x close

แจง วราพรรณ เผยชีวิตต่อสู้มะเร็งกว่า 5 ปี เตือนอย่าประมาท

แจง
แจง วราพรรณ หงุ่ยตระกูล


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก รายการคนดังนั่งเคลียร์

          การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ประโยคนี้ได้ใช้ได้ดีกับนักแสดงมากความสามารถ "แจง วราพรรณ หงุ่ยตระกูล" ที่รู้ซึ้งหลังจากสู้กับโรคมะเร็งร้ายมากว่า 5 ปี ถึงขึ้นต้องตัดเต้านมทิ้ง โดย แจง วราพรรณ ขอเปิดใจถึงเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตในรายการคนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 2 เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คนดู

          แจงทราบได้ยังไงว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็ง ?

          "คือไม่ทราบมาก่อนเลย เพราะว่าเราเป็นคนใช้ชีวิตเรื่อย ๆ คิดว่าตัวเองแข็งแรง 5 ปีที่แล้วก็ตรวจสุขภาพทั่วไปขั้นต้นก็ไม่เจอ จนเรามีอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้าย คลำตรงเต้านมแล้วก็เป็นก้อน ก็คิดไปเองว่าคงเดินชนอะไรจนช้ำ ตอนแรกก็จะรอให้หายเอง เราใช้ชีวิตค่อนข้างประมาทเหมือนกัน เรารู้ว่ามีก้อนเนื้อ แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะคอขาดบาดตาย จนต้นปี 52 เจ็บมากก็เลยไปตรวจอย่างจริง ๆ จัง ๆ พบว่าเป็นเนื้อร้าย หมอนั่งกุมขมับ เราก็เริ่มสงสัย ก็ถามหมอไปว่าผลออกมาไม่ดีใช่มั้ยคะ หมอก็ตอบแค่ค่ะ ๆ"

         การที่ถามหมอไปว่าเป็นมะเร็งใช่มั้ย เพราะเราต้องการคำตอบว่าไม่ใช่หรือเปล่า ?

          "เราเองไม่ได้คิดอะไร ขอแค่ว่าฟันธงมาเถอะ เพราะเราก็ไม่ชอบอยู่กับความอึมครึม จริง ๆ บรรยากาศก็บ่งบอกอยู่แล้วว่าเราไม่สบาย เป็นโรคร้ายแน่ ๆ แรกสุดที่รู้คำตอบคือเราดีใจแล้ว สองคิดว่างานเข้าวะต้นปีเลย ไม่เป็นไร ก็คุยกับคุณหมอ ซึ่งคุณหมอน่ารักมาก รีบให้กำลังใจเลยว่ารักษาหาย ตอนนั้นเราเป็นมะเร็งขั้นที่ 2 เช็กจากขนาดของเนื้อร้าย"


แจง
        

         พอรู้ว่าตัวเองเป็นจริง ๆ ก็ต้องศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังใช่มั้ย  ?

          "คือเราพอรู้มาบ้างแล้ว แต่จริง ๆ คนที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม บางครั้งก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บเต้านม อาจจะเป็นแค่ก้อนเนื้อ แต่ก็สามารถเป็นมะเร็งได้ ถ้าเมื่อไหร่ที่เจอก้อนเนื้อก็ควรไปตรวจ อาจจะแก้ไขอะไรได้เร็วขึ้น ซึ่งผู้ชายก็สามารถเป็นได้"

         ตอนหมอบอกเราแอบคิดมั้ยว่าทำไมเราตายเร็วอย่างนี้ ?

          "ขนาดที่รู้ว่าเป็นนี่ ไม่ใช่ว่าเราจะตายตรงนั้น แค่รู้สึกว่างานเข้าว่ะ คน 10 คนเป็นได้ 1 คน หรือ 2 คน เราก็เป็นหนึ่งในนั้น เราก็เป็นไปได้ ใครก็ได้ พอเป็นก็ไม่ได้กลัวตายขนาดนั้น แต่คิดว่าเวลาของเราเหลือน้อยแล้ว คำว่ามะเร็งที่เรารู้กัน คือ เป็นแล้วต้องตาย หรือว่าหายได้ มันคาบเส้นคาบดอกมาก ตอนนั้นคิดว่าเวลาเราเหลือน้อยแล้ว เวลาเป็นสิ่งสำคัญ เราเห็นคุณค่าของเวลาที่เหลือ"


แจง
       

         ตอนที่ฟังผลสามีอยู่ด้วยกันหรือเปล่า ?

          "ตอนไปฟังก็บอกเขาว่าไปด้วยกันขี้เกียจเล่า เราอยากให้เขารู้ไปพร้อมกับเรา หลังจากทราบผลหมอก็บอกเรื่องการรักษา แต่เรายังมีงานก็เลยไปรักษาช้ากว่ากำหนด 2-3 วัน ตอนนั้นมีงานอีเว้นท์ใหญ่ที่พัทยา ซึ่งเราเป็นเจ้าของบริษัทเราก็คิดว่าเราต้องไป หลังเสร็จงานก็เข้าโรงพยาบาลแล้วผ่าตัดเลย หมอถามว่าถ้าผ่าตัดจะตัดออกให้หมดมั้ย เราก็บอกว่าไหน ๆ ก็ผ่าแล้วก็ตัดออกให้หมด จากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็ 5 ปีกว่า"

         เห็นบอกว่าใช้ธรรมะช่วย ?

          "เราเคยไปศึกษาธรรมะมา ตอนที่ไปคุมงานอีเว้นท์ที่พัทยา มันเหมือนว่าง คิดไปเรื่อย ก็ใช้ธรรมะกำหนดรู้ไปว่ามันฟุ้งนะ อยู่กับปัจจุบัน พอไม่มีไรทำมาก ๆ ก็แผ่เมตตา เจ้ากรรมนายเวร เท่าที่เราทำได้ อะไรที่ทำไม่ดีกับใครก็พูดไป"

           ปัจจุบันนี้เราหายร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วใช่มั้ย ?

          "เราก็ถามหมอ หมอบอกว่า ณ จุดนี้หาย ซึ่งเราชอบคำนี้มาก คุณหมอพูดแบบนี้ดี เพราะทำให้เราใช้ชีวิตไม่ประมาทเหมือนเมื่อครั้งก่อน ถ้าคิดว่าหายเราก็จะกลับไปใช้ชีวิตในแบบที่คุณเริงร่า ณ จุดนี้ คือหาย จุดต่อไปไม่รู้นะ มันทำให้เราระวังตัว ชีวิตจากวันนั้นถึงวันนี้ทำให้เรียนรู้ชีวิตมากยิ่งขึ้น"

          ติดตามบทสัมภาษณ์แบบเต็ม ๆ ได้ในรายการคนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 2 ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 7.00/11.00/17.00/20.00/23.00 น.





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แจง วราพรรณ เผยชีวิตต่อสู้มะเร็งกว่า 5 ปี เตือนอย่าประมาท อัปเดตล่าสุด 24 ตุลาคม 2557 เวลา 16:02:39 3,868 อ่าน
TOP