ลิปสติกยังไม่เปิดใช้มีอายุกี่ปี ? วันนี้เรามีคำตอบมาฝาก พร้อมวิธีสังเกตวันหมดอายุและวิธีดูแลรักษา เพื่อการใช้งานลิปสติกได้คุ้มค่ามากที่สุด
![ลิปสติก]( "ลิปสติก")
ว่าด้วยเรื่องของเครื่องสำอางสำหรับผู้หญิงทุกคน จัดเป็นไอเทมประเภทมีเท่าไรก็ไม่เคยพอ โดยเฉพาะลูกรักอย่าง "ลิปสติก" ที่พอของใหม่ออกมาทีไรก็ต้องตามไปสอยทุกที ทั้ง ๆ ที่แท่งเก่าในคลังนับสิบกว่าแท่งยังใช้ไม่หมดเลย ! ทว่าคุณสาว ๆ รู้ไหมคะว่าลิปสติกนั้นมีวันหมดอายุกับเขาเหมือนกัน มองแค่หน้าตาอาจจะไม่ทันสังเกตเพราะไม่ค่อยเปลี่ยนไป แต่หากเผลอใช้เมื่อไรรับรองเกิดอาการคัน แพ้ และระคายเคืองไม่หยุดแน่นอน วันนี้กระปุกดอทคอมจึงนำวิธีเช็กวันหมดอายุของเครื่องสำอางมาฝาก ก่อนไปตอบสารพัดปัญหาเกี่ยวกับลิปสติกกันต่อไปค่ะ
โดยปกติแล้ว ตัวบรรจุภัณฑ์จะมีการระบุวันผลิต MFG. และวันหมดอายุ EXP. เหมือนสินค้าอื่น ๆ ทั่วไป ไม่อย่างนั้นจะใช้เป็นสัญลักษณ์รูปตัว M พร้อมตัวเลข เพื่อบอกระยะเวลาที่ควรใช้ ยกตัวอย่างเช่น 12M เท่ากับมีอายุการใช้งาน 1 ปี หรือ 24M เท่ากับมีอายุการใช้งาน 2 ปี ส่วนใหญ่วันผลิต วันหมดอายุ และสัญลักษณ์ดังกล่าวจะระบุไว้ที่ตัวกล่องหรือด้ามของลิปสติก แต่หากหาไม่เจอจริง ๆ คุณสาว ๆ สามารถใช้ตัวเลขผลิตภัณฑ์ (Batch Code) เข้าไปเช็กในเว็บไซต์ Checkcosmetics เพื่อตรวจสอบวันผลิตและวันหมดอายุได้เลยทันที
รู้วิธีสังเกตวันหมดอายุกันไปแล้ว คราวนี้มาไขข้อข้องใจที่ทุกคนอยากรู้กันค่ะว่า ลิปสติกที่ยังไม่เปิดใช้มีอายุกี่ปี หากลืมจนหมดอายุแล้วนำไปใช้งานอะไรได้บ้าง พร้อมแนะนำเคล็ดลับวิธีรักษาง่าย ๆ ที่สาว ๆ ไม่ควรพลาดเด็ดขาด !
![ลิปสติก]( "ลิปสติก")
ลิปสติกยังไม่เปิดใช้มีอายุกี่ปี ?
นอกจากลิปสติกที่สาว ๆ ใช้เป็นประจำแล้ว หลาย ๆ คนคงสงสัยด้วยว่าลิปประเภท จิ้มจุ่ม ลิปบาล์ม ลิปกลอสมีอายุใช้งานกี่ปี เราจึงมีคำตอบมาฝากให้ครบถ้วนดังนี้ค่ะ
- ลิปสติกยังไม่เปิดใช้ สามารถเก็บได้นาน 3 ปี
- ลิปสติกเปิดใช้แล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 2 ปี
- ลิปจิ้มจุ่ม ลิปกลอส ลิปบาล์มยังไม่เปิดใช้ สามารถเก็บได้นาน 3 ปี
- ลิปจิ้มจุ่ม ลิปกลอส ลิปบาล์มเปิดใช้แล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 1 ปี
ลิปสติกหมดอายุใช้ได้ไหม ? ใช้ทำอะไรได้บ้าง ?
