x close

การดูแลผิวในแต่ละช่วงวัย


การดูแลผิวในแต่ละช่วงวัย (Lisa)

          ผู้หญิงสวยทุกวัยแต่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องยังดูอ่อนเยาว์เหมือนเมื่อ 10 ปีก่อนถึงจะสวยแต่ละวัยมีเสน่ห์เฉพาะตัวตามวัยที่มากขึ้นในแง่ของเวลาและโอกาสที่จะสวยต่างจากที่ผ่านมา

          ผู้หญิงที่อาการเธอดูดีไม่มีตก เธอแต่งตัวและลงเมกอัพ "ตามวัย ตามสมัย" อย่าพยายามแต่งหน้าหรือดูแลผิวเมื่อครั้งที่ยังวิ่งไล่ระฆังโรงเรียน ทั้งที่เวลาได้ก้าวผ่านมาแล้ว นั้นจะทำให้คุณดูล้าสมัย

          สภาพผิวแต่ละวัยต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ค่อนข้างแตกต่าง โลชั่นที่เคยกระชับผิวคุณเมื่ออายุ 18 ปี อาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ทำลายผิวเมื่ออายุ 40 ฉะนั้นไม่เพียงต้องเลือกเมกอัพและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว “ตามสมัย”แต่ยังต้องเลือก "ตามวัย" ด้วย

ผิวในวัย 20

          อาการสิวโหดช่วงวัยรุ่นลดไปเยอะ ความแข็งแรงของร่างกายและความเปล่งปลั่งของผิวยังคงเต็มร้อยไปจนถึงอายุประมาณ 25 ปี จึงเริ่มถอย ผิวยังคงแน่นกระชับ ริ้วรอยที่เกิดจากการยิ้ม หัวเราะและแสดงสีหน้าอาการยังไม่ปรากฏ แต่ถ้าคุณเป็นสาวนิ้วคีบบุหรี่ ทำงานควงกะ ควบปาร์ตี้ และนอนน้อย หรือเครียดไปได้ทุกเรื่องผิวจะเริ่มแสดงริ้วรอยแห่งวัย

          ช่วงปลายของวัย 20 ผิวอาจไม่เนียนอย่างที่เคยเนื่องจากการผลิตเซลล์ผิวใหม่ที่เคยอยู่ในรอบ 28 วัน เริ่มจะทำงานช้าลงไปเล็กน้อย

          ดูแลผิว : ผิวอาจไม่ผลิตน้ำมันมากเช่นสมัยวันรุ่นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวที่เคยใช้เมื่ออายุ 16 ปีอาจไม่เหมาะกับผิววัยนี้ หลังใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นสังเกตดูว่าผิวแห้งไป เหนอะหนะไปหรือเปล่า และปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ตามสภาพผิว

          มีหลายสิ่งที่คุณควรเริ่มลงมือปฏิบัติให้เป็นนิสัยต่อวัยนี้จะเอื้อให้ผิวดูอ่อนเยาว์

          ควรทาครีมกันแดดค่า SPF 15 หรือว่า SPF ที่สูงกว่านี้ทุกวัน ทั้งนี้รังสีแดดที่ทำลายดีเอ็นเอของผิวคุณให้วัยนี้ จะยังไม่แสดงผลใดๆ จนกระทั่งคุณอยู่ในวัย 40 ผิวที่ถูกแดดอย่างน้อยแค่วันละ 3 นาที ก็เพียงพอต่อการสร้างเสริมวิตามินดีให้กระดูกแข็งแรง

          สวมแว่นตากันแดดเมื่อออกข้างนอก จะช่วยปกป้องผิวรอบดวงตาและเยื่อตาจากรังสียูวี ป้องกันการหยีตาสู้แสงอันก่อให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา

          รับประทานผักและผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินต้านอนุมูลอิสระทุกมื้อ ทานอาหารแทนของหวานประเภทน้ำตาลหรือแป้งมากๆ ไม่ต่างอะไรกับการกระตุ้นภาวะอักเสบกับเซลล์ พอๆ กับการกระตุ้นกระบวนการเข้าสู่วัยชรา

          การใช้ครีมต่อต้านริ้วรอยอาจจะยังไม่จำเป็นในระยะนี้ (ยกเว้นคุณจะออกแดดโดยไม่ปกป้องผิวในช่วงวัยเด็ก) แต่ถึงใช้ก็คงไม่เสียหายอะไร เพียงมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวโดยเพียงพอ 

