เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เสื้อผ้าชิ้นไหนกันนะที่ผู้หญิงทุกคนต้องใช้และต้องใส่ทุกวัน ไม่เว้นวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยนะ? .. คำตอบก็คือ "เสื้อชั้นใน" ยังไงล่ะคะ สาวใดไม่ใส่เสื้อชั้นในคงรู้สึกยวบยาบย้วย ๆ หยุ่น ๆ ยังไงบอกไม่ถูก มันกลายเป็นหนึ่งในบรรดาเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ผู้หญิงช้อปปิ้งกันบ่อยที่สุด แต่การซื้อเสื้อชั้นในที่ถูกใจและใส่ดีสักตัวก็ต้องใส่ใจกันหน่อย วันนี้เราเลยขอแชร์เคล็ดลับการช้อปปิ้งเสื้อชั้นในดี ๆ มาฝากสาว ๆ กันค่ะ
Do : วัดขนาดหน้าอกตัวเองก่อนออกจากบ้าน คุณผู้หญิงหลายคนอาจรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ หากว่ามีคนอื่นมาวัดรอบตัวและรอบอกให้ แถมส่วนใหญ่ก็มักวัดกันโต้ง ๆ ตรงบริเวณเคาน์เตอร์ที่ขายเสื้อชั้นในเลยเสียด้วยสิ ถ้ามีลูกค้าคนอื่นเยอะ ๆ ต่อให้เป็นผู้หญิงเหมือนกันก็อดรู้สึกอายไม่ได้ หากเป็นอย่างนี้คุณอาจจะสะดวกใจกว่าถ้าได้วัดขนาดหน้าอกของตัวเองจากที่บ้านมาค่ะ คว้าสายวัดแล้วลงมือกันเลย
วัดครั้งแรกคือการวัดรอบตัวของคุณ โดยทาบสายวัดพันไปรอบตัวบริเวณใต้อก ค่าที่ได้มักอยู่ประมาณ 32-44 นิ้ว (หรืออาจมากกว่านั้น) ค่าตัวนี้คือตัวเลขบอกขนาดรอบตัวของเสื้อชั้นในนั่นเอง
เมื่อวัดรอบตัวแล้วก็มาวัดรอบอกกันต่อ โดยทาบสายวัดไปรอบอกให้ผ่านยอดอกซึ่งเป็นจุดที่นูนที่สุดของหน้าอก นำตัวเลขที่วัดได้ ไปหักลบกับค่ารอบอก ก็จะได้ขนาดคัพของหน้าอกคุณ
ขนาดรอบอกมากกว่ารอบตัว 1 นิ้ว คือคัพ A ขนาดรอบอกมากกว่ารอบตัว 1-2 นิ้ว คือคัพ B ขนาดรอบอกมากกว่ารอบตัว 2-3 นิ้ว คือคัพ C ขนาดรอบอกมากกว่ารอบตัว 3-4 นิ้ว คือคัพ D ขนาดรอบอกมากกว่ารอบตัว 4-5 นิ้ว คือคัพ Eเมื่อได้ขนาดคัพและขนาดรอบตัวแล้ว ก็จะเลือกซื้อเสื้อชั้นในได้ง่ายขึ้น อย่างสาวที่วัดขนาดรอบตัวได้ 34 มีรอบอกมากกว่ารอบตัวอยู่เกือบ 2 นิ้ว ขนาดเสื้อชั้นในที่ควรหยิบมาลองก็จะอยู่ที่ B34 นั่นเองค่ะ
Don\'t : ไม่ซื้อเสื้อชั้นในเพียงเพราะลายน่ารักเสื้อชั้นในลายน่ารัก ๆ แต่งลูกไม้หวาน ๆ อาจยั่วยวนให้คุณควักเงินจ่ายแล้วพามันกลับบ้านมาด้วย หากคุณมีงบประมาณแบบจ่ายได้ไม่อั้นนี่ก็อาจไม่ใช่ปัญหา แต่หากว่าคุณมีงบประมาณจำกัด ต้องตั้งสติจากตัดความอยากได้เสื้อชั้นในลายสวย ๆ ไว้ก่อน อย่าลืมนึกไว้ว่าเสื้อชั้นในที่คุณเลือกไปจะต้องไปใส่มันไว้ได้ทั้งภายใต้เสื้อยืดสีขาว เสื้อเชิ้ต เสื้อใส่ไปทำงาน ใส่เที่ยว ใส่ทางการ ฯลฯ โดยที่ตัวมันเองจะต้องไม่เด่นสะดุดตามากเกินไป แบบลูกไม้หรือมีลวดลายจัดจึงอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีนักสำหรับกรณีนี้ค่ะ