คำตอบคือไม่ควรใช้เด็ดขาดค่ะ แม้ยังไม่ได้เปิดใช้แต่เมื่อลิปสติกมีอายุนับจากวันผลิตเกิน 3 ปี สารเคมีบางตัวอาจเปลี่ยนแปลงและเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ แต่ทั้งนี้ สาว ๆ สามารถนำลิปสติกที่หมดอายุแล้วมาแปรรูปเป็นลิปบาล์มและใช้งานต่อได้หายห่วง โดยละลายลิปสติกผ่านความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียสะสมเสียก่อน แล้วผสมปิโตรเลียมเจลลี่ลงไป ก่อนบรรจุลงในตลับเล็ก ๆ ปิดฝาให้มิดชิด เพียงเท่านี้เราก็ได้ลิปบาล์มสีใหม่เอี่ยมมาใช้ โดยไม่ต้องรู้สึกเสียดายของแล้วค่ะ
![ลิปสติก]( "ลิปสติก")
วิธีเก็บรักษาและยืดอายุการใช้งานลิปสติก
- ใช้พู่กันทาปากแทนการทาลิปสติกจากแท่งโดยตรง : เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แบคทีเรียบนปากไปปนเปื้อนในเนื้อลิปสติก เพราะจะทำให้ลิปสติกเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เวลาทาอาจทำให้ปากแห้ง ปากลอก หรือแพ้จนเกิดผื่นรอบริมฝีปากได้
- ทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน : สำหรับสาว ๆ ที่สะดวกทาลิปสติกจากแท่ง ควรใช้กระดาษเปียกที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เช็ดตัวลิปสติกทุกครั้งหลังใช้ หรือถ้าใช้พู่กันก็ควรเช็ดทำความสะอาดให้ดีเช่นเดียวกัน แต่หากใครรู้ตัวว่าแพ้แอลกอฮอล์ แนะนำให้ใช้น้ำเกลือเช็ดแทนจะปลอดภัยมากที่สุดค่ะ
- ย้ายบรรจุภัณฑ์ลิปสติกจากแท่งไปใส่ตลับ : อาจใช้เครื่องมือปลายแหลมควักเนื้อลิปสติกออกมาจากด้ามให้หมด แล้วนำไปใส่ในตลับใหม่ที่ผ่านการเช็ดด้วยแอลกอฮอล์อย่างสะอาดมาแล้ว เพื่อความสะดวกสบายในการใช้พู่กันทาปาก และใช้ลิปสติกได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
- เก็บลิปสติกในที่เย็น : แนะนำให้สาว ๆ เก็บลิปสติกไว้ในตู้เย็นจะดีที่สุด เพราะสารเคมีบางตัวเมื่อเจอความร้อนมาก ๆ เข้า อาจเกิดปฏิกิริยาที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเราได้ สาว ๆ ไม่ควรเก็บลิปสติกไว้ในรถ หรือในกระเป๋าที่มีความร้อนอบอ้าวเด็ดขาดค่ะ
![ลิปสติก]( "ลิปสติก")
เข้าใจแหละว่าเห็นลิปสติกสีใหม่ทีไรก็อดใจไม่ได้ทุกที แต่เวลาช้อปปิ้งก็ควรซื้อแต่พอดี ไม่อย่างนั้นให้เลือกซื้อสีลิปสติกที่สามารถนำไปผสมกับลิปสติกที่มีเป็นสีใหม่ได้ จะได้ไม่สิ้นเปลืองเงินในกระเป๋า แถมเป็นการใช้เครื่องสำอางอย่างคุ้มค่าที่สุดอีกด้วยนะคะคุณสาว ๆ
ข้อมูลจาก : shape.com, bellatory.com
โดยปกติแล้ว ตัวบรรจุภัณฑ์จะมีการระบุวันผลิต MFG. และวันหมดอายุ EXP. เหมือนสินค้าอื่น ๆ ทั่วไป ไม่อย่างนั้นจะใช้เป็นสัญลักษณ์รูปตัว M พร้อมตัวเลข เพื่อบอกระยะเวลาที่ควรใช้ ยกตัวอย่างเช่น 12M เท่ากับมีอายุการใช้งาน 1 ปี หรือ 24M เท่ากับมีอายุการใช้งาน 2 ปี ส่วนใหญ่วันผลิต วันหมดอายุ และสัญลักษณ์ดังกล่าวจะระบุไว้ที่ตัวกล่องหรือด้ามของลิปสติก แต่หากหาไม่เจอจริง ๆ คุณสาว ๆ สามารถใช้ตัวเลขผลิตภัณฑ์ (Batch Code) เข้าไปเช็กในเว็บไซต์ Checkcosmetics เพื่อตรวจสอบวันผลิตและวันหมดอายุได้เลยทันที
รู้วิธีสังเกตวันหมดอายุกันไปแล้ว คราวนี้มาไขข้อข้องใจที่ทุกคนอยากรู้กันค่ะว่า ลิปสติกที่ยังไม่เปิดใช้มีอายุกี่ปี หากลืมจนหมดอายุแล้วนำไปใช้งานอะไรได้บ้าง พร้อมแนะนำเคล็ดลับวิธีรักษาง่าย ๆ ที่สาว ๆ ไม่ควรพลาดเด็ดขาด !