          เมกอัพ : คุณสนุกกับเมกอัพได้เต็มที่ ลองเลือกโทนสีคอลเล็กชั่นใหม่แล้วแต่งหน้าตามนางแบบบนแคตวอล์กหรือตามแม็กกาซีนได้เลย เป็นช่วงที่จะแต่งให้ดูเปรี้ยวปรี๊ดก็ไม่น่าเกลียด จะแต่งให้สมาร์ตสง่าก็ได้

          ผิวยังคงชุ่มชื่นและปราศจากริ้วรอย ทำให้แต่งหน้าสไตล์เนียนด้าน (Matte) หรือมีประกายก็ดูดี และในบางวันคุณอาจไม่ลงเมกอัพ เพียงปัดมาสคาร่าและเติมลิปกลอสก็จะดูสดใสไปอีกแบบ ยังไม่เหมาะที่จะใช้ดินสอเขียนคิ้ว รองพื้นก็ควรเลือกสูตรที่ปราศจากน้ำมันและลงเฉพาะจุดที่มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ การใช้ดินสอเขียนขอบปากก็ยังไม่จำเป็น

ผิวในวัย 30

          สภาพผิวเริ่มขาดความชุ่มชื่น ผิวขาดประกายของความเปล่งปลั่งที่เคยมี และทำให้ดูหมอง ผู้หญิงรู้สึกได้เลยว่าความสดใสในผิวหายไป คอลาเจนและอีลาสตินในผิวเริ่มสูญเสียความกระชับแน่น ขณะคุณยิ้ม ขมวดคิ้วหรือแสดงสีหน้า ไขมันในชั้นผิวล่างถูกผลักให้เกิดเป็นร่อง และเริ่มไม่คืนตัวเรียบเนียนเช่นที่ผ่านมาริ้วรอยแห่งวัยเริ่มปรากฏ

          ดูแลผิว : ถึงวัยที่ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยและกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิว เพื่อเรียกความสดใสของผิวที่หายไป อาจเลือกครีมที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA, เรตินอลหรือเซรั่มวิตามินซีบริสุทธิ์

          แต่ที่สำคัญและได้ผลมากที่สุดยังคงเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดค่า SPF สูงๆ ในทุกวัน

          ผู้หญิงในวัย 30 ส่วนหนึ่งประสบปัญหาเส้นผมบางลงอาจไม่เด่นชัด  เนื่องจากไม่ได้เริ่มบางจากบริเวณไรผม เช่น ผู้ชาย แต่จะบางลงในลักษะทั่วๆ เสมอกันทั้งศรีษะ หรือเฉพาะบริเวณกลางกระหม่อม ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากพันธุกรรม มากกว่าจะเกิดจากภาวะโลหิตจางหรือการทำงานที่ผิดปกติของต่อมไทรอยด์ อาจเลือกนวดศรีษะด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมของ “Minoxidil” (สอบถามผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารดังกล่าวที่แพทย์ผิวหนังหรือร้านขายยา) มีโอกาสที่เส้นผมจะเติบโตกลับขึ้นสูงถึง 30-50 เปอร์เซ็น แต่โอกาสที่ผมจะไม่ร่วงเพิ่มขึ้นสูงถึง 80 เปอร์เซ็น

          เมกอัพ : ถึงเวลาที่จะมองหารองพื้นเนื้อบางเบา ที่จะช่วยเกลี่ยสีผิวให้ดูสดใสขึ้น และลงแป้งฝุ่นสีเดียวกับผิวคุณทับ เลี่ยงรองพื้นที่หนา คุณจะดูเป็นผู้หญิงล้าสมัยเลือกที่ปัดคิ้วในรูปฝุ่นช่วยเขียนคิ้วให้ได้รูป จะดูเป็นธรรมชาติกว่าการใช้ดินสอเขียนคิ้ว

          อาจจะเขียนอายไลเนอร์ชิดขอบตาบนและตวัดหางอายไลเนอร์เชิดขึ้นที่หางตา ดวงหน้าก็จะดูสดใส ถ้าต้องการริมฝีปากเซ็กซี่ อย่าลืมใช้ดินสอเขียนขอบปากวาดเส้นขอบปากก่อนทาลิปสติก การปัดมาสคาร่าสีน้ำเงิน จะช่วยให้ผิวที่ซีดเหลืองดูสดใสขึ้น

