที่อินอยู่เสมอ แต่ช่วงนี้มีกระแสที่มาแรงก็คือ Glossy Jello Skin นั่นคือผิวนุ่มเด้ง ฉ่ำวาวเหมือนเยลลี่ ใครอยากอินเทรนด์ตามมาส่องกันเลย
Glossy Jello Skin คืออะไร
คำว่า Glossy Jello Skin (หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Jello Skin) มาจากแนวคิดว่าผิวควรดู "ยืดหยุ่น เด้ง เหมือนไขเยลลี่" หรืออีกนัยหนึ่งคือ ผิวที่ชุ่มชื้น ฟู และเด้งกลับทันทีเมื่อสัมผัส ซึ่งเทรนด์นี้เริ่มฮิตมาจากเกาหลี โดยอินฟลูเอนเซอร์ที่ชื่อว่า Ava Lee (@glowwithava) โชว์ให้เห็นว่า เมื่อกดแถวแก้ม ผิวดู "เด้งคืนทันที เหมือนไขเยลลี่" จึงกลายเป็นไวรัล และทำให้สาว ๆ อยากมีผิวแบบนี้
จุดเด่นและข้อดีของ Glossy Jello Skin
พอมีเทรนด์นี้เกิดขึ้น สาว ๆ อยากรู้ไหมว่าข้อดีของ Glossy Jello Skin คืออะไร และมีจุดเด่นยังไง ตามมาดูกันค่ะ
- ดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ - เพราะผิวที่เด้งและมีความยืดหยุ่นจะดูสดใส มีชีวิตชีวา เหมาะกับคนทุกวัย
- โฟกัสที่ความชุ่มชื้น ไม่ใช่แค่ความแวววาว - ต่างจาก Glass Skin ที่เน้นให้ผิวดูสว่างเงา หรือ Butter Skin ที่เน้นนุ่มนวล เพราะ Jello Skin เน้น "ความยืดหยุ่นที่รู้สึกได้" คล้ายเยลลี่ ไม่มันหรือเหนียวเกินไป
- วิธีดูแลแบบภาพรวม (Holistic) - ไม่ใช่แค่ทาผลิตภัณฑ์แค่ชิ้นเดียว แต่รวมถึงการดูแลตัวเองทั้งภายในและภายนอก เช่น อาหาร นอนหลับ พักผ่อน และใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
- ง่ายต่อการเข้าใจและนำไปใช้จริง - ผิวเด้งเหมือนไขเยลลี่ ฟังแล้วเข้าใจง่าย และเป็นภาพที่ทุกคนเชื่อมโยงได้ทันที
วิธีดูแลผิวให้มีผลลัพธ์แบบ Glossy Jello Skin
ถ้าอยากมีผิวเด้งแบบเยลลี่ สามารถดูแลตัวเองได้ทั้งภายในและภายนอก ดังนี้
1. ไลฟ์สไตล์ที่สนับสนุนผิวเด้ง ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ผิวสวยขึ้น
- อาหาร - เลือกกินอาหารที่มีโปรตีนและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน A, C, E, น้ำมะเขือเทศ ผลไม้เปลือกหนา และไขมันดี เช่น อะโวคาโด น้ำมันปลา
- เติมน้ำให้เพียงพอ - การดื่มน้ำช่วยให้ผิวไม่แห้งและมีความชุ่มชื้นจากภายใน
- พักผ่อนให้เต็มที่ - อย่างน้อยคืนละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น ลดความเครียด
- ออกกำลังกายและนวดหน้า - เนื่องจากการไหลเวียนเลือดที่ดีช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น และการนวดหน้าช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว
2. สกินแคร์ที่ช่วยบำรุงผิวให้เด้ง เลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมต่อไปนี้
- Hyaluronic Acid - ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวอิ่มน้ำ ฟู ดูเด้งขึ้น
- Peptides / Snail Mucin / Beta-Glucan / Tremella Extract / Polyglutamic Acid - ส่วนผสมเหล่านี้ช่วยส่งเสริมคอลลาเจนและความยืดหยุ่นในผิวได้ดี
- วิตามิน C และ Adenosine - ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และทำให้ผิวเรียบเนียน นุ่มขึ้น
- Squalane และ Ceramides - ช่วยเสริมชั้นปกป้องผิว ไม่ให้ความชุ่มชื้นระเหยไปง่าย และทำให้ผิวดูนุ่มนวล
- ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงทุกวัน - เพราะรังสี UV ทำลายคอลลาเจน ผิวจะหยาบกร้านและลดความยืดหยุ่น ควรใช้กันแดดอย่างน้อย SPF30
3. จำง่าย ๆ ตามแนวคิด J.E.L.L.O.
ลองปรับแนวคิดแบบ J.E.L.L.O. เพื่อให้จดจำง่ายว่า Jello Skin ไม่ใช่ผลลัพธ์ฉาบฉวย แต่คือผลลัพธ์จากพฤติกรรมที่สม่ำเสมอ
- J – Journey : เป็นกระบวนการ อย่าคาดหวังเปลี่ยนในวันเดียว
- E – Eat balanced meals : อาหารที่หลากหลาย เลี่ยงของแปรรูป
- L – Lifestyle beyond skincare : ไลฟ์สไตล์ดี ๆ ช่วยดูแลผิวได้ดีกว่าสกินแคร์ เช่น การพักผ่อน การนวดหน้า การออกกำลังกาย
- L – Laugh : การยิ้ม หัวเราะ ส่งเสริมการไหลเวียนเลือด
- O – Old is not bad : ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ใส่ใจผิวสุขภาพดี ไม่ใช่แค่ลบริ้วรอย
สรุปง่าย ๆ ก็คือ Glossy Jello Skin เป็นการดูแลผิวอย่างรอบด้านทั้งจากภายในและภายนอก ส่งผลให้ผิวนุ่มเด้งเหมือนเยลลี่ ใครที่อยากผิวสวยแบบนี้ ลองนำเทคนิคไปปรับใช้กันได้นะคะ