นอกจากลิปสติกที่สาว ๆ ใช้เป็นประจำแล้ว หลาย ๆ คนคงสงสัยด้วยว่าลิปประเภท จิ้มจุ่ม ลิปบาล์ม ลิปกลอสมีอายุใช้งานกี่ปี เราจึงมีคำตอบมาฝากให้ครบถ้วนดังนี้ค่ะ
- ลิปสติกยังไม่เปิดใช้ สามารถเก็บได้นาน 3 ปี
- ลิปสติกเปิดใช้แล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 2 ปี
- ลิปจิ้มจุ่ม ลิปกลอส ลิปบาล์มยังไม่เปิดใช้ สามารถเก็บได้นาน 3 ปี
- ลิปจิ้มจุ่ม ลิปกลอส ลิปบาล์มเปิดใช้แล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 1 ปี
ลิปสติกหมดอายุใช้ได้ไหม ? ใช้ทำอะไรได้บ้าง ?
คำตอบคือไม่ควรใช้เด็ดขาดค่ะ แม้ยังไม่ได้เปิดใช้แต่เมื่อลิปสติกมีอายุนับจากวันผลิตเกิน 3 ปี สารเคมีบางตัวอาจเปลี่ยนแปลงและเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ แต่ทั้งนี้ สาว ๆ สามารถนำลิปสติกที่หมดอายุแล้วมาแปรรูปเป็นลิปบาล์มและใช้งานต่อได้หายห่วง โดยละลายลิปสติกผ่านความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียสะสมเสียก่อน แล้วผสมปิโตรเลียมเจลลี่ลงไป ก่อนบรรจุลงในตลับเล็ก ๆ ปิดฝาให้มิดชิด เพียงเท่านี้เราก็ได้ลิปบาล์มสีใหม่เอี่ยมมาใช้ โดยไม่ต้องรู้สึกเสียดายของแล้วค่ะ
- ใช้พู่กันทาปากแทนการทาลิปสติกจากแท่งโดยตรง : เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แบคทีเรียบนปากไปปนเปื้อนในเนื้อลิปสติก เพราะจะทำให้ลิปสติกเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เวลาทาอาจทำให้ปากแห้ง ปากลอก หรือแพ้จนเกิดผื่นรอบริมฝีปากได้
- ทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน : สำหรับสาว ๆ ที่สะดวกทาลิปสติกจากแท่ง ควรใช้กระดาษเปียกที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เช็ดตัวลิปสติกทุกครั้งหลังใช้ หรือถ้าใช้พู่กันก็ควรเช็ดทำความสะอาดให้ดีเช่นเดียวกัน แต่หากใครรู้ตัวว่าแพ้แอลกอฮอล์ แนะนำให้ใช้น้ำเกลือเช็ดแทนจะปลอดภัยมากที่สุดค่ะ
- ย้ายบรรจุภัณฑ์ลิปสติกจากแท่งไปใส่ตลับ : อาจใช้เครื่องมือปลายแหลมควักเนื้อลิปสติกออกมาจากด้ามให้หมด แล้วนำไปใส่ในตลับใหม่ที่ผ่านการเช็ดด้วยแอลกอฮอล์อย่างสะอาดมาแล้ว เพื่อความสะดวกสบายในการใช้พู่กันทาปาก และใช้ลิปสติกได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
- เก็บลิปสติกในที่เย็น : แนะนำให้สาว ๆ เก็บลิปสติกไว้ในตู้เย็นจะดีที่สุด เพราะสารเคมีบางตัวเมื่อเจอความร้อนมาก ๆ เข้า อาจเกิดปฏิกิริยาที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเราได้ สาว ๆ ไม่ควรเก็บลิปสติกไว้ในรถ หรือในกระเป๋าที่มีความร้อนอบอ้าวเด็ดขาดค่ะ
ข้อมูลจาก : shape.com, bellatory.com