          และสุดท้าย วิธีการปกป้องผิวให้ห่างไกลและปลอดภัยจากริ้วรอยได้มากที่สุดคือ อย่าขี้เกียจล้างเมกอัพก่อนนอนอย่างเด็ดขาด และควรฝึกเข้านอนก่อนเที่ยงคืน เพราะผิวจะซ่อมแซมตัวเองได้ดีที่สุดในช่วงตีหนึ่ง ขณะนั้นคุณจึงควรหลับแล้ว คุณอาจเคยหลับตีสอง ทั้งเมกอัพเต็มหน้าโดยที่ผิวไม่ป่วย แต่คงไม่ใช้ในวัยนี้แน่นอน

ผิวในวัย 40 

          ยังไงก็คงเลี่ยงริ้วรอยไม่ได้  แต่ถ้าคุณทาครีมกันแดดปกป้องผิวทุกวันตั้งแต่เพิ่งเข้าวัยรุ่นสภาพผิวจะยังคงนุ่มนวลไม่หยาบกร้านและดูอ่อนเยาว์กว่าคนที่มีนิสัยขยันออกแดดและไม่เคยปกป้องผิวด้วยวิธีใดๆ

          ที่เด่นชัดจนสังเกตได้ คือผิวจะแห้งลง ผู้ที่เคยมีผิวมันอาจรู้สึกดี แต่ผู้ที่มีผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง จะต้องการมอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื่นสูง การทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสออยล์ น้ำมันดอกทานตะวัน หรือการรับประทานปลาทะเลที่ให้กรดไขมันสูงอย่างปลาแซลมอนอาทิตย์ละ 3 ครั้ง จะช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำมันที่เป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณ

          เฉลี่ยแล้วผู้หญิงจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ช่วง 47-51 ปี  ช่วงนี้ร่างกายจะลดการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนลง ทำให้ผิวสังเคราะห์คอลลาเจนน้อยลง ผู้หญิงจะรู้สึกได้เลยว่าสถาพผิวเปลี่ยนแปลงไป ผิวเริ่มบางลง เซลล์ผิวไม่นุ่มแน่น เห็นริ้วรอย ผิวช่วงแก้มและขากรรไกรอาจเริ่มหย่อน


          Dr.Erwin Tschachler นักวิทยาศาสตร์และผู้อำนวยการประจำสถาบันวิจัย CERLES ของชาแนล พบว่า ก่อนที่ผู้หญิงจะเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน จะมีน้ำหนักมากขึ้นจะช่วยหนุนผิวไม่ให้หย่อนล้าและดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่พอถึงวันหมดประจำเดีอน การมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกลับไม่ส่งผลดีต่อผิวเช่นนั้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไม

          ดูแลผิว : การใช้ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยควบคู่กับมอยเจอไรเซอร์ความชุ่มชื่นสูงและครีมกันแดด จะช่วยให้ผิวยังคงดูดี 

          แต่ถ้าหากคุณต้องการย้อนวัยของผิวอย่างเห็นได้ชัดอาจต้องการลอกผิวที่ต้องกระทำโดยแพทย์ เช่น การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยบริเวณช่วงหัวคิ้วและอาศัยการฉีดคอลาเจนหรือไฮยะลูโรนิก แอซิด เจล เพื่อช่วยเติมร่องริ้วรอยลึกๆ ให้เต็มตื้นเนียนเรียบขึ้น

          ในวัย 40 ปี ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงของเส้นผมและเล็บให้ต้องกังวลมากนัก อาจมีปัญหาผมบางลงในผู้หญิงที่สูบบุหรี่หรือมีแนวโน้มทางกรรมพันธุ์ แต่ถ้าคุณเกิดผมบางลงผิดสังเกต หรือมีขนขึ้นผิดสังเกต อาจต้องพบแพทย์เพื่อตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์และระดับฮอร์โมนเพศชาย

          เมกอัพ : มักมีปัญหาริ้วรอยและผิวดูซีดลง เลือกรองพื้นชนิดครีมเนื้อบางและให้ความชุ่มชื่นผิว อาจทดลองรองพื้นที่ใช้เทคโนโลยีด้านแสงตกกระทบเพื่อลดปัญหาเหล่านี้ 

          สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึง อยู่ที่อย่าลงสีสันให้จัดจ้าน จะยิ่งให้ดูแก่และควรเลี่ยงอายแชโดว์หรือบลัชออนประเภทให้ประกายระยิบระยับมากๆ อย่างสาวรุ่นชอบปัด เพราะจะยิ่งไปเน้นริ้วรอยที่ผิวและเปลือกตาให้เด่นชัดแต่ถ้าเป็นประเภทผสมอณูประกายมุกละเอียดมากๆ ก็จะช่วยให้ผิวทุกวัยผ่องขึ้น