Do : หยิบเสื้อชั้นในหลาย ๆ สไตล์ ในไซส์ของคุณเข้าไปลองในคราวเดียวกัน เมื่อจะเข้าห้องลองเสื้อเพื่อลองใส่ดูว่าเสื้อชั้นในที่คุณเลือกเอาไว้จะพอดีกับตัวคุณหรือไม่ ก็ขอให้คว้าเสื้อชั้นในสไตล์อื่น ๆ ที่เป็นไซส์เดียวกันเข้าไปลองด้วย เช่น แบบเต็มคัพ แบบครึ่งเต้า แบบเกาะอก แบบสายเล็กหรือสายใหญ่ ตะขอเดี่ยวหรือตะขอคู่ ฯลฯ เพราะต่อให้เป็นขนาดเดียวกันแต่ต่างสไตล์ ก็สามารถส่งผลถึงความแตกต่างตอนใส่ได้ อย่างเสื้อชั้นในแบบเต็มคัพจะเก็บทรงได้ดีกว่าแบบครึ่งเต้า ที่โอบแค่ 3/4 ของขนาดหน้าอก คุณจะได้ลองหาแบบที่ตัวเองใส่ได้สบายที่สุด หากตัวที่หมายตาไว้แต่แรกใส่แล้วไม่คล่องตัวเท่าไหร่ จะได้รู้ว่าเลือกซื้อแบบไหนแทนยังไงล่ะคะ
Don\'t : การลองเสื้อชั้นไม่ใช่แค่ใส่แล้วก็ถอด การลองเสื้อชั้นในที่ดี ไม่ใช่แค่ลองใส่ หันดูซ้ายขวาหน้าหลังแล้วก็ถอดออกเท่านั้น คุณควรลองใส่มันไว้อย่างน้อย 20 วินาที และไม่ใช่แค่ขยับไปมาซ้ายขวาเท่านั้น ควรลองโน้มตัวลงไปข้างหน้า แล้วมองดูหน้าอกตัวเองในกระจก ว่าเนื้อหน้าอกของคุณปลิ้นออกมานอกเสื้อชั้นในหรือไม่ หากใช่แสดงว่าขนาดคัพเล็กเกินไป หรือไม่สายรัดไหล่ก็ใหญ่หรือกระชับไป
ชูแขนสองข้างเหนือศีรษะเพื่อดูว่าเสื้อชั้นของคุณยังเกาะอยู่ที่หน้าอกดีหรือเปล่า หากมันเลื่อนตามขณะยกมือขึ้นก็แสดงว่าหลวมเกินไปนะคะ และสำหรับสาว ๆ ที่ลองชุดชั้นในแบบมีโครง ให้ขยับตัวดูจนแน่ใจว่าโครงของมันไม่กดหรือทิ่มเข้าไปในเนื้อ ซึ่งจะทำให้ไม่สบายตัวอย่างยิ่ง รวมทั้งบริเวณแถบผ้าของเสื้อชั้นในที่อยู่ระหว่างหน้าอกก็ควรจะแนบไปกับผิวด้วย หากมันลอยขึ้นมาแสดงว่าเสื้อชั้นในตัวนั้นเล็กเกินไปแล้วจ้ะ
Do : เมื่อลองเสื้อชั้นในแล้วให้สวมเสื้อที่คุณใส่มาทับลงไปด้วย อย่าลืมว่าเสื้อชั้นในจะต้องอยู่ภายใต้เสื้อผ้าที่เราสวมใส่ เพราะฉะนั้นหลังจากลองเสื้อชั้นในให้อยู่บนตัวแล้ว ให้สวมเสื้อที่คุณใส่มากลับเข้าไปด้วย เพื่อดูว่ามันช่วยเสริมรูปร่างของคุณให้ดูดีหรือไม่ หากใส่แล้วทำให้คุณดูมีหน้าอกไหลมารวมกันเป็นก้อนเดียว หรือเห็นรอยนูนของเสื้อชั้นในขึ้นมาชัดเจน อย่างนี้ก็คงไม่เวิร์คแน่ จริงไหมคะ
เอาล่ะ ได้ทราบเคล็ดลับการเลือกซื้อชุดชั้นในดี ๆ ไปแล้ว คราวนี้สาว ๆ ก็คงเลือกซื้อบราตัวใหม่ไว้ใส่ได้อย่างถูกใจไร้ปัญหาแล้วล่ะค่ะ