ผิวในวัย 50 

          ถึงวัยนี้คอลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยพยุงโครงสร้างผิวลดลงอย่างมาก ผิวบางลง และแห้ง ริ้วรอยเห็นเด่นชัดผิวบริเวณกรามและคางหย่อนล้า เซลล์เม็ดสี ผลิตเม็ดสีออกมาปกป้องผิวน้อยลง ผิวต้องการการปกป้องจากแสงแดดและมลภาวะมากขึ้น ผลกระทบจากรังสีแดดที่เข้าทำลายเซลล์ผิวในอดีตจะเริ่มปรากฏให้เห็นในรูปของกระและจุดด่างดำหนาแน่นมากขึ้น

          ดูแลผิว : ผิวยังต้องการครีมกันแดดและมอยส์เจอไรเซอร์ที่จะช่วยรักษาความชุ่มชื่น การใช่ผลิตภัณฑ์ประเภทต่อต้านริ้วรอยที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ เรตินอลหรือกรดผลไม้ ยังคงเอื้อประโยชน์ต่อผิว เครื่องสำอางบางยี่ห้ออย่างกีโน่ต์ มีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในวัยหมดประจำเดือนออกจำหน่าย

          แต่ถ้าต้องการเห็นผลที่เด่นชัด อาจต้องลอกผิวด้วยเลเซอร์ ผิวที่มีปัญหาริ้วรอยลึกๆ และหย่อนล้ามาก คงต้องอาศัยการทำศัลยกรรมพลาสติก การเข้ารับการบำบัดด้วยฮอร์โมนหลังจากหมดประจำเดือน ไม่เพียงช่วยด้วยสุขภาพทั่วไป สภาพผิวและเส้นผมก็ดูดีขึ้นด้วย แต่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าจะคุ้มไหมกับโอกาสเสี่ยงต่อมะเร็งทรวงอกที่เพิ่มขึ้น อันเป็นผลข้างเคียงต่อการใช้ฮอร์โมน

          การทำสีผิวและซอยผมเก๋ๆ จะช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ปรึกษาช่างที่ชำนาญเพื่อหาเฉดสีที่จะช่วยส่งน้ำนวลผิว การทำสียังช่วยให้ผมที่บางลงตามวัยดูเข้าทรงขึ้นไม่ควรตัดผมให้เป็นแนวเส้นเรขาคณิตระดับคางควรซอยไล่ให้สั้นกว่าระดับคาง

          เมกอัพ : ผู้หญิงเมื่ออายุมากขึ้น ริมฝีปากจะบางลงและมีริ้วรอยรอบขอบปาก ควรเลี่ยงการใช้ลิปกลอส เนื้อกลอสจะซึมออกตามร่องปาก ให้ใช้ลิปสติกที่ผสมมอยส์เจอไรเซอร์ เนื้อครีม และลงดินสอเขียนขอบปากที่ไกล้เคียงกับริมฝีปากก่อนลงลิปสติก จะช่วยกันเนื้อลิปติกซึมและควรหลีกเลี้ยงลิปสติกสีเข้ม เพราะจะยิ่งทำให้ริมฝีปากดูเล็กบางลงไป เลือกเฉดสีกลางๆ ออกชมพู หรืออมม่วงอ่อนๆ จะทำให้ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติ และเหมาะกับวัยที่งามอย่างภูมิฐานมากขึ้น 

          ไม่ควรลงอายแชโดว์สีเข้มทึบๆ เลือกปัดสีกลางๆ ถึงสีอ่อน ดวงหน้าจะดูสว่างกว่า เขียนขอบตาเฉพาะขอบตาบนด้วยอายไลเนอร์ชนิดฝุ่น (ใช้พู่กันเขียน) แทนการใช้ดินสอเขียนขอบตาเนื่องจากผิวขอบตาค่อนข้างแห้งมากอย่าลืมใช้ดินสอหรือที่เขียนคิ้วชนิดฝุ่นเขียนคิ้วที่เริ่มจะบางลงตามธรรมชาติให้ได้รูปมากขึ้น





เรื่องราวผู้หญิง ความสวยงาม แฟชั่น ความรัก มากมาย คลิกเลย

คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

 

 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
การดูแลผิวในแต่ละช่วงวัย อัปเดตล่าสุด 21 ตุลาคม 2552 เวลา 11:07:12 3,350 อ่าน
TOP